xs
xsm
sm
md
lg

ยะลาพบเด็กพิการสามขา หัวโต ระบุเพศไม่ได้ หมอบอกโอกาสรอดน้อย แต่ยื้อชีวิตให้ถึงที่สุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา - โรงพยาบาลศูนย์ยะลาพบเด็กพิการมีสามขา หัวโต ไม่สามารถที่จะระบุเพศได้ แพทย์ระบุโอกาสรอดมีน้อย จะผ่าตัดขาที่สามออกได้ต้องรอให้เด็กโตกว่านี้ แต่จะทำการดูแลและยื้อชีวิตให้ถึงที่สุด

วันนี้ (15 ก.ย.) ที่ตึกอำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นายแพทย์กุลเดช เตชะนภารักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ได้ออกมาเปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ได้พบเด็กคลอดออกมามีลักษณะที่ผิดปกติ คือ มีสามขา ศีรษะโต ไม่สามารถที่จะระบุเพศได้ เด็กมีปัญหาทางระบบขับถ่าย สมองผิดปกติ ซึ่งเด็กคนดังกล่าว เป็นบุตรของ นายมะแอเต็ง และ นางนิอาสียะ เจ๊ะแต อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ที่ 5 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา

โดยนิอาสียะ เจ๊ะแต ผู้เป็นแม่ ได้ไปฝากครรภ์ ที่สถานีอนามัยบาเจาะ อ.บันนังสตา เมื่อถึงกำหนดระยะเวลาคลอด ได้ไปที่โรงพยาบาลบันนังสตา แต่ไม่สามารถที่จะคลอดตามปกติได้ เนื่องจากเด็กมีสมองโตผิดปกติ จึงได้นำตัวมายังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา และ คลอดโดยการผ่าตัด เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์มาแล้ว ซึ่งขณะนี้เด็กต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ภายในห้องปลอดเชื้อเด็กหลังคลอด (หอเด็ก 1)

พ.ญ.ระจิต นฤมิตสุธน แพทย์เจ้าของไข้ กล่าวว่า ตอนนี้เด็กนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา มา 3 สัปดาห์แล้ว และยังไม่สามารถระบุเพศได้ มีเรื่องของศีรษะโตผิดปกติ เพราะมีการอุดตันของท่อน้ำในไขสันหลัง ในส่วนระบบขับถ่ายเด็กต้องขับถ่ายทางหน้าท้อง เพราะไม่มีช่องในการขับถ่าย ไม่มีรูทวาร กระเพาะปัสสาวะ เปิดออกมา การรักษาในขณะนี้คือ ช่วยเหลือทางด้านการขับถ่ายโดยให้มีการขับถ่ายทางหน้าท้องก่อน

ส่วนการผ่าตัดขาที่เหลือออกมานั้น ต้องให้เด็กโตกว่านี้ และ มีร่างกายที่แข่งแรงก่อน อาจจะให้ถึง 1 ขวบ ก่อน ถ้าเด็กยังมีชีวิตรอด อาจจะตัดต่อในเรื่องของขา และ กระเพาะปัสสาวะได้ ส่วนในเรื่องของศีรษะ มีแผนที่จะมีการผ่าตัดท่อที่มีการอุดตัน ในเรื่องของเพศในขณะนี้ยังไม่สามารถที่จะระบุได้ ทั้งนี้อาการผิดปกติดังกล่าวทางการแพทย์เรียกว่า ไฮโดรเซปเฟอรัส ซึ่งเด็กคนนี้ทางการแพทย์เชื่อว่า น่าจะเป็นเด็กแฝดที่เกิดมาแล้วไม่แยกออกจากกัน โดยขาที่สามที่เห็นเป็นขาสองขาติดกัน เพราะจากการเอกซเรย์พบว่า กระดูกเชิงกรานมี 2 ชิ้น

ซึ่งเด็กรายนี้ เป็นบุตรคนที่ 4 ของครอบครัวเจ๊ะแต สำหรับค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาทั้งหมด อยู่ในการใช้สิทธิ์ 30 บาท รักษาถ้วนหน้าอยู่แล้ว คงจะไม่มีปัญหาอะไร เหลือเพียงแต่ค่าใช้จ่ายของครอบครัวเท่านั้น ที่จะต้องเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากพ่อแม่จะต้องเดินทางมาเยี่ยมดูอาการป่วยของบุตรบ่อยครั้ง ซึ่งทราบมาว่าทั้งสองมีรายได้น้อย มีอาชีพรับจ้างกรีดยาง ฐานะไม่ค่อยดี การเดินทางมาโรงพยาบาลจึงเป็นภาระที่ค่อนข้างหนักของครอบครัว




กำลังโหลดความคิดเห็น