ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ตระบุแก้ปัญหานอมินีคนไทยถือสิทธิ์ครอบครอบที่ดินแทนต่างชาติรัฐต้องมีความชัดเจนเรื่องกฎหมายขณะที่การตรวจสอบเชื่อส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุน
นายแพทย์ ศิริชัย ศิลปอาชา ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการตรวจสอบเรื่องของการถือครองที่ดินของชาวต่างชาติโดยใช้คนไทยเป็นนอมินี ว่า เรื่องนี้มีมานานแล้วและถ้ามีการตรวจสอบกันจริงก็เชื่อว่ามีเป็นส่วนใหญ่ เพราะที่ผ่านมาในเรื่องของกฎหมายก็ได้เปิดช่องอยู่แล้ว
โดยเฉพาะการจัดตั้งบริษัทที่มีคนไทยถือหุ้น 51% ต่างชาติถือหุ้น 49% ก็มีสิทธิที่จะซื้อที่ดินได้แล้ว เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ภาครัฐจะต้องมีความชัดเจนในเรื่องของการถือครองทรัพย์สินของชาวต่างชาติถ้าไม่ต้องการให้ต่างชาติมีสิทธิในการถือครองที่ดินก็ควรที่จะมีการระบุหรือกำหนดกฎระบียบ กฎหมายออกมาให้ชัดเจนว่าบริษัทที่จะถือครองที่ดินได้นั้นจะต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนโดยคนไทย 100% ส่วนบริษัทที่เป็นชาวต่างชาติก็กำหนดให้เป็นการเช่าตั้งแต่ 30-90 ปี ก็น่าจะแก้ปัญหาได้
ตนเชื่อว่า ถ้าภาครัฐมีความชัดเจนในเรื่องของกฏระเบียบในส่วนของต่างชาติที่จะเข้ามาร่วมลงทุนนั้นก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดอยู่แล้ว แต่เมื่อกฏหมายเปิดช่องให้ทำได้เค้าก็ต้องพยายามที่จะทำเพื่อสร้างความมั่นคงในกิจการของตัวเอง แต่ที่สำคัญรัฐจะต้องมีความชัดเจนเท่านั้น
นายแพทย์ ศิริชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับการตรวจสอบเรื่องนอมินีนั้นย่อมส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนอย่างแน่นอน เพราะนักลงทุนไม่มีความมั่นใจในการที่จะเข้ามาลงทุน เนื่องจากนโยบายของรัฐไม่ชัดเจน
เพราะฉะนั้นสิ่งที่ภาครัฐจะต้องทำนอกเหนือจากการตรวจสอบเรื่องของนอมินีคือเรื่องของความชัดเจนว่าจะให้บริษัทที่จดทะเบียน 51-49 ครอบครองที่ดินได้หรือไม่ หรือให้ถือครองได้เฉพาะบริษัทคนไทยแท้เท่านั้น ถ้ามีความชัดเจนและมีความเท่าเทียมกันก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบแต่จะต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนที่จะมีการดำเนินเพื่อไม่สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุน เพราะอย่างเช่นประเทศจีน หรือสิงคโปร์ก็ไม่ได้อนุญาตให้ต่างชาติถือครองที่ดิน แต่อนุญาตให้เช่าระยะยาว
นายแพทย์ ศิริชัย ศิลปอาชา ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการตรวจสอบเรื่องของการถือครองที่ดินของชาวต่างชาติโดยใช้คนไทยเป็นนอมินี ว่า เรื่องนี้มีมานานแล้วและถ้ามีการตรวจสอบกันจริงก็เชื่อว่ามีเป็นส่วนใหญ่ เพราะที่ผ่านมาในเรื่องของกฎหมายก็ได้เปิดช่องอยู่แล้ว
โดยเฉพาะการจัดตั้งบริษัทที่มีคนไทยถือหุ้น 51% ต่างชาติถือหุ้น 49% ก็มีสิทธิที่จะซื้อที่ดินได้แล้ว เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ภาครัฐจะต้องมีความชัดเจนในเรื่องของการถือครองทรัพย์สินของชาวต่างชาติถ้าไม่ต้องการให้ต่างชาติมีสิทธิในการถือครองที่ดินก็ควรที่จะมีการระบุหรือกำหนดกฎระบียบ กฎหมายออกมาให้ชัดเจนว่าบริษัทที่จะถือครองที่ดินได้นั้นจะต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนโดยคนไทย 100% ส่วนบริษัทที่เป็นชาวต่างชาติก็กำหนดให้เป็นการเช่าตั้งแต่ 30-90 ปี ก็น่าจะแก้ปัญหาได้
ตนเชื่อว่า ถ้าภาครัฐมีความชัดเจนในเรื่องของกฏระเบียบในส่วนของต่างชาติที่จะเข้ามาร่วมลงทุนนั้นก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดอยู่แล้ว แต่เมื่อกฏหมายเปิดช่องให้ทำได้เค้าก็ต้องพยายามที่จะทำเพื่อสร้างความมั่นคงในกิจการของตัวเอง แต่ที่สำคัญรัฐจะต้องมีความชัดเจนเท่านั้น
นายแพทย์ ศิริชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับการตรวจสอบเรื่องนอมินีนั้นย่อมส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนอย่างแน่นอน เพราะนักลงทุนไม่มีความมั่นใจในการที่จะเข้ามาลงทุน เนื่องจากนโยบายของรัฐไม่ชัดเจน
เพราะฉะนั้นสิ่งที่ภาครัฐจะต้องทำนอกเหนือจากการตรวจสอบเรื่องของนอมินีคือเรื่องของความชัดเจนว่าจะให้บริษัทที่จดทะเบียน 51-49 ครอบครองที่ดินได้หรือไม่ หรือให้ถือครองได้เฉพาะบริษัทคนไทยแท้เท่านั้น ถ้ามีความชัดเจนและมีความเท่าเทียมกันก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบแต่จะต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนที่จะมีการดำเนินเพื่อไม่สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุน เพราะอย่างเช่นประเทศจีน หรือสิงคโปร์ก็ไม่ได้อนุญาตให้ต่างชาติถือครองที่ดิน แต่อนุญาตให้เช่าระยะยาว
