ตาก – “ศิริราช” รับเด็กแฝดสยามไปดูแลแล้ว คาดหากร่างกายเด็กแข็งแรง สามารถผ่าตัดได้ภายใน 8-10 เดือน ด้านพ่อ-แม่ย้ำทั้งน้ำตา ไม่เสียใจหากจะเกิดอะไรขึ้น แต่มั่นใจแพทย์ช่วยลูกแฝดได้แน่
นพ.จรัล วิวัฒน์คุณูปการ รองผู้อำนวยการ รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อ.เมือง จ.ตาก เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราชพยาบาล ให้ทางโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นำ ด.ช.อธิป และ ด.ช.อธิน ภูกันหา สองแฝดสยามคู่แรกของภาคเหนือ ไปดูแลรักษาและจะดำเนินการผ่าตัดแยกร่าง หากร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดี ส่วนการผ่าตัดแยกตัวเด็กแฝด นั้นต้องใช้เวลาให้เด็กอยู่ในสภาพสมบูรณ์ อายุอย่างน้อย 8-10 เดือนขึ้นไปถึงจะผ่าตัดได้
โดยทาง รพ.ศิริราช ยืนยันว่า จะดูแลรักษาให้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีเครื่องไม้เครื่องมือ และแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านเด็กโดยเฉพาะ ส่วนค่าใช้จ่ายสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติจะดูแลให้ทั้งหมด
โดยค่ำวันที่ 26 มิ.ย.51 ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลได้นำรถพยาบาลฉุกเฉินพร้อมด้วยทีมแพทย์และพยาบาลแผนกสูตินารีและเด็กและเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ครบครัน เตรียมพร้อมเพื่อความช่วยเหลือเด็กในภาวะฉุกเฉิน เดินทางไปถึงกรุงเทพฯ เมื่อคืนนี้ (ประมาณ 23.00 น.) มีนายศิวกร ภูกันหา อายุ 31 ปี บิดาร่วมเดินทางไปกับคณะแพทย์ส่วนนางอนัสรา ภูกันหา อายุ 29 ปี มารดา ยังต้องรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จนกว่าจะหายเป็นปกติ จึงจะเดินทางไปดูแลบุตรชายได้
ด้าน นายศิวกร และนางอนัสรา ภูกันหา พ่อและแม่แฝดสยามคู่แรกของภาคเหนือ กล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่า รู้สึกดีใจที่ทางแพทย์ได้ให้การช่วยเหลืออย่างดี ถึงแม้อนาคตจะเป็นอย่างไรก็ตามจะไม่เสียใจ เนื่องจากลูกชายทั้งสองเกิดมาผิดธรรมชาติ แต่ก็มั่นใจว่าในวิวัฒนาการทางการแพทย์ปัจจุบันจะสามารถช่วยเหลือให้ลูกชายมีชีวิตที่เหมือนคนปกติ
ทั้งนี้ ตลอดวันที่ 26 มิ.ย.51 ที่ รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อ.เมือง จ.ตาก ชั้น 4 ห้องไอซียูเด็ก อาคารรวมน้ำใจ ซึ่งเป็นห้องพักฟื้นเด็กหลังคลอด โดยมี ด.ช.อธิป และ ด.ช.อธิน ภูกันหาวัย 2 วัน สองพี่น้องฝาแฝดสยาม ที่มีร่างกายติดกัน และใช้อวัยวะหัวใจตับ ร่วมกันน้ำหนักแรกเกิด 4,630 กรัม ร่างกายไม่แข็งแรงแพทย์ต้องนำไว้ในตู้อบ และใช้เครื่องช่วยหายใจ แพทย์ได้ให้การรักษาตัวในตู้อบฉายรังสีความร้อน เพื่อควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย อาการโดยรวมเริ่มแข็งแรง หายใจได้เองเป็นบางครั้ง ส่งเสียงร้องดังลั่นห้อง และตอบสนองความรู้สึกได้เป็นอย่างดี แสดงว่าเด็กมีปอดที่แข็งแรงขึ้น
ขณะที่ นายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้นำสิ่งของและเงินสดมามอบให้กับครอบครัว พร้อมกับระบุว่า นับเป็นโชคดีของชาวเมืองตากในรอบหลายปีที่ผ่านมาได้เกิดทารกแฝด ซึ่งจะเป็นเกียรติประวัติของชาวเมืองตาก ในรอบ 100 ปี ซึ่งจะให้ทางคณะแพทย์ช่วยดูแลร่างกายเด็กให้สมบูรณ์และทางกาชาดจังหวัดตากจะให้ความอุปการะในค่าใช้จ่ายระหว่างการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล