ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – สำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ สำรวจความคิดเห็นพฤติกรรมของ เยาวชน 14 จังหวัดภาคใต้พบว่าเยาวชนภาคใต้ต่อต้านการขายบริการทางเพศของนักเรียนนักศึกษาพร้อมทั้งได้ชมรัฐบาลในเรื่องการแก้ปัญหาละเมิดสิทธิเด็กได้เป็นอย่างดี อีกทั้งอาชีพที่ใฝ่ฝันส่วนใหญ่ของเยาวชนคืออาชีพครู
วันนี้ (17 ก.ย.) หาดใหญ่โพล โดยสำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ สำรวจความคิดเห็นพฤติกรรมของ เยาวชน 14 จังหวัดภาคใต้ เนื่องในวันเยาวชนวันที่ 20 กันยายน 2552 โดยกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจครั้งนี้เป็นเยาวชนใน 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 1,197 คน ระหว่างวันที่ 12-15 กันยายน 2552 สรุปผลการสำรวจ ดังนี้
สรุปผลการสำรวจจากผลการสำรวจความคิดเห็นของเยาวชนใน 14 จังหวัดภาคใต้เกี่ยวกับพฤติกรรมทางลบของเยาวชน พบว่า เยาวชนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมทางลบเกี่ยวกับการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ออนไลน์มากที่สุดคิดเป็น ร้อยละ 46.64 รองลงมาเป็นการดูภาพรุกเร้าจากสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์/CD/DVD และมือถือ (ร้อยละ 30.25) การเที่ยวสถานบันเทิง เช่น ผับ บาร์ (ร้อยละ 24.79) การทะเลาะวิวาท (ร้อยละ 24.79) และการมีคู่รักทาง Internet (ร้อยละ 24.12)
ส่วนพฤติกรรมทางลบที่มีการประพฤติปฏิบัติน้อยที่สุดเป็นการทะเลาะแย่งคนรัก (ร้อยละ 2.35) การเข้าร่วมสังสรรค์ยาเสพติด (ร้อยละ 4.37) และการเที่ยวสถานบริการ (ร้อยละ 10.59) ตามลำดับ เมื่อถามถึงกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่เยาวชนกระทำในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา พบว่า เยาวชนส่วนใหญ่ (ร้อยละ 41.93) ทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ด้วยการช่วยเหลือพ่อแม่ทำงาน รองลงมาเป็นกิจกรรมการหารายได้เพื่อช่วยเหลือครอบครัว (ร้อยละ 32.63) การทำบุญบริจาคทาน (ร้อยละ 32.10) และการทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ (ร้อยละ 28.15)
เมื่อสอบถามถึงพฤติกรรมการใช้ยาเสพติดหรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เยาวชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 51.44 ระบุว่า เคยประพฤติ มีเพียงร้อยละ 46.89 ที่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและของมึนเมา และไม่ระบุ ร้อยละ 1.67 โดยพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งเสพติดที่เยาวชนประพฤติ ส่วนใหญ่ได้แก่ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ (ร้อยละ 39.75) รองลงมาเป็นการสูบบุหรี่ (ร้อยละ 20.50) เพราะเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องปกติทางสังคม
สำหรับสิ่งเสพติดที่มีการเสพส่วนใหญ่เป็นกัญชา (ร้อยละ 5.97) รองลงมาเป็นการดื่มเครื่องดื่มผสมยาแก้ไอกับโค้ก (ร้อยละ 2.44) ยาบ้า (ร้อยละ 2.02) เสพกาว/ทินเนอร์ (ร้อยละ 0.76)
เมื่อถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนเยาวชนส่วนใหญ่ (ร้อยละ 87.39) เห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและไม่ควรกระทำ โดยให้เหตุผลว่าทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดโรคมากที่สุด (ร้อยละ 39.53) รองลงมาทำให้เกิดปัญหาการทำแท้งและการทิ้งเด็ก (ร้อยละ 39.33) และไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมของไทย (ร้อยละ 20.47)
มีเพียง (ร้อยละ 12.61) เท่านั้นที่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่เหมาะสม โดยให้เหตุผลว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล (ร้อยละ 73.99) รองลงมาเป็นการเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพของสังคมปัจจุบัน (ร้อยละ 22.64) เมื่อสอบถามพฤติกรรมการขายบริการของนักเรียน/นักศึกษาเพื่อนำเงินมาซื้อสินค้าแบรนด์เนม เยาวชนส่วนใหญ่ (ร้อยละ 90.42) ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าสินค้านแบรนด์เนมเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น และควรใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียง มีเพียง (ร้อยละ 9.58) เท่านั้นที่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าเป็นสิทธิของบุคคล
เมื่อสอบถามถึงปัญหาที่ต้องการให้รัฐบาลแก้ไขอย่างเร่งด่วน เยาวชนส่วนใหญ่ (ร้อยละ 28.15) ต้องการให้รัฐบาลปัญหายาเสพติดมากที่สุด รองลงมาเป็นปัญหาการก่ออาชญากรรมของเยาวชน (ร้อยละ 19.75) และปัญหาการขายบริการของเยาวชน (ร้อยละ 8.74)
รวมถึงแนวทางที่สามารถนำมาใช้ในการแก้ปัญหา พบว่า เยาวชนส่วนใหญ่เห็นว่าควรควรแก้ปัญหาด้วยการใช้มาตรการที่เด็ดขาดและกำหนดโทษขั้นสูงสุดแก่เยาวชนที่กระทำผิด ร้อยละ 24.95 รองลงมาเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนได้รับการศึกษาที่สูงขึ้น ร้อยละ 24.71 และการกำหนดให้ผู้ปกครองได้รับโทษเมื่อเยาวชนกระทำผิด (ร้อยละ 17.39) ลดการเสนอข้อมูล/พฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรง (ร้อยละ 13.87)
เยาวชนประเมินให้คะแนนการแก้ปัญหาเกี่ยวกับเยาวชนของรัฐบาลในแต่ละประเด็น (เต็ม 10 คะแนน) พบว่า เยาวชนให้คะแนนประเด็นการการแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิ์ของเด็กและเยาวชน 8.47 คะแนน รองลงมาเป็นการจัดการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชน 8.28 คะแนน การทะเลาะวิวาทของเยาวชน 7.96 คะแนน แก้ปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน 7.83 คะแนน การก่ออาชญากรรมของเยาวชน 6.83 คะแนน
ส่วนปัญหาที่ทำให้เยาชนเกิดความเครียดมากที่สุดในช่วง 2 เดือนที่มาผ่านมาเยาวชนส่วนใหญ่ มีความเครียดที่เกิดจากการเรียน (ร้อยละ 37.98) รองลงมาเป็นปัญหาความรัก (ร้อยละ 15.71) ปัญหาสุขภาพ (ร้อยละ 7.48)
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เยาวชนต้องการให้พ่อ/แม่หรือบุคคลใกล้ชิดเลิกประพฤติมากที่สุด คือ การเลิกสูบบุหรี่ คิดเป็นร้อยละ 40.42 รองลงมาเป็น การเลิกเหล้า (ร้อยละ 33.86) และการทะเลาวิวาททำร้ายร่างกาย (ร้อยละ 9.66)
ส่วนอาชีพที่เยาวชนใฝ่ฝันที่จะประกอบอาชีพมากที่สุดอันดับแรกยังคงเป็นอาชีพแม่พิมพ์ของชาติ คิดเป็นร้อยละ 27.97 รองลงมาเป็นนักการเมือง (ร้อยละ 15.56) ตำรวจ/ทหาร(ร้อยละ 14.96) แพทย์พยาบาล (ร้อยละ 12.35) นักวิทยาศาสตร์ (ร้อยละ 7.56) และนักร้อง/นักแสดง (ร้อยละ 5.80) และอื่น ๆ เช่น วิศวกรรม นักวิจัย (ร้อยละ 11.18)
วันนี้ (17 ก.ย.) หาดใหญ่โพล โดยสำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ สำรวจความคิดเห็นพฤติกรรมของ เยาวชน 14 จังหวัดภาคใต้ เนื่องในวันเยาวชนวันที่ 20 กันยายน 2552 โดยกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจครั้งนี้เป็นเยาวชนใน 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 1,197 คน ระหว่างวันที่ 12-15 กันยายน 2552 สรุปผลการสำรวจ ดังนี้
สรุปผลการสำรวจจากผลการสำรวจความคิดเห็นของเยาวชนใน 14 จังหวัดภาคใต้เกี่ยวกับพฤติกรรมทางลบของเยาวชน พบว่า เยาวชนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมทางลบเกี่ยวกับการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ออนไลน์มากที่สุดคิดเป็น ร้อยละ 46.64 รองลงมาเป็นการดูภาพรุกเร้าจากสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์/CD/DVD และมือถือ (ร้อยละ 30.25) การเที่ยวสถานบันเทิง เช่น ผับ บาร์ (ร้อยละ 24.79) การทะเลาะวิวาท (ร้อยละ 24.79) และการมีคู่รักทาง Internet (ร้อยละ 24.12)
ส่วนพฤติกรรมทางลบที่มีการประพฤติปฏิบัติน้อยที่สุดเป็นการทะเลาะแย่งคนรัก (ร้อยละ 2.35) การเข้าร่วมสังสรรค์ยาเสพติด (ร้อยละ 4.37) และการเที่ยวสถานบริการ (ร้อยละ 10.59) ตามลำดับ เมื่อถามถึงกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่เยาวชนกระทำในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา พบว่า เยาวชนส่วนใหญ่ (ร้อยละ 41.93) ทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ด้วยการช่วยเหลือพ่อแม่ทำงาน รองลงมาเป็นกิจกรรมการหารายได้เพื่อช่วยเหลือครอบครัว (ร้อยละ 32.63) การทำบุญบริจาคทาน (ร้อยละ 32.10) และการทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ (ร้อยละ 28.15)
เมื่อสอบถามถึงพฤติกรรมการใช้ยาเสพติดหรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เยาวชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 51.44 ระบุว่า เคยประพฤติ มีเพียงร้อยละ 46.89 ที่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและของมึนเมา และไม่ระบุ ร้อยละ 1.67 โดยพฤติกรรมเกี่ยวกับสิ่งเสพติดที่เยาวชนประพฤติ ส่วนใหญ่ได้แก่ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ (ร้อยละ 39.75) รองลงมาเป็นการสูบบุหรี่ (ร้อยละ 20.50) เพราะเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องปกติทางสังคม
สำหรับสิ่งเสพติดที่มีการเสพส่วนใหญ่เป็นกัญชา (ร้อยละ 5.97) รองลงมาเป็นการดื่มเครื่องดื่มผสมยาแก้ไอกับโค้ก (ร้อยละ 2.44) ยาบ้า (ร้อยละ 2.02) เสพกาว/ทินเนอร์ (ร้อยละ 0.76)
เมื่อถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนเยาวชนส่วนใหญ่ (ร้อยละ 87.39) เห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและไม่ควรกระทำ โดยให้เหตุผลว่าทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดโรคมากที่สุด (ร้อยละ 39.53) รองลงมาทำให้เกิดปัญหาการทำแท้งและการทิ้งเด็ก (ร้อยละ 39.33) และไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมของไทย (ร้อยละ 20.47)
มีเพียง (ร้อยละ 12.61) เท่านั้นที่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่เหมาะสม โดยให้เหตุผลว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล (ร้อยละ 73.99) รองลงมาเป็นการเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพของสังคมปัจจุบัน (ร้อยละ 22.64) เมื่อสอบถามพฤติกรรมการขายบริการของนักเรียน/นักศึกษาเพื่อนำเงินมาซื้อสินค้าแบรนด์เนม เยาวชนส่วนใหญ่ (ร้อยละ 90.42) ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าสินค้านแบรนด์เนมเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น และควรใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียง มีเพียง (ร้อยละ 9.58) เท่านั้นที่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าเป็นสิทธิของบุคคล
เมื่อสอบถามถึงปัญหาที่ต้องการให้รัฐบาลแก้ไขอย่างเร่งด่วน เยาวชนส่วนใหญ่ (ร้อยละ 28.15) ต้องการให้รัฐบาลปัญหายาเสพติดมากที่สุด รองลงมาเป็นปัญหาการก่ออาชญากรรมของเยาวชน (ร้อยละ 19.75) และปัญหาการขายบริการของเยาวชน (ร้อยละ 8.74)
รวมถึงแนวทางที่สามารถนำมาใช้ในการแก้ปัญหา พบว่า เยาวชนส่วนใหญ่เห็นว่าควรควรแก้ปัญหาด้วยการใช้มาตรการที่เด็ดขาดและกำหนดโทษขั้นสูงสุดแก่เยาวชนที่กระทำผิด ร้อยละ 24.95 รองลงมาเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนได้รับการศึกษาที่สูงขึ้น ร้อยละ 24.71 และการกำหนดให้ผู้ปกครองได้รับโทษเมื่อเยาวชนกระทำผิด (ร้อยละ 17.39) ลดการเสนอข้อมูล/พฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรง (ร้อยละ 13.87)
เยาวชนประเมินให้คะแนนการแก้ปัญหาเกี่ยวกับเยาวชนของรัฐบาลในแต่ละประเด็น (เต็ม 10 คะแนน) พบว่า เยาวชนให้คะแนนประเด็นการการแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิ์ของเด็กและเยาวชน 8.47 คะแนน รองลงมาเป็นการจัดการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชน 8.28 คะแนน การทะเลาะวิวาทของเยาวชน 7.96 คะแนน แก้ปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน 7.83 คะแนน การก่ออาชญากรรมของเยาวชน 6.83 คะแนน
ส่วนปัญหาที่ทำให้เยาชนเกิดความเครียดมากที่สุดในช่วง 2 เดือนที่มาผ่านมาเยาวชนส่วนใหญ่ มีความเครียดที่เกิดจากการเรียน (ร้อยละ 37.98) รองลงมาเป็นปัญหาความรัก (ร้อยละ 15.71) ปัญหาสุขภาพ (ร้อยละ 7.48)
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เยาวชนต้องการให้พ่อ/แม่หรือบุคคลใกล้ชิดเลิกประพฤติมากที่สุด คือ การเลิกสูบบุหรี่ คิดเป็นร้อยละ 40.42 รองลงมาเป็น การเลิกเหล้า (ร้อยละ 33.86) และการทะเลาวิวาททำร้ายร่างกาย (ร้อยละ 9.66)
ส่วนอาชีพที่เยาวชนใฝ่ฝันที่จะประกอบอาชีพมากที่สุดอันดับแรกยังคงเป็นอาชีพแม่พิมพ์ของชาติ คิดเป็นร้อยละ 27.97 รองลงมาเป็นนักการเมือง (ร้อยละ 15.56) ตำรวจ/ทหาร(ร้อยละ 14.96) แพทย์พยาบาล (ร้อยละ 12.35) นักวิทยาศาสตร์ (ร้อยละ 7.56) และนักร้อง/นักแสดง (ร้อยละ 5.80) และอื่น ๆ เช่น วิศวกรรม นักวิจัย (ร้อยละ 11.18)