นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า วันที่ 17 กรกฎาคมนี้ คณะอนุกรรมการฯ จะพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการ รฟท. หลังจากสหภาพแรงงานฯ พนักงาน รฟท.คัดค้านการจัดตั้งบริษัทลูก รฟท. 2 แห่ง ตามแผนฟื้นฟูกิจการฯ เพื่อหาแนวทางการดำเนินการให้ รฟท.เดินหน้าได้ตามแผนฯ โดยมอบหมายให้ฝ่ายบริหารของ รฟท.ชี้แจงกับสหภาพแรงงานฯ วันที่ 20 กรกฎาคมนี้ ให้เข้าใจถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพขององค์กร เพราะรัฐบาลต้องให้เงินสนับสนุนแก่ รฟท. วงเงินสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 200,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี ดังนั้น รฟท.ต้องปรับปรุงประสิทธิภาพของบุคลากรให้สอดคล้องตามแผนฯ เพื่อให้การใช้งบประมาณเกิดประโยชน์สูงสุด
นายประดิษฐ์ กล่าวว่า การที่ต้องปรับปรุงประสิทธิภาพของ รฟท. เนื่องจากเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดของกระทรวงการคลังที่ขาดทุนมากที่สุด ทำให้เป็นภาระภาษีของประชาชนและการปรับปรุงนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะแปรรูป รฟท. หรือลดบทบาทของพนักงานแต่อย่างใด แต่การตั้งบริษัทลูก 2 แห่ง คือ บริษัทเดินรถ และบริษัทบริหารสินทรัพย์นั้น เป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงประสิทธิภาพ ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับพนักงานให้มีข้อสรุปภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อนำผลหารือต่อที่ประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (กนร.) พิจารณาต่อไป
นายประดิษฐ์ กล่าวว่า การที่ต้องปรับปรุงประสิทธิภาพของ รฟท. เนื่องจากเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดของกระทรวงการคลังที่ขาดทุนมากที่สุด ทำให้เป็นภาระภาษีของประชาชนและการปรับปรุงนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะแปรรูป รฟท. หรือลดบทบาทของพนักงานแต่อย่างใด แต่การตั้งบริษัทลูก 2 แห่ง คือ บริษัทเดินรถ และบริษัทบริหารสินทรัพย์นั้น เป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงประสิทธิภาพ ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับพนักงานให้มีข้อสรุปภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อนำผลหารือต่อที่ประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (กนร.) พิจารณาต่อไป
