xs
xsm
sm
md
lg

ระวัง !! เกมแรง “ทักษิณ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


การทุ่มเทแบบนี้ทำให้หลายคนแอบประเมินกันว่ามันน่ากลัว เหมือนเป็นการ “จงใจ” ทำบางสิ่งบางอย่างแน่นอน เพราะดูตามสถานการณ์ทั่วไปไม่ว่ามองในมุมไหนก็ไม่มีเหตุผลหรือเงื่อนไขรองรับการเคลื่อนไหวชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงได้เลยแม้แต่น้อย

หากนับตารางเวลาถือว่าวันนี้ (25 มีนาคม) เป็นวันสุกดิบก่อนถึงดีเดย์ชุมนุมใหญ่ของ กลุ่ม “คนเสื้อแดง” ในวันที่ 26 มีนาคม โดยระบุว่า เป็นการยกระดับการชุมนุมมาเป็นขับไล่รัฐบาลอย่างเต็มตัว ทำให้ต้องรอดูว่าจะมีจำนวนคนเสื้อแดงเข้าร่วมมากน้อยเท่าใด

จากการประเมินความเคลื่อนไหวล่าสุดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งบัดนี้ถือว่า เป็นหัวหน้าม็อบอย่างเต็มตัวแล้ว เนื่องจากทำหน้าที่ “ปลุกระดม” ด้วยตัวเอง สังเกตจากการโฟนอิน หรือวีดิโอลิงก์ เข้ามาทุกเวทีในหลายจังหวัด

เป้าหมายสำคัญนอกจากโจมตีบุคคลสำคัญในบ้านเมือง ทั้งองคมนตรี ศาล ผู้นำกองทัพ กล่าวหาว่าร่วมมือกันโค่นล้มให้ต้องพ้นอำนาจ หรือแม้กระทั่งวางแผนกันลอบสังหาร ขณะเดียวกันยังปลุกเร้าให้ร่วมกันต่อสู้ โดยให้ระดมกำลังเข้ามาในกรุงเทพมหานครให้มากที่สุด

ไม่ว่าจะเข้าสายโฟนอินกี่ครั้ง เขาก็มักจะเน้นย้ำว่าให้ไปรวมตัวกันที่กรุงเทพฯในนวันที่ 26 มีนาคม จากนั้นก็ยังมีคิวเปิดโปงบุคคลสำคัญ เผยตัวละครออกมาอีกชุดใหญ่ในวันถัดมา คือวันที่ 27 มีนาคม เปิดเกมยั่วยุให้ถึงขีดสุด

เมื่อประเมินจากความเคลื่อนไหวดังกล่าวทุกคนย่อมมองออกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังเปิดหน้าชกอย่างเต็มตัว ไม่มีการออมแรง หรือไว้เชิงอีกต่อไป อาจจะเป็นเพราะรู้ตัวดีว่า หากปล่อยให้เวลาทอดนานออกไปเรื่อยๆ ตัวเองก็ยิ่งอ่อนล้า

นานวันยิ่งหันไปพึ่งพาใครไม่ได้

พิสูจน์ให้เห็นชัดๆ จากศึกซักฟอกที่เพิ่งผ่านพ้นไป นอกจากไม่สามารถระคายผิวฝ่ายรัฐบาล หรือตัวนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เลย แม้กระทั่ง กษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่เคยคิดว่าจะสร้างอารมณ์ร่วมจนขย่มรัฐบาลได้ แต่ก็ผิดคาด ผลออกมาในทางตรงกันข้าม ผลสำรวจออกมาทำนองเดียวกันคือ สังคมยังให้โอกาสทำงานต่อไป ไม่จำเป็นต้องปรับคณะรัฐมนตรี

มิหนำซ้ำยังเกิดกลุ่ม “งูเห่า” โหวตสวนมติพรรคเพื่อไทยให้เจ็บกระดองใจอีกต่างหาก

เมื่อแนวโน้มออกมาแบบนี้ มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะต้องออกโรงเอง ลุ้นเกมป่วนนอกสภาเท่านั้น งัดทุกสรรพกำลังเท่าที่ยังเหลืออยู่ ลุยเต็มเหนี่ยว วัดขุมกำลังส่วนตัวล้วนๆ

การทุ่มเทแบบนี้ ทำให้หลายคนแอบประเมินกันว่ามันน่ากลัว เหมือนเป็นการ “จงใจ” ทำบางสิ่งบางอย่างแน่นอน เพราะดูตามสถานการณ์ทั่วไป ไม่ว่ามองในมุมไหนก็ไม่มีเหตุผลหรือเงื่อนไขรองรับการเคลื่อนไหวชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงได้เลยแม้แต่น้อย


แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามองในมุมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องเข้าใจว่าจำเป็นต้อง “เร่งเครื่อง” เพราะถ้ายังขืน “เอ้อระเหยลอยชาย” ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไปเรื่อยๆ มันก็ยิ่งเข้าเนื้อ ขาดทุนป่นปี้

ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากคำพูดในช่วงสัปดาห์หลังสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวหา โจมตีบุคคลสำคัญ โดยเฉพาะองคมนตรี ศาล ซึ่งถ้ามองอย่างพินิจพิเคราะห์ให้ดีแล้วจะพบว่ามีเป้าหมาย “เหนือ” ไปกว่านั้น และที่ผ่านมาก็ได้กล่าวเน้นย้ำในเรื่อง พระราชทานภัยโทษบ่อยครั้ง มันก็ส่อนัยยะได้ชัดเจน

การกล่าวหาข้างเดียวแบบนี้แม้ว่าจริงเท็จอย่างไรไม่มีใครรู้ ยังพิสูจน์ไม่ได้ในเวลารวบรัด แต่รับรองว่า ได้สร้างความเกลียดชังให้กับกลุ่มผู้สนับสนุนมากขึ้นเป็นทวีคูณ จนสร้างอารมณ์ร่วมให้กับมวลชนที่ระดมกันเข้ามาได้เป็นอย่างดี

ขณะเดียวกันหากมองในฝั่งของรัฐบาลเกี่ยวกับมาตรการรับมือภาพที่ปรากฏให้เห็น ดูแล้วยังไม่ค่อยเข้มข้นเท่าใดนัก ขนาดรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง สุเทพ เทือกสุบรรณ ยังบอกว่าให้ประชาชนใช้วิจารณญาณเอาเอง หรือแม้กระทั่งหน่วยงานความมั่นคงอื่นๆ ก็ออกมา “ตั้งรับ” ในรูปแบบเดิมๆ นั่นคือการระวังมือที่ 3 ที่จะก่อเหตุ

อย่างไรก็ดี จากคำพูดและท่าทีดังกล่าวขอให้เป็นในลักษณะ ลับ-ลวง-พราง เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามได้ตายใจ เพราะถ้าไม่ใช่ ถือว่าอันตรายอย่างยิ่ง

เนื่องจากประเมินจากคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่หลุดออกมาบอกว่า “ผมพร้อมที่นำประชาชนออกมาปะทะกับทหาร” นับว่าเป็นสัญญาณอันตราย ต้องการเล่นเกมแรงเพื่อเร่งให้เกิดความปั่นป่วน เพื่อหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเร็ว

ดังนั้น ตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไปอย่ากระพริบตาเป็นอันขาด และต้องรู้เท่าทัน !!
กำลังโหลดความคิดเห็น