ระนอง - ผู้ว่าฯ ระนองสนธิกำลังกว่า 400 นาย ออกทำลายรื้อถอน ตัดโค่นต้นยางพาราที่ราษฎรบุกรุกปลูก ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าลำเลียง เนื้อที่ 153 ไร่
วันนี้ (3 ก.ย.) นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วยนายสุภัทร สารรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 สุราษฎร์ธานี นายธนิต สังขนิตย์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า และนายนพวงศ์ อาภรณ์ หัวหน้าศูนย์ประสานงานป่าไม้ระนอง นำกำลังทหาร ตำรวจภูธร ตชด. และเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดระนอง กว่า 400 นาย เข้าทำการยึด ทำลาย รื้อถอน ตัดโค่นต้นยางพาราอายุประมาณ 2-3 ปี ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าลำเลียง ท้องที่ตำบลลำเลียงและตำบลบางใหญ่ อ.กระบุรี จ.ระนอง ที่ถูกบุกรุกและดำเนินคดีไว้แล้วจำนวน 10 คดี รวม 13 แปลง เนื้อที่ 153 ไร่ ตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 เพื่อป้องกันหรือบรรเทาความเสียหายแก่ป่าสงวนแห่งชาติ และรักษาป่าให้คงอยู่ในสภาพธรรมชาติ มิให้ถูกทำลายหรือเปลี่ยนแปลงไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนองกล่าวว่า จังหวัดระนองได้กำหนดให้การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และการป้องกันการลักลอบทำลายทรัพยากรป่าไม้เป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของจังหวัด เพื่อหยุดยั้งการบุกรุกพื้นที่ป่าใหม่ให้ได้ และต้องเอาพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกกลับคืนมา โดยให้ดำเนินการทั้งในด้านป้องกัน ปราบปราม และฟื้นฟู โดยบูรณาการกันทุกภาคส่วน ทั้งป่าไม้ ปกครอง ตำรวจ ทหาร ท้องถิ่น และภาคประชาชน ซึ่งต้องปฏิบัติให้ได้ผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์ สุจริต ถ้าทำได้เช่นนี้สถานการณ์ก็จะดีขึ้น
ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 กล่าวว่า สำนักฯ 11 รับผิดชอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติของ 3 จังหวัด คือ สุราษฎร์ธานี ชุมพร และระนอง ที่ผ่านมาได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการทำลายรื้อถอน ตัดโค่นต้นไม้ที่ราษฎรเข้าไปบุกรุกแผ้วถางในป่าสงวนแห่งชาติตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 อย่างต่อเนื่อง เมื่อทำทำลาย รื้อถอนแล้ว พื้นที่แปลงใดที่สามารถให้ธรรมชาติฟื้นฟูสภาพด้วยตัวเองได้ก็จะปล่อยไว้ เพียงแต่มีการเฝ้าระวังรักษาไม่ให้มีผู้บุกรุกซ้ำอีก ส่วนแปลงใดที่ไม่สามารถให้ธรรมชาติฟื้นฟูด้วยตัวเองได้ก็จะร่วมกับจังหวัด ชุมชน ท้องถิ่นปลูกต้นไม้ทดแทนต่อไป