ปัตตานี - กงสุลใหญ่เมืองโกตาบารู ประเทศมาเลเซีย นำคณะผู้นำทางศาสนาอิสลาม และสื่อมวลชนท้องถิ่น ในรัฐกลันตัน และตรังกานู ลงพื้นที่ชายแดนใต้ รับทราบข้อเท็จริงสถานการณ์ชายแดนใต้
วันนี้ (27 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. นายสุรพล เพชรวรา กงสุลใหญ่เมืองโกตาบารู ได้นำคณะผู้นำทางศาสนาอิสลาม และสื่อมวลชนท้องถิ่น ในรัฐกลันตัน และตรังกานู ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเช้าวันนี้ได้เข้าพบนายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เพื่อรับทราบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับนโยบายและมาตรการในการแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และฟังบรรยายสรุป
ทั้งนี้ ทางจังหวัดปัตตานีโดย นายสามารถ วราดิศัย ปลัดจังหวัดปัตตานีได้รายงานสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในรอบปีตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบันว่า มีจำนวนการก่อเหตุร้ายลดลงตามลำดับ คือ ปี2547 มีจำนวนเหตุการณ์ 294 คดี ปี2548 มีจำนวนเหตุการณ์ 383 คดี ปี 2549 มีจำนวนเหตุการณ์ 505 คดี ปี 2550 มีจำนวนเหตุการณ์ 438 คดี และปี 2552 ตั้งแต่เดือนมกราคม-25 มิถุนายน มีจำนวนเหตุการณ์ 175 คดี จึงมั่นใจว่าสถานการณ์น่าจะยุติและสงบลงได้
นอกจากนี้ยังได้ชี้แจงถึงนโยบายการแก้ไขปัญหาตามยุทธศาสตร์ของ จ.ปัตตานีในด้านต่างๆ เช่น การเสริมสร้างความมั่นคง การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาเศรษฐกิจ ด้านสังคมจิตวิทยาและพลังมวลชน การพัฒนาทรัพยากรและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย และโดยข้อเท็จจริงในการปกครองระบอบประชาธิปไตย ได้มีการดำเนินการเลือกตั้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. ซึ่งมีคนมุสลิมในพื้นที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้บริหารเอง จึงไม่จำเป็นที่ต้องมีการทำสงครามเพื่อได้มาซึ่งการปกครองตนเอง
ด้าน นายสุรพล เพชรวรา กงสุลใหญ่เมืองโกตาบารู กล่าวว่า ที่ผ่านมามีประชาชนในรัฐกลันตัน และตรังกานู ประเทศมาเลเซีย เข้ามาแต่งงานกับประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลมาเลเซียมีความเป็นห่วงว่าทางไทยได้ดำเนินการถูกต้องตามหลักศาสนาหรือไม่ จึงได้มีความพยายามที่จะเข้ามาสอบถามด้วยตนเอง หลังจากที่ได้รับฟังจากผู้นำศาสนาในพื้นที่ได้รับการยืนยันว่าได้มีการปฏิบัติตามขั้นตอนถูกต้อง พร้อมกันนี้ยังบอกว่าคณะมีความพอใจในโนยายและการแก้ปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ และคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้มีร่วมมือกันในการพัฒนาของทั้งสองประเทศต่อไป
หลังจากนั้น กงสุลใหญ่เมืองโกตาบารูและคณะจะได้เดินทางไปเยี่ยมชมกิจการสหกรณ์อิบนูอัฟฟาน ก่อนที่จะเดินทางไปที่ จ.ยะลา
วันนี้ (27 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. นายสุรพล เพชรวรา กงสุลใหญ่เมืองโกตาบารู ได้นำคณะผู้นำทางศาสนาอิสลาม และสื่อมวลชนท้องถิ่น ในรัฐกลันตัน และตรังกานู ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเช้าวันนี้ได้เข้าพบนายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เพื่อรับทราบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับนโยบายและมาตรการในการแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และฟังบรรยายสรุป
ทั้งนี้ ทางจังหวัดปัตตานีโดย นายสามารถ วราดิศัย ปลัดจังหวัดปัตตานีได้รายงานสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในรอบปีตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบันว่า มีจำนวนการก่อเหตุร้ายลดลงตามลำดับ คือ ปี2547 มีจำนวนเหตุการณ์ 294 คดี ปี2548 มีจำนวนเหตุการณ์ 383 คดี ปี 2549 มีจำนวนเหตุการณ์ 505 คดี ปี 2550 มีจำนวนเหตุการณ์ 438 คดี และปี 2552 ตั้งแต่เดือนมกราคม-25 มิถุนายน มีจำนวนเหตุการณ์ 175 คดี จึงมั่นใจว่าสถานการณ์น่าจะยุติและสงบลงได้
นอกจากนี้ยังได้ชี้แจงถึงนโยบายการแก้ไขปัญหาตามยุทธศาสตร์ของ จ.ปัตตานีในด้านต่างๆ เช่น การเสริมสร้างความมั่นคง การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาเศรษฐกิจ ด้านสังคมจิตวิทยาและพลังมวลชน การพัฒนาทรัพยากรและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย และโดยข้อเท็จจริงในการปกครองระบอบประชาธิปไตย ได้มีการดำเนินการเลือกตั้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. ซึ่งมีคนมุสลิมในพื้นที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้บริหารเอง จึงไม่จำเป็นที่ต้องมีการทำสงครามเพื่อได้มาซึ่งการปกครองตนเอง
ด้าน นายสุรพล เพชรวรา กงสุลใหญ่เมืองโกตาบารู กล่าวว่า ที่ผ่านมามีประชาชนในรัฐกลันตัน และตรังกานู ประเทศมาเลเซีย เข้ามาแต่งงานกับประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลมาเลเซียมีความเป็นห่วงว่าทางไทยได้ดำเนินการถูกต้องตามหลักศาสนาหรือไม่ จึงได้มีความพยายามที่จะเข้ามาสอบถามด้วยตนเอง หลังจากที่ได้รับฟังจากผู้นำศาสนาในพื้นที่ได้รับการยืนยันว่าได้มีการปฏิบัติตามขั้นตอนถูกต้อง พร้อมกันนี้ยังบอกว่าคณะมีความพอใจในโนยายและการแก้ปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ และคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้มีร่วมมือกันในการพัฒนาของทั้งสองประเทศต่อไป
หลังจากนั้น กงสุลใหญ่เมืองโกตาบารูและคณะจะได้เดินทางไปเยี่ยมชมกิจการสหกรณ์อิบนูอัฟฟาน ก่อนที่จะเดินทางไปที่ จ.ยะลา
