ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ศุลกากรภาค 4 สั่งคุมเข้มชายแดนทั้ง 5 ด่านตรวจเข้มการลักลอบการนำเข้าน้ำตาล และแป้งสาลีจากประเทศเพื่อนบ้านที่อาจทะลักเข้ามาตามแนวชายแดน โดยให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเราเฝ้าระวังทั้งทางเรือและทางรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่เป็นล๊อตใหญ่
วันนี้ (2 ก.ย.) ผู้อำนวยการศุลกากรภาค 4 ระบุว่า ในช่วงนี้รัฐบาลมาเลเซียเข้มงวดในการนำน้ำตาลทราย และแป้งสาลีส่งออกเพราะเป็นสินค้าควบคุมใน 12 ชนิดไม่ให้ส่งเข้ามาขายในประเทศไทย นับเป็นผลดีต่อสินค้าน้ำตาลทราย และแป้งสาลีไทยและเกษตรกรไทย ได้สั่งการให้ 5 ด่านติดพรมแดนไทย - มาเลเซีย คุมเข้มและเฝ้าระวังการลักลอบนำน้ำตาลทรายล๊อตใหญ่จากมาเลเซียเข้ามาทั้งทางเรือ และทางรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์
นายราฆพ ศรีศุภอรรถ ผู้อำนวยการศุลกากรภาคที่ 4 กล่าวว่า ทางศุลกากรภาคที่ 4 ได้มีมาตรการป้องกันการลักลอบนำน้ำตาลทรายและแป้งสาลีจากประเทศมาเลเซียเข้ามาภายในประเทศทางด่านพรมแดน โดยได้สั่งการให้ 5 ด่านพรมแดนที่มีพื้นที่ติดต่อกับประเทศมาเลเซีย คือ ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ ด่านศุลกากรสะเดา จังหวัดสงขลา ด่านวังประจัน จังหวัดสตูล ด่านศุลกากรเบตง จังหวัดยะลา และด่านศุลกากรโก-ลก จังหวัดนราธิวาส โดยให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้มงวดดูแลในเรื่องการลักลอบนำน้ำตาลทรายและแป้งสาลีเข้ามาในราชอาณาจักร
ขณะนี้ยังไม่พบความผิดปกติในการลักลอบนำน้ำตาลทรายล๊อตใหญ่ ออกมาและได้ทำการตรวจเข้มสินค้าทั้งขาเข้าและออกมากขึ้น ในส่วนที่ประชาชนตามแนวชายแดนที่เดินทางเข้า-ออกและซื้อน้ำตาลทรายเข้ามาคนละ 2 – 3 กิโลกรัมออกมาใช้ ตรงนี้ถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็เฝ้าดูอยู่ หากซื้อมาไม่มากก็ไม่เป็นไร เท่าที่ผ่านมาหากซื้อเกิน 10 กก./ครั้ง ก็จะทำบันทึกทำประวัติไว้ เพื่อให้เขาระมัดระวังในการนำเข้าครั้งต่อไป ซึ่งเขาจะไม่กล้าทำอีก
อันนี้เป็นมาตรการที่กำหนดไว้ ซึ่งตรงนี้จะไม่กระทบทางด้านเศรษฐกิจ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเราเฝ้าระวังทั้งทางเรือและทางรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่เป็นล๊อตใหญ่ โดยเขาจะใช้วิธีการหลอกเจ้าหน้าที่ว่าเป็นสินค้าประเภทอื่นที่ไม่ตรงกับสินค้าที่นำเข้ามา ตรงนี้ก็จะมีผลกระทบมาก เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ศุลกากรทั้ง 5 ด่านพรมแดนที่ติดกับประเทศมาเลเซียก็จะเข้มงวดเป็นพิเศษ
ในส่วนประเทศมาเลเซียเอง ทางรัฐบาลมาเลเซียมีการจำกัดสินค้า 12 ชนิดที่มาขายให้ประเทศไทย มีน้ำตาลทรายและแป้งสาลีรวมอยู่ด้วย เพราะราคาน้ำตาลทรายของมาเลเซียจะถูกกว่าของประเทศไทย เนื่องจากน้ำตาลทรายของเรามีกลไกในการผลิตและการตลาดที่ซับซ้อน ทำให้ราคาน้ำตาลทรายในบ้านเรามีราคาสูงขึ้น
แต่ของมาเลเซียสามารถปลูกอ้อยและผลิตน้ำตาลทรายได้มากกว่าเรา เป็นเหตุให้น้ำตาลมาเลเซียทะลักเข้ามาในบ้านเราโดยเฉพาะจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจำนวนมาก โดยทางมาเลเซียเองได้เข้มงวดการลักลอบนำน้ำตาลทรายและแป้งสาลีออกนอกประเทศมาตลอด
วันนี้ (2 ก.ย.) ผู้อำนวยการศุลกากรภาค 4 ระบุว่า ในช่วงนี้รัฐบาลมาเลเซียเข้มงวดในการนำน้ำตาลทราย และแป้งสาลีส่งออกเพราะเป็นสินค้าควบคุมใน 12 ชนิดไม่ให้ส่งเข้ามาขายในประเทศไทย นับเป็นผลดีต่อสินค้าน้ำตาลทราย และแป้งสาลีไทยและเกษตรกรไทย ได้สั่งการให้ 5 ด่านติดพรมแดนไทย - มาเลเซีย คุมเข้มและเฝ้าระวังการลักลอบนำน้ำตาลทรายล๊อตใหญ่จากมาเลเซียเข้ามาทั้งทางเรือ และทางรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์
นายราฆพ ศรีศุภอรรถ ผู้อำนวยการศุลกากรภาคที่ 4 กล่าวว่า ทางศุลกากรภาคที่ 4 ได้มีมาตรการป้องกันการลักลอบนำน้ำตาลทรายและแป้งสาลีจากประเทศมาเลเซียเข้ามาภายในประเทศทางด่านพรมแดน โดยได้สั่งการให้ 5 ด่านพรมแดนที่มีพื้นที่ติดต่อกับประเทศมาเลเซีย คือ ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ ด่านศุลกากรสะเดา จังหวัดสงขลา ด่านวังประจัน จังหวัดสตูล ด่านศุลกากรเบตง จังหวัดยะลา และด่านศุลกากรโก-ลก จังหวัดนราธิวาส โดยให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้มงวดดูแลในเรื่องการลักลอบนำน้ำตาลทรายและแป้งสาลีเข้ามาในราชอาณาจักร
ขณะนี้ยังไม่พบความผิดปกติในการลักลอบนำน้ำตาลทรายล๊อตใหญ่ ออกมาและได้ทำการตรวจเข้มสินค้าทั้งขาเข้าและออกมากขึ้น ในส่วนที่ประชาชนตามแนวชายแดนที่เดินทางเข้า-ออกและซื้อน้ำตาลทรายเข้ามาคนละ 2 – 3 กิโลกรัมออกมาใช้ ตรงนี้ถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็เฝ้าดูอยู่ หากซื้อมาไม่มากก็ไม่เป็นไร เท่าที่ผ่านมาหากซื้อเกิน 10 กก./ครั้ง ก็จะทำบันทึกทำประวัติไว้ เพื่อให้เขาระมัดระวังในการนำเข้าครั้งต่อไป ซึ่งเขาจะไม่กล้าทำอีก
อันนี้เป็นมาตรการที่กำหนดไว้ ซึ่งตรงนี้จะไม่กระทบทางด้านเศรษฐกิจ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเราเฝ้าระวังทั้งทางเรือและทางรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่เป็นล๊อตใหญ่ โดยเขาจะใช้วิธีการหลอกเจ้าหน้าที่ว่าเป็นสินค้าประเภทอื่นที่ไม่ตรงกับสินค้าที่นำเข้ามา ตรงนี้ก็จะมีผลกระทบมาก เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ศุลกากรทั้ง 5 ด่านพรมแดนที่ติดกับประเทศมาเลเซียก็จะเข้มงวดเป็นพิเศษ
ในส่วนประเทศมาเลเซียเอง ทางรัฐบาลมาเลเซียมีการจำกัดสินค้า 12 ชนิดที่มาขายให้ประเทศไทย มีน้ำตาลทรายและแป้งสาลีรวมอยู่ด้วย เพราะราคาน้ำตาลทรายของมาเลเซียจะถูกกว่าของประเทศไทย เนื่องจากน้ำตาลทรายของเรามีกลไกในการผลิตและการตลาดที่ซับซ้อน ทำให้ราคาน้ำตาลทรายในบ้านเรามีราคาสูงขึ้น
แต่ของมาเลเซียสามารถปลูกอ้อยและผลิตน้ำตาลทรายได้มากกว่าเรา เป็นเหตุให้น้ำตาลมาเลเซียทะลักเข้ามาในบ้านเราโดยเฉพาะจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจำนวนมาก โดยทางมาเลเซียเองได้เข้มงวดการลักลอบนำน้ำตาลทรายและแป้งสาลีออกนอกประเทศมาตลอด