หมอคาดทราบผลการหารือช่วยเด็กเงือกสัปดาห์หน้า ระบุจากการศึกษาพบเคยมีการผ่าตัดเปลี่ยนไตในเด็กอายุต่ำสุด 5 ขวบเท่านั้น
นายแพทย์ศิริชัย ศิลปอาชา รองผู้อำนวยการ ด้านบริการตติยภูมิ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวถึงอาการของ ด.ญ.ณิชาภา ที่มีความผิดปกติที่เรียกว่า Mermaid syndrome (Sirenomelia) หรือขาติดกันคล้ายเงือก ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ห้อง 509 ชั้น 5 หอผู้ป่วยพิเศษรวม โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยมีมารดาชาวพม่าซึ่งอยู่ในอาการซึมเศร้าคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ว่า ขณะนี้เด็กมีอายุได้ 21 วันแล้ว อาการทั่วไปปกติดีสามารถดื่มนมและขับถ่ายได้ แต่ยังคงมีปัญหาเรื่องไตที่ผิดปกติมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา
“แนวทางการรักษานั้นได้มีการปรึกษาไปยังโรงพยาบาลในส่วนกลางแล้ว เพื่อหาข้อมูลว่าจะสามารถทำการเปลี่ยนไตให้กับเด็กได้หรือไม่ เนื่องจากยังมีอายุน้อยมาก จากการศึกษาข้อมูลพบว่าเคยมีการผ่าตัดเปลี่ยนไตให้กับเด็กที่มีอายุน้อยสุดอายุ 5 ขวบ แต่สำหรับเด็กคนนี้มีอายุเพียง 21 วัน ซึ่งอาจจะต้องรอให้โตกว่านี้ รวมถึงการหาไตที่มีขนาดเล็กก็เป็นเรื่องที่ยาก ดังนั้นต้องรอคำตอบจากส่วนกลาง คาดว่าจะทราบผลในสัปดาห์หน้า”
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ศิริชัย กล่าวว่า หากพิจารณาอาการของเด็กโดยทั่วไปไม่มีอะไรน่าห่วง ยกเว้นเรื่องความผิดปกติของไต ซึ่งแพทย์ก็ได้ทำการให้ยาเพื่อประคับประคองไว้
นายแพทย์ศิริชัย ยังได้กล่าวต่อไปถึงการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กที่มีอาการผิดปกติ ว่า สืบเนื่องจากความผิดปกติของทารกชาวพม่าคนนี้ก็ได้มีแนวคิดในการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กพิการที่มีอาการเจ็บป่วยอื่นๆ ในอนาคต โดยเริ่มต้นจากการช่วยเหลือทารกชาวพม่า แม้ว่าจะไม่มีการจัดเก็บค่ารักษาพยาบาล แต่จะมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เกิดจากการรักษาพยาบาล ซึ่งขณะนี้มีผู้แจ้งความจำนงเข้ามาแล้วหลายราย คาดว่าจะเป็นรูปเป็นร่างได้ประมาณเดือนตุลาคมนี้
นายแพทย์ศิริชัย ศิลปอาชา รองผู้อำนวยการ ด้านบริการตติยภูมิ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวถึงอาการของ ด.ญ.ณิชาภา ที่มีความผิดปกติที่เรียกว่า Mermaid syndrome (Sirenomelia) หรือขาติดกันคล้ายเงือก ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ห้อง 509 ชั้น 5 หอผู้ป่วยพิเศษรวม โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยมีมารดาชาวพม่าซึ่งอยู่ในอาการซึมเศร้าคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ว่า ขณะนี้เด็กมีอายุได้ 21 วันแล้ว อาการทั่วไปปกติดีสามารถดื่มนมและขับถ่ายได้ แต่ยังคงมีปัญหาเรื่องไตที่ผิดปกติมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา
“แนวทางการรักษานั้นได้มีการปรึกษาไปยังโรงพยาบาลในส่วนกลางแล้ว เพื่อหาข้อมูลว่าจะสามารถทำการเปลี่ยนไตให้กับเด็กได้หรือไม่ เนื่องจากยังมีอายุน้อยมาก จากการศึกษาข้อมูลพบว่าเคยมีการผ่าตัดเปลี่ยนไตให้กับเด็กที่มีอายุน้อยสุดอายุ 5 ขวบ แต่สำหรับเด็กคนนี้มีอายุเพียง 21 วัน ซึ่งอาจจะต้องรอให้โตกว่านี้ รวมถึงการหาไตที่มีขนาดเล็กก็เป็นเรื่องที่ยาก ดังนั้นต้องรอคำตอบจากส่วนกลาง คาดว่าจะทราบผลในสัปดาห์หน้า”
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ศิริชัย กล่าวว่า หากพิจารณาอาการของเด็กโดยทั่วไปไม่มีอะไรน่าห่วง ยกเว้นเรื่องความผิดปกติของไต ซึ่งแพทย์ก็ได้ทำการให้ยาเพื่อประคับประคองไว้
นายแพทย์ศิริชัย ยังได้กล่าวต่อไปถึงการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กที่มีอาการผิดปกติ ว่า สืบเนื่องจากความผิดปกติของทารกชาวพม่าคนนี้ก็ได้มีแนวคิดในการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กพิการที่มีอาการเจ็บป่วยอื่นๆ ในอนาคต โดยเริ่มต้นจากการช่วยเหลือทารกชาวพม่า แม้ว่าจะไม่มีการจัดเก็บค่ารักษาพยาบาล แต่จะมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เกิดจากการรักษาพยาบาล ซึ่งขณะนี้มีผู้แจ้งความจำนงเข้ามาแล้วหลายราย คาดว่าจะเป็นรูปเป็นร่างได้ประมาณเดือนตุลาคมนี้