ศูนย์ข่าวเก็ต - เผยจังหวัดภูเก็ต มีปัญหาการร้องเรียนเรื่องการซื้อขายบ้านและที่ดินสูง สั่งจับตาดูผู้ประกอบการเอาเปรียบผู้บริโภค
นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต วันนี้ (23 ก.ย.) ถึงปัญหาการร้องเรียนของประชาชนเกี่ยวกับการไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ ว่า ในปีงบประมาณ 2552 สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดภูเก็ตได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคเกี่ยวกับการซื้อบ้านและที่ดินจำนวน 22 เรื่อง, การเช่าซื้อรถยนต์จำนวน 3 เรื่อง, สินค้าและบริการจำนวน 10 เรื่อง ซึ่งเรื่องที่ร้องเรียนเข้ามานั้นทางคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสามารถยุติเรื่องได้แล้วจำนวน 2 เรื่อง และอยู่ระหว่างการดำเนินการจำนวน 14 เรื่อง โดยสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยให้ผู้บริโภคได้รับเงินคืนจำนวนเงิน 1,180,000 บาทเศษ
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนหรือถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ ทางจังหวัดภูเก็ต ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคปะจำจังหวัดภูเก็ตช่วยกันสอดส่องพฤติการณ์ของผู้ประกอบธุรกิจที่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค
โดยเฉพาะเกี่ยวกับการซื้อที่ดินแล้วไม่ได้รับการโอนกรรมสิทธิ์หลังจากการทำสัญญาและผ่อนชำระเป็นระยะเวลาหนึ่ง หรือชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีการร้องเรียนขอความเป็นธรรมเข้ามาจำนวนมาก
นายสมิทธิ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาเรื่องของการซื้อขายที่ดินนั้นอยากให้ประชาชนที่ต้องการ ซื้อบ้านหรือที่ดินให้ตรวจสอบความถูกต้องกับสำนักงานที่ดิน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเพื่อความปลอดภัยและลดการสูญเสียทรัพย์สินในอนาคต
นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต วันนี้ (23 ก.ย.) ถึงปัญหาการร้องเรียนของประชาชนเกี่ยวกับการไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ ว่า ในปีงบประมาณ 2552 สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดภูเก็ตได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคเกี่ยวกับการซื้อบ้านและที่ดินจำนวน 22 เรื่อง, การเช่าซื้อรถยนต์จำนวน 3 เรื่อง, สินค้าและบริการจำนวน 10 เรื่อง ซึ่งเรื่องที่ร้องเรียนเข้ามานั้นทางคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสามารถยุติเรื่องได้แล้วจำนวน 2 เรื่อง และอยู่ระหว่างการดำเนินการจำนวน 14 เรื่อง โดยสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยให้ผู้บริโภคได้รับเงินคืนจำนวนเงิน 1,180,000 บาทเศษ
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนหรือถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ ทางจังหวัดภูเก็ต ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคปะจำจังหวัดภูเก็ตช่วยกันสอดส่องพฤติการณ์ของผู้ประกอบธุรกิจที่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค
โดยเฉพาะเกี่ยวกับการซื้อที่ดินแล้วไม่ได้รับการโอนกรรมสิทธิ์หลังจากการทำสัญญาและผ่อนชำระเป็นระยะเวลาหนึ่ง หรือชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีการร้องเรียนขอความเป็นธรรมเข้ามาจำนวนมาก
นายสมิทธิ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาเรื่องของการซื้อขายที่ดินนั้นอยากให้ประชาชนที่ต้องการ ซื้อบ้านหรือที่ดินให้ตรวจสอบความถูกต้องกับสำนักงานที่ดิน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเพื่อความปลอดภัยและลดการสูญเสียทรัพย์สินในอนาคต