นครศรีธรรมราช - ชาวนครศรีธรรมราช แตกตื่นพบเต่ามะเฟืองยักษ์หนัก 250 กิโลกรัม เผยใหญ่ที่สุดในอ่าวไทย แต่มีอาการบาดเจ็บ ศูนย์ประมงลุ่มน้ำปากพนังเร่งฉีดยาช่วยก่อนมอบศูนย์วิจัยภูเก็ต
นายประลอง ชนะภัย เจ้าพนักงานประมงชำนาญการ ศูนย์พัฒนาประมงลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้รับแจ้งจากชาวประมงว่าพบเต่ายักษ์ไม่ทราบชนิด ลอยอยู่ในทะเลอ่าวไทยในลักษณะเหมือนบาดเจ็บ อยู่ห่างจากฝั่งบ้านหัวถนน-ชายทะเล ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก ประมาณ 50 เมตร จึงพร้อมด้วยนายสุกิจ รันวินิจกุล ผู้อำนวยการศูนย์ประมงพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง พร้อมเจ้าหน้าที่และชาวประมงออกไปตรวจสอบ พบเต่ามะเฟืองยักษ์ ที่มีอาการบาดเจ็บโดยมีรอยขีดข่วน ฉีกขาดบริเวณกระดอง ขา ครีบ และส่วนอื่นๆ ของลำตัวเต่า จึงช่วยกันจับนำเข้าฝั่งเพื่อตรวจสอบและช่วยเหลือต่อไป
จากการตรวจสอบพบว่า เต่าตัวดังกล่าวคือ เต่ามะเฟืองที่มีขนาดใหญ่มาก ยาว 106 ซ.ม. กว้าง 79 ซ.ม. มีน้ำหนักมากถึง 250 กิโลกรัม แม้จะได้รับบาดเจ็บแต่ยังถือว่าเต่ามะเฟืองยักษ์ตัวดังกล่าวยังอยู่ในสภาพที่แข็งแรง เจ้าหน้าที่จึงได้ฉีดยาแก้อักเสบและสมานแผลให้ ก่อนจะแจ้งให้ศูนย์วิจัย ทรัพยากรทางทะเล (ฝั่งอันดามัน) จ.ภูเก็ต มารับเต่ามะเฟืองยักษ์ไปพักฟื้นและนำไปปล่อยคืนธรรมชาติต่อไป
นายสุกิจ รัตนวินิจกุล เปิดเผยว่า เต่ามะเฟื่องเป็นเต่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์เป็นสัตว์คุ้มครองประเภทที่ 1 ที่หายากมาก ส่วนใหญ่มักจะมีถิ่นอาศัยในมหาสมุทรอินเดีย ในประเทศไทยจะพบในทะเลฝั่งอันดามัน ส่วนในทะเลอ่าวไทยพบยากมาก ที่ผ่านมามีการพบเพียงไม่กี่ครั้งที่ จ.ระยอง เมื่อหลายปีก่อน และที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อ 27 พ.ย. 2551 ซึ่งในครั้งนี้ถือว่าเป็นเต่ามะเฟืองขนาดใหญ่ที่สุดที่พบในอ่าวไทย
ในการพบเต่ามะเฟืองยักษ์ครั้งนี้ ชาวประมงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปตรวจสอบนำกลับเข้าฝั่ง หากไม่ได้รับการช่วยเหลือเต่ามะเฟืองยักษ์ตัวนี้อาจจะได้รับอันตรายและเสียชีวิตได้ จึงนับว่าโชคดีมากที่ชาวประมงพบก่อนที่เต่ายักษ์ตัวนี้จะเป็นอะไรไปเสียก่อน
“ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ฉีดยาแก้อักเสบและสมานแผลให้ ซึ่งจะทำให้แผลและรอยขีดข่วนหายในเวลาไม่กี่วัน พร้อมแจ้งให้ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล (ฝั่งอันดามัน) จ.ภูเก็ต มารับเต่าไปดูแลพักฟื้นต่อไปโดยคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเต่ามะเฟืองยักษ์ตัวนี้จะหายเป็นปกติสามารถนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป”
ด้าน นายประลอง ชนะภัย กล่าวว่า เต่ามะเฟืองนี้จะมีลักษณะกระดองแตกต่างไปจากเต่าชนิดอื่นๆ โดยกระดองมีลักษณะเป็นหนังหนาๆ นิ่มๆ ไม่เป็นเกล็ดแข็ง มีรูปทรงยาวรี มีแนวสันนูนตามแนวยาวคล้ายผลมะเฟือง สันบนหลังมี 6 แถว ยาวตลอดลำตัวด้านท้องมี 5 แถว ลำตัวมีสีดำจุดขาว เต่ามะเฟืองกินพืช แมงกะพรุน และสัตว์น้ำขนาดเล็กเป็นอาหาร วิเคราะห์ตามสถานการณ์ที่พบเต่ามะเฟืองยักษ์ในฝั่งอ่าวไทยตัวนี้แล้ว เชื่อว่าเต่ามะเฟืองยักษ์ตัวนี้ไม่น่าจะมาอาศัยในอ่างไทยตามธรรมชาติ แต่คงจะเป็นเต่าที่อาศัยอยู่ในทะเลฝั่งอันดามัน การที่พบในอ่าวไทยคงเป็นฝีมือมนุษย์มากกว่า
ทั้งนี้ อาจจะมีคนในเรือประมงหรือถูกเรือบรรทุกสินค้าพบเห็นจึงจับมันขึ้นมาบนเรือ เมื่อมาถึงฝั่งอ่าวไทยอาจจะพบเจ้าหน้าที่หรือเกรงกลัวความผิดจึงนำมันปล่อยลงทะเลอ่าวไทย มันจึงว่ายหลงทางไปเรื่อยๆ จนมาถึงฝั่ง อ.ปากพนังดังกล่าว ล่าสุดทางศูนย์พัฒนาประมงปากพนัง ได้รับแจ้งจากศูนย์วิจัยทรัพยากรชายทะเล จ.ภูเก็ต ว่าจะส่งเจ้าหน้าที่เดินทางมารับเต่ามะเฟืองยักษ์ตัวดังกล่าวไปดูแลพักฟื้นที่ศูนย์วิจัย จ.ภูเก็ต ในวันนี้ (27 ก.ย.)