นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านร่วมกับ อบต.ท่าศาลา และฝ่ายปกครอง ออกปิดล้อมล่าเรือคราดหอยผิดกฎหมากลางอ่าวท่าศาลา หนีกระเจิงกว่า 20 ลำ สุดท้ายสามารถรวบได้ 3 ลำมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี ยึดหอยลายกว่า 5 ตันเป็นของกลาง รวมทั้งแรงงานต่างด้าวไม่มีทะเบียนอีกหลายคน
เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา (30 ส.ค.) นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งการ ให้นาย เสรี ทวีพันธ์ นายอำเภอท่าศาลา นายอภินันท์ เชาวลิต นายกอบต.ท่าศาลา เข้าตรวจสอบเรือประมงหอยคราดผิดกฎหมายที่เข้ามาคราดหอยบริเวณชายฝั่งเกิน 3,000 เมตร ที่บริเวณท่าเทียบเรือ บ้านท่าสูง หมู่ 4 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ตามที่ชาวบ้านร้องเรียนต่อทางองค์การบริหารส่วนตำบลท่าศาลา ซึ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวประมง และ ทำลายแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำขนาดเล็ก ในพื้นที่
เบื้องต้นอำเภอท่าศาลาได้สนธิกำลังระหว่างชาวประมงพื้นบ้าน ปลัดอำเภอท่าศาลา หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะถ้ำ และองค์การบริหารส่วนตำบลท่าศาลา นำกำลัง พร้อมเรือออกจับกุมเรือดังกล่าว ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณชายฝั่งห่างออกไปประมาณ 2,000 เมตร พบเรือประมงขนาดใหญ่จำนวน 20 ลำ กำลังคราดหอยเป็นกลุ่มใหญ่ ซึ่งสามารถสังเกตจากชายฝั่งได้ชัดเจน
เจ้าหน้าที่ได้นำเรือเพื่อเข้าจับกุม ปรากฏว่าเมื่อเรือประมงเห็นเจ้าหน้าที่ได้ติดเครื่องยนต์เรือเร่งหนี เจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือเร็วไล่ติดตามสามารถจับได้จำนวน 3 ลำ ซึ่งเป็นเรือที่เดินทางมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี คือ เรือ อ.โชควิศณุ รุ่งเรือง มีนาย ยอด พุ่มชลิต อายุ 43 ปี เป็นไต่กงเรือ อยู่บ้านเลขที่ 125 / 7 หมู่ 2 ต.คลองฉนาก อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมกับลูกเรือชาวพม่าไม่มีใบแรงงานต่างด้าว 8 คน
เรือโชคศุภชาติ 2 มี นาย บุญอิ่น คำเสาร์ อายุ 46 ปี เป็นไต่กงเรือ อยู่บ้านเลขที่ 96/1 หมู่ 2 ต.บ้านทำเนียบ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมลูกเรือชาวกัมพูชาไม่มีใบแรงงานต่างด้าว 8 คน และ เรือโชคมีศรี 7 มีนายมานิตย์ คำสอน อายุ 34 ปี เป็นไต่กงเรือ อยู่บ้านเลขที่ 157 หมู่ 7 ต.งาแก้ว อ.เกาะดา จ.ลำปาง พร้อมลูกเรือชาวกัมพูชา 1 คน ชาวพม่า 6 คน ไม่มีใบแรงานต่างด้าว
หลังจากได้สำรวจภายในเรืออย่างละเอียด พบของกลางหอยลายที่อยู่ภายในเรือทั้ง 3 ลำ มีน้ำหนักกว่า 5,000 กิโลกรัม และยังตรวจสอบพบว่าตะแกรงคราดหอยมีความถี่ผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ประมง และลำเรือผิดกฎหมายเช่นกัน ซึ่งตามระเบียบของกรมประมง เรือหอยคราดจะต้องไม่คราดหอยเข้ามาในชายฝั่งไม่เกิน 3,000 เมตร ลำเรือจะต้องมีขนาดความยาวไม่เกิน 18 เมตร ใช้ตะแกรงปากกว้างไม่เกิน 3.5 เมตร และ ความถี่ของตะแกร่งต้องมีความถี่ไม่ต่ำกว่า 1.2 เซนติเมตร ซึ่งหลังจากตรวจสอบเรือทั้ง 3 ลำ กระทำผิดกฎหมายทั้งสิ้น
เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเล จึงได้ยึดเรือทั้ง 3 ลำพร้อมอุปกรณ์การทำประมงไว้เป็นของกลางดำเนินคดี พร้อมตั้งข้อหาใช้แรงงานด้าวผิดกฎหมาย และให้ที่พักพิงชาวต่างด้าว กระทำการประมงชายฝั่งเกินกว่า 3,000 เมตร ใช้อุปกรณ์ประมง (คราดหอย) ผิดระเบียบ พ.ร.บ.การประมง ก่อนส่งตัวดำเนินคดีต่อไปแล้ว