ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นายกสมาคมโรงแรมหาดป่าตองชี้ปัญหาเจ็ตสกีเอาเปรียบนักท่องเที่ยวยังไม่กระทบในระยะสั้น แต่วอนผู้ประกอบการในพื้นที่อย่าทุบหม้อข้าวตนเอง เพราะเกรงในระยะยาวจะเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองป่าตองได้
นายแพทย์จิระชัย อมรไพโรจน์ นายกสมาคมโรงแรมหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต กล่าวถึงปัญหาเจ็ตสกีข่มขู่ เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวในพื้นที่หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตว่า ปัญหาการเอารัดเปรียบนักท่องเที่ยวของผู้ประกอบการเจ็ตสกีและรถเช่าในหาดป่าตอง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง กรณีการขู่กรรโชก เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวหรือการเรียกร้องค่าเสียหายเกินจริงเป็นเรื่องที่ตนคิดว่านักท่องเที่ยวเขาเองก็รู้ว่า กรณีที่เกิดเหตุเขาควรจะเสียค่าเสียหายราคาใดที่เหมาะสม
การที่ผู้ประกอบการไปเรียกร้องราคาเกินจริงนั้น อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวมองว่าภูเก็ต หรือประเทศไทยเป็นเมืองเอาเปรียบนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งจะส่งผลให้ภาพลักษณ์โดยรวมเสียหายไปด้วย
ทั้งนี้ เหตุการณ์การร้องเรียนเรื่องผู้ประกอบการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเกิดบ่อยครั้งโดยเฉพาะที่หาดป่าตอง ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนควรจะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว
นายแพทย์จิระชัยกล่าวต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวไม่ว่าปัญหาอะไรก็ตาม อยากให้มองว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาถือเป็นแขกของประเทศไทยเราควรดูแลเขาให้ดี ทำอะไรให้ตรงไปตรงมาดีกว่า กรณีที่เขาทำสิ่งของต่างๆเสียหาย ก็ให้คิดตามความเป็นจริงอย่าไปเอารัดเอาเปรียบเขา เช่นคิดค่าเสียหายเกินจริง จะทำอะไรก็ให้สมเหตุสมผลเพื่อให้การท่องเที่ยวของเราอยู่ได้แบบยั่งยืน เพราะถ้าเราทำอะไรที่ไม่ดีก็เท่ากับเราทุบหม้อข้าวเราเอง
ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นและเป็นข่าวดังไปทั่วโลก นายแพทย์จิระชัยกล่าวว่า ในระยะสั้นยังไม่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของหาดป่าตองที่ชัดเจน ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีผลกระทบอะไรบ้างแล้ว ต่างกับกรณีม๊อบที่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทย ประเทศต่างๆเขาก็ห้ามและเตือนนักท่องเที่ยวของเขาให้หลีกเลี่ยงในการมาเที่ยวเมืองไทย ซึ่งจะเห็นชัดเจนว่าอัตราการจองห้องพักของโรงแรมในหาดป่าตองลดฮวบทันที
ส่วนกรณีเรื่องเจ็ตสกี ตนมองว่าเป็นเรื่องเฉพาะรายเฉพาะบุคคล ผลกระทบต่อการท่องเที่ยวจึงไม่ชัดเจนมากนัก แต่ก็คาดว่าจะมีผลในระยะยาว
ในส่วนของทางสมาคมเองก็ได้มีหารือพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และหาแนวทางในการร่วมแก้ไขปัญหา เท่าที่ทราบจังหวัดและทางตำรวจพยายามที่จะเข้ามาแก้ไขโดยการไม่ให้นักท่องเที่ยวเดือดร้อน โดยให้บรรดาเจ็ตสกีทำประกันภัยกับบริษัทประกัน ซึ่งตนเองว่าถือเป็นเรื่องที่ดีมากหากทำเช่นนั้นได้ แต่คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ เพราะตนเชื่อว่ามีเหตุผลลึกๆ ที่อาจทำไม่สำเร็จ แต่ก็พยายามเอาใจช่วย
นายแพทย์จิระชัย อมรไพโรจน์ นายกสมาคมโรงแรมหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต กล่าวถึงปัญหาเจ็ตสกีข่มขู่ เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวในพื้นที่หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตว่า ปัญหาการเอารัดเปรียบนักท่องเที่ยวของผู้ประกอบการเจ็ตสกีและรถเช่าในหาดป่าตอง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง กรณีการขู่กรรโชก เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวหรือการเรียกร้องค่าเสียหายเกินจริงเป็นเรื่องที่ตนคิดว่านักท่องเที่ยวเขาเองก็รู้ว่า กรณีที่เกิดเหตุเขาควรจะเสียค่าเสียหายราคาใดที่เหมาะสม
การที่ผู้ประกอบการไปเรียกร้องราคาเกินจริงนั้น อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวมองว่าภูเก็ต หรือประเทศไทยเป็นเมืองเอาเปรียบนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งจะส่งผลให้ภาพลักษณ์โดยรวมเสียหายไปด้วย
ทั้งนี้ เหตุการณ์การร้องเรียนเรื่องผู้ประกอบการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเกิดบ่อยครั้งโดยเฉพาะที่หาดป่าตอง ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนควรจะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว
นายแพทย์จิระชัยกล่าวต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวไม่ว่าปัญหาอะไรก็ตาม อยากให้มองว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาถือเป็นแขกของประเทศไทยเราควรดูแลเขาให้ดี ทำอะไรให้ตรงไปตรงมาดีกว่า กรณีที่เขาทำสิ่งของต่างๆเสียหาย ก็ให้คิดตามความเป็นจริงอย่าไปเอารัดเอาเปรียบเขา เช่นคิดค่าเสียหายเกินจริง จะทำอะไรก็ให้สมเหตุสมผลเพื่อให้การท่องเที่ยวของเราอยู่ได้แบบยั่งยืน เพราะถ้าเราทำอะไรที่ไม่ดีก็เท่ากับเราทุบหม้อข้าวเราเอง
ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นและเป็นข่าวดังไปทั่วโลก นายแพทย์จิระชัยกล่าวว่า ในระยะสั้นยังไม่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของหาดป่าตองที่ชัดเจน ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีผลกระทบอะไรบ้างแล้ว ต่างกับกรณีม๊อบที่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทย ประเทศต่างๆเขาก็ห้ามและเตือนนักท่องเที่ยวของเขาให้หลีกเลี่ยงในการมาเที่ยวเมืองไทย ซึ่งจะเห็นชัดเจนว่าอัตราการจองห้องพักของโรงแรมในหาดป่าตองลดฮวบทันที
ส่วนกรณีเรื่องเจ็ตสกี ตนมองว่าเป็นเรื่องเฉพาะรายเฉพาะบุคคล ผลกระทบต่อการท่องเที่ยวจึงไม่ชัดเจนมากนัก แต่ก็คาดว่าจะมีผลในระยะยาว
ในส่วนของทางสมาคมเองก็ได้มีหารือพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และหาแนวทางในการร่วมแก้ไขปัญหา เท่าที่ทราบจังหวัดและทางตำรวจพยายามที่จะเข้ามาแก้ไขโดยการไม่ให้นักท่องเที่ยวเดือดร้อน โดยให้บรรดาเจ็ตสกีทำประกันภัยกับบริษัทประกัน ซึ่งตนเองว่าถือเป็นเรื่องที่ดีมากหากทำเช่นนั้นได้ แต่คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ เพราะตนเชื่อว่ามีเหตุผลลึกๆ ที่อาจทำไม่สำเร็จ แต่ก็พยายามเอาใจช่วย
