รพ.เร่งประสานทีมหมอศิริราช-จุฬาฯ หาทางช่วยแฝดสยามรายแรกเมืองตาก

ตาก - พบแฝดสยามตัวติดกันรายแรกเมืองตาก พบใช้ตับ หัวใจ สายสะดือเดียวกัน ชี้โอกาสเกิดมีแค่ 1 ต่อ 8 หมื่นรายเท่านั้น เร่งประสานแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก รพ.ศิริราช-จุฬาฯ หาทางช่วยเหลือเต็มที่

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อ.เมือง จ.ตาก เข้าพบ นพ.ศุภชัย นาทองไชย ผอ.ศูนย์แพทย์ศาสตร์ศึกษา ชั้นคลินิก หลังจากได้รับแจ้งว่าพบเด็กแฝดสยามรายแรกของจังหวัดตาก จึงเดินทางไปพิสูจน์

เมื่อไปถึงพบนายศิวกร ภูกันหา อายุ 31 ปี และนางอนัสรา ภูกันหา อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 131 ม. 9 บ.เด่นไม้ซุง ต.แม่สลิด อ.สามเงา จ.ตาก เป็นพ่อและแม่ของ ด.ช.อธิป และ ด.ช.อธิน ภูกันหา แฝดสยามเพศชายอยู่ในห้องอภิบาลเด็กแรกเกิด ชั้นที่ 4 พาไปดูอาการของเด็กชายแฝดสยาม มีลำตัวติดกันตั้งแต่ช่วงหน้าอกถึงช่องท้อง อยู่ในห้องตู้อบและใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ เนื่องจากร่างกายไม่แข็งแรง แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

นายศิวกร พ่อเด็กบอกว่ามีลูกกับภรรยามาแล้ว 1 คน เป็นลูกผู้ชายอายุ 4 ขวบ ท้องนี้เป็นท้องที่ 2 ต้องผ่าตัดออก เนื่องจากทารกตัวใหญ่เกินกว่าจะคลอดเองได้ ขณะที่ภรรยาคลอดลูกตนได้ทำงานอยู่ที่ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ ทราบข่าวจากญาติๆ ว่าภรรยาคลอดลูกแฝดจึงเดินทางกลับมาดูแล เมื่อพบลูกชายมีร่างกายติดกัน ไม่สมประกอบก็รู้สึกตกใจ ซึ่งทางญาติฝ่ายภรรยาเคยมีลูกแฝดมาแล้วแต่ตัวไม่ติดกัน รู้สึกเสียใจที่ลูกเกิดมาในสภาพนี้ จึงอยากจะให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัด มาช่วยเหลือ

ด้าน นพ.ศุภชัย นาทองไชย ผอ.ศูนย์แพทย์ศาสตร์ศึกษา ฯ กล่าวว่า ด.ช.อธิป และ ด.ช.อธิน ภูกันหา แฝดสยามรายนี้เกิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2551 มีน้ำหนักแรกเกิด 4,630 กรัม ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและอยู่ในตู้อบ เพื่อควบคุมอุณหภูมิร่างกาย และยังมีปัญหาระบบหายใจ เนื่องจากเด็กทั้งสองใช้หัวใจ และตับ ร่วมกัน และยังพบว่ามีสายสะดือเดียวกัน แสดงให้เห็นว่าเป็นเส้นเลือดที่มาจากหัวใจเดียวกัน ไม่เหมือนแฝดปกติทั่วไป มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมากเพียง 1 ต่อ 80,000 รายเท่านั้นในภาคเหนือพบเป็นรายแรก

โดยขณะนี้ได้ติดต่อทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดเด็กแฝดจาก รพ.ศิริราช และ รพ.จุฬาลงกรณ์ เพื่อจะเร่งให้การช่วยเหลือเด็กต่อไป