สุราษฎร์ธานี- “รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี” นำกำลังผสม 500 นาย บุกเข้าตัดทำลายต้นยางพารา ต้นปาล์มน้ำมัน ที่ชาวบ้านบุกรุกเข้าปลูกในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าย่านยาวเขาวง และ ป่ากระซุม อำเภอพนม เจอม็อบต้านกว่า 100 แต่เจรจาได้ ไม่มีเหตุร้าย
วันนี้ (20 ส.ค.) นายบุญส่ง เตชะมณีสถิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ นำกำลังผสม ตำรวจภูธร สภ.พนม ทหารบกจากค่ายวิภาวีรังสิต ทหารอากาศจากกองบิน 7 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ สังกัดส่วนป้องกันปราบปรามสำนัก 11 และกำลังฝ่ายปกครองจำนวน 500 นาย บุกเข้าทำลายต้นยางพารา และต้นปาล์มน้ำมัน อายุระหว่าง 1-2 ปี ที่ถูกราษฎรบุกรุกเข้าครอบครองปลูกพืชเศรษฐกิจ
ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าย่านยาวเขาวง และป่ากระซุม ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองสก และป่าคลองพนม และป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาพนม และป่าพูเถื่อน พื้นที่อำเภอพนม จำนวน 10 แปลงพื้นที่จำนวน 775 ไร่ แต่ขณะที่รองผู้ว่าราการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กำลังปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ ได้มีประชาชนในพื้นที่กว่า 100 คน มารวมตัวชุมนุมกดดัน
พร้อมตะปูนำเรือใบมาโปรยดักทาง เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการตัดทำลายในพื้นที่ดังกล่าว แต่ก็ไม่มีเหตุร้าย เมื่อรองผู้ว่าราชการจังหวัด เข้าเจราจาจนชาวบ้านยอมสะลาย และยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินตัดทำลาย พร้อมปลูกป่าทดแทน
นายบุญส่ง เตชะมณีสถิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจับกุม และไม่พบผู้กระทำความผิด พร้อมทั้งคดีสิ้นสุดจึงใช้ มาตรการตามกฎหมายในมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ 2507 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการปิดประกาศล่วงหน้า 30 วัน ให้เจ้าของผลหสินดำเนินการคัดค้าน
แต่เมื่อถึงกำหนดไม่มีการคัดค้านทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเข้าทำลายรื้อถอน พร้อมกล่าวเตือนประชาชนให้ยกเลิกความคิดที่จะบุกรุกครอบครองพื้นที่ป่า เพราะจะเสียเงินและเวลาพร้อมทั้งตกเป็นผู้ต้องหาอีกด้วย และอย่าไปหลงเชื่อผู้ใดที่มาชักจูงโดยเด็ดขาด
ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ส่งกำลังเข้ากดดันทุกทางเพื่อนำพื้นที่ป่ากลับคืนมาเป็นของรัฐต่อไป ผลจากการกดดันขณะนี้เจ้าหน้าทสามารถกดดันได้ระดับหนึ่ง จนขณะนี้การบุกรุกทำลายป่าในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์หยุดชะงักลงจนเกือบกลับสู่ภาวะปกติ
