นราธิวาส – รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปยังรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เพื่อเป็นการดำเนินการตามแนวทางของรัฐบาลต่อการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และร่วมกันแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น
วันนี้ (15 พ.ค.) ผู้สือข่าวรายงานว่า นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมนายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้อีก 4 จังหวัด ร่วมเดินทางไปยังรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าพบดาโต๊ะฮะยีนิ อับดุลอาซิส บินนิมัส มุขมนตรีรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการเดินทางเข้าพบมุขมนตรีในครั้งนี้ว่า เป็นการดำเนินการตามแนวทางของรัฐบาลต่อการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และร่วมกันแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ซึ่งการหารือเบื้องต้นนั้นเป็นการชี้แจงข้อมูลเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ส่งถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวเพื่อจะฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจ
การเดินทางไปในครั้งนี้ถือเป็นกรกระชับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเมืองชายแดนด้วยกัน ซึ่งคน 2 เชื้อชาติมีความผูกพันมาช้านานตั้งแต่การไปมาหาสู่ ค้าขาย รวมถึงติดต่อธุรกิจ และที่สำคัญการพูดคุยทั้งหมดในครั้งนี้จะส่งผลต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยตรงทั้งสิทธิประโยชน์ทั้งด้านการประกอบอาชีพ การให้การสนับสนุนงบประมาณในโครงการต่างๆ อาทิ จัดให้มีกองทุนฮัจญ์
โดยคัดเลือกชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนจำนวน 200 คนไปแสวงบุญ ณ ประเทศซาอุดิอารเบีย การตั้งศาลอิสลามเพื่ออำนวยความยุติธรรมในคดีที่เกิดขึ้นกับผู้นับถือศาสนาอิสลาม โดยยึดกรอบกฎหมาย และหลักการทางศาสนา รวมถึงการผลักดันให้จังหวัดนราธิวาสเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเกษตรกร จังหวัดปัตตานีเป็นศูนย์กลางอาหารฮาลาล และจังหวัดยะลา เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว
ดาโต๊ะฮะยีนิ อับดุลอาซิส บินนิมัส มุขมนตรีรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ได้ขอให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความรักความสามัคคีต่อกัน และตระหนักให้มากว่าทุกคนล้วนมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน และถือเป็นความโชคดีของคนไทยที่สามารถเลือกนับถือศาสนาต่างๆได้อย่างเสรี และได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
ด้านนายสุรพล เพชรวรา กงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียได้กล่าวถึงแนวทางที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่จะเดินทางมายังพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในวันที่18 พ.ค.นี้จะนำนักท่องเที่ยวจากเมืองตุมปัส รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียเข้ามาท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ของประเทศไทย
โดยเดินทางมาขึ้นเครื่องบินที่ท่าอากาศยานนราธิวาส ซึ่งตลอดเส้นทางจะได้มีโอกาสชมวิถีชีวิตของประชาชนตามแนวชายแดน รวมถึงเส้นทางการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างอำเภอที่มีการรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทาง จะส่งผลให้ให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจและเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องไปยังนักท่องเที่ยวรายอื่นๆในหลายรัฐของประเทศมาเลเซียต่อไปด้วย
วันนี้ (15 พ.ค.) ผู้สือข่าวรายงานว่า นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมนายวินัย ครุวรรณพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้อีก 4 จังหวัด ร่วมเดินทางไปยังรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าพบดาโต๊ะฮะยีนิ อับดุลอาซิส บินนิมัส มุขมนตรีรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการเดินทางเข้าพบมุขมนตรีในครั้งนี้ว่า เป็นการดำเนินการตามแนวทางของรัฐบาลต่อการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และร่วมกันแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ซึ่งการหารือเบื้องต้นนั้นเป็นการชี้แจงข้อมูลเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ส่งถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวเพื่อจะฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจ
การเดินทางไปในครั้งนี้ถือเป็นกรกระชับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเมืองชายแดนด้วยกัน ซึ่งคน 2 เชื้อชาติมีความผูกพันมาช้านานตั้งแต่การไปมาหาสู่ ค้าขาย รวมถึงติดต่อธุรกิจ และที่สำคัญการพูดคุยทั้งหมดในครั้งนี้จะส่งผลต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยตรงทั้งสิทธิประโยชน์ทั้งด้านการประกอบอาชีพ การให้การสนับสนุนงบประมาณในโครงการต่างๆ อาทิ จัดให้มีกองทุนฮัจญ์
โดยคัดเลือกชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนจำนวน 200 คนไปแสวงบุญ ณ ประเทศซาอุดิอารเบีย การตั้งศาลอิสลามเพื่ออำนวยความยุติธรรมในคดีที่เกิดขึ้นกับผู้นับถือศาสนาอิสลาม โดยยึดกรอบกฎหมาย และหลักการทางศาสนา รวมถึงการผลักดันให้จังหวัดนราธิวาสเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเกษตรกร จังหวัดปัตตานีเป็นศูนย์กลางอาหารฮาลาล และจังหวัดยะลา เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว
ดาโต๊ะฮะยีนิ อับดุลอาซิส บินนิมัส มุขมนตรีรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ได้ขอให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความรักความสามัคคีต่อกัน และตระหนักให้มากว่าทุกคนล้วนมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน และถือเป็นความโชคดีของคนไทยที่สามารถเลือกนับถือศาสนาต่างๆได้อย่างเสรี และได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
ด้านนายสุรพล เพชรวรา กงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียได้กล่าวถึงแนวทางที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่จะเดินทางมายังพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในวันที่18 พ.ค.นี้จะนำนักท่องเที่ยวจากเมืองตุมปัส รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียเข้ามาท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ของประเทศไทย
โดยเดินทางมาขึ้นเครื่องบินที่ท่าอากาศยานนราธิวาส ซึ่งตลอดเส้นทางจะได้มีโอกาสชมวิถีชีวิตของประชาชนตามแนวชายแดน รวมถึงเส้นทางการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างอำเภอที่มีการรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทาง จะส่งผลให้ให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจและเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องไปยังนักท่องเที่ยวรายอื่นๆในหลายรัฐของประเทศมาเลเซียต่อไปด้วย