ศูนย์ข่าวศรีราชา - ขบวนการรุกผืนป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออกยังไม่หยุด คราวนี้ล้มไม้น้อยใหญ่เกลื่อนผืนป่าหวังฮุบยืดครองพื้นที่อีกหลายสิบไร่ บริเวณใกล้ฐานปฏิบัติการป่าไม้บ้านาอิสาน แค่เพียง 500 เมตร ทำชาวบ้านมึนงง เจ้าหน้าที่รักษาป่าไม่รู้ระคายความเคลื่อนไหวมาก่อน
วันนี้ (31 ส.ค.) เวลา 13.30 น. ชาวบ้านนาอิสาน พื้นที่ ม.16 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ได้นำพาคณะสื่อมวลชนเข้าไปชี้จุดดูพื้นที่ตามแนวตะเข็บของป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก (ประกอบด้วย จ.ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง และจันทบุรี) ที่ถูกขบวนการบุกรุกป่าเข้ายึดพื้นที่ แผ้วถางล้มทำลายตัดต้นไม้น้อยใหญ่ ภายในป่าออกจนโล่งเตียน และยังคงทิ้งร่องรอยของไม้ยืนต้นขนาดกลาง เส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 20-50 ซม.ที่นอนล้มคาตออยู่เกลื่อนผืนป่าไว้เป็นจำนวนมากเต็มบริเวณพื้นที่นับสิบไร่
นายสาธิต ยืนสุข อายุ 48 ปี แกนนำชาวบ้านกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิบนที่ดินทำกินบ้านนายาว กล่าวว่า พื้นที่บริเวณที่ถูกตัดโค่นต้นไม้แห่งนี้ เป็นจุดที่ชาวบ้านพบใหม่ อยู่ด้านหลังโรงเรียน ตชด.บ้านนาอิสาน เป็นพื้นที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และอยู่ใกล้กับฐานปฏิบัติการป่าไม้บ้านนาอิสานเป็นอย่างมาก เพียง 500 เมตร ชาวบ้านจึงสงสัยว่าสาเหตุใดเจ้าหน้าที่ป่าไม้จึงไม่รู้ว่าผู้ที่เข้าไปแผ้วถางป่าจนโล่งเตียนรายนี้ เป็นฝีมือของใคร และปล่อยให้มีการตัดถางทำลายป่าได้อย่างไร
พฤติการณ์ของขบวนการตัดไม้ถางป่ายึดพื้นที่รายนี้จะใช้วิธีการที่แยบยล ด้วยการใช้เครื่องเลื่อยยนต์เข้าทำการตัดบากเนื้อไม้โคนต้นทิ้งไว้ โดยให้เลื่อยยนต์กินเนื้อไม้ไว้เกินกว่ากึ่งกลางของลำต้น แต่จะไม่ตัดให้ลำต้นขาดออกจากกัน จากนั้นจะปล่อยทิ้งไว้ให้ลมฝนพัดให้ต้นไม้ล้มลงเองคล้ายกับถูกภัยธรรมชาติ ก่อนที่จะเข้ามาจุดไฟเผาทำลายในภายหลังเพื่อยึดครองพื้นที่ป่าสงวนไปเป็นของตนเอง ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวชาวบ้านทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร แต่สำหรับชาวบ้านเองแล้วส่วนใหญ่คงไม่มีใครกล้าทำ
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังทราบอีกว่า ผู้กระทำการคนดังกล่าวนี้ยังมีวิธีการในการยึดพื้นที่ป่าที่แนบเนียนกว่าชาวบ้านหลายรูปแบบมาก หลังจากตัดต้นไม้ถางทำลายป่าจนโล่งเตียนออกหมดแล้วจะไม่เข้ายึดครองพื้นที่ด้วยตนเอง แต่จะเปลี่ยนมือให้แก่ผู้อื่น ซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนฝูง ญาติสนิท และภรรยานอกกฎหมายที่ไว้ใจได้เป็นผู้เข้ามาดำเนินการถือครอง หรือแลกเปลี่ยนพื้นที่กันกับพื้นที่อื่นภายในกลุ่ม