นครศรีธรรมราช - หนุ่มเมืองคอนเสียชีวิตสังเวยไข้หวัด 2009 แพทย์ระบุพบปอดมีปัญหาอาการหนักก่อนมาถึง โรงพยาบาล ขณะที่นายกสมาคมโรคติดเชื้อไทยเตือนอีก 2 เดือนระบาดกลับอีก หวั่นเชื้อกลายพันธุ์
สถานการณ์โรคไข้หวัด 2009 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชยังน่าเป็นห่วง ล่าสุดเมื่อวันนี้ (24 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าว 1 ราย ที่โรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช ทราบชื่อคือ นายวิเชษฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ชาว อ.เมือง นครศรีธรรมราช
นายแพทย์ปิยะ มงคลวงศ์โรจน์ แพทย์อายุรแพทย์ประจำโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า กรณีของผู้ป่วยรายที่เสียชีวิตได้เข้ามารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีไข้สูงตั้งแต่เข้ามาและมีอาการหอบค่อนข้างหนักและทราบว่าก่อนที่จะเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนั้นได้ไปรักษาอยู่ที่คลินิก มีการนำยามารับประทานที่บ้านแต่อาการก็ไม่ดีขึ้น
เมื่อมารักษาที่โรงพยาบาลมีไข้สูงมาก ซึ่งเมื่อเอกซเรย์ปอดพบว่า มีการติดเชื้อที่ปอดทั้งสองข้างโดยลักษณะการกระจายทั้งสองข้าง จึงนำส่งเสมหะไปตรวจพิสูจน์
ผลการตรวจพิสูจน์ส่งกลับมา เมื่อวานเช้า (23 ส.ค.) ว่า มีเชื้อไวรัสไข้หวัด 2009 และได้เสียชีวิตเมื่อเช้าวันนี้ ซึ่งการเสียชีวิตค่อนข้างที่จะเร็วมาก และจากการตรวจสอบนั้นก็สันนิษฐานว่าคนไข้น่าจะมีการติดเชื้อที่ปอดโดยพบว่า ปอดน่าจะมีปัญหามาก่อนที่จะติดเชื้อโดยคนไข้น่าจะเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยคนไข้ไม่รู้ตัวมาก่อน และเมื่อเข้ามารับการรักษาตัวที่นี้4วันก็ช่วยกันอย่างเต็มที่
“สำหรับสถานการณ์ของผู้ป่วยไข้หวัด 2009 ที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนั้น มีอาการหนักอยู่ 1 รายโดยเป็นเด็ก และมีผู้ที่ติดเชื้อและอาการไม่หนักอีก 14ราย ส่วนสถานการณ์ภาพรวมนั้นโรคไข้หวัด 2009 ที่นครฯพบว่ายังคงตัว ต้องมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง” นายแพทย์ปิยะกล่าว
ด้าน ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี นายกสมาคมโรคติดเชื้อประเทศไทยได้เปิดเผยที่โรงพยาบาลมหาราชเกี่ยวกับสถานการณ์โรคไข้หวัด 2009 ว่า สถานการณ์การติดเชื้อของโรคนี้โดยภาพรวมนั้นเริ่มมีระดับคงตัว แต่ก็มีการคาดหมายว่าในอีก 2 เดือนข้างหน้าการระบาดของโรคจะกลับมาอีกนั้น ในทางทฤษฎี หากเชื้อโรคนี้เป็นเชื้อเก่าไม่มีการกลายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาอีก ก็ไม่น่าจะเป็นห่วง แม้ว่าจะมีการกลับมาระบาดอีก เพราะคนเริ่มมีภูมิคุ้มกันโรคและมีการป้องกันและมีการผลิตวัคซีนในการป้องกัน
“เราคาดการณ์ว่าจะสามารถรับมือได้หากจะกลับมาอีก ก็คาดว่าสถานการณ์การระบาดก็คงจะเบาบางลงไปไม่น่าที่จะเป็นห่วง ในกรณีที่ไม่มีการกลายพันธุ์ แต่หากมีการกลายพันธุ์อีกก็จะต้องว่ากันไปอีกแบบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนไทยก็ไม่ควรจะประมาทในการป้องกันตัวเอง ควรจะมีจิตสำนึกในการป้องกันตัวเองอย่างต่อเนื่อง ส่วนสถานการณ์ของโรคไข้หวัด 2009 นั้น โดยภาพรวมทั้งประเทศนั้นพบว่าที่ภาคกลางยังเป็นพื้นที่มีการระบาดมากที่สุด เนื่องจากมีจำนวนผู้คนแออัดมากที่สุด” ศ.นพ.อมรกล่าวในที่สุด
สถานการณ์โรคไข้หวัด 2009 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชยังน่าเป็นห่วง ล่าสุดเมื่อวันนี้ (24 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าว 1 ราย ที่โรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช ทราบชื่อคือ นายวิเชษฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ชาว อ.เมือง นครศรีธรรมราช
นายแพทย์ปิยะ มงคลวงศ์โรจน์ แพทย์อายุรแพทย์ประจำโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า กรณีของผู้ป่วยรายที่เสียชีวิตได้เข้ามารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีไข้สูงตั้งแต่เข้ามาและมีอาการหอบค่อนข้างหนักและทราบว่าก่อนที่จะเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนั้นได้ไปรักษาอยู่ที่คลินิก มีการนำยามารับประทานที่บ้านแต่อาการก็ไม่ดีขึ้น
เมื่อมารักษาที่โรงพยาบาลมีไข้สูงมาก ซึ่งเมื่อเอกซเรย์ปอดพบว่า มีการติดเชื้อที่ปอดทั้งสองข้างโดยลักษณะการกระจายทั้งสองข้าง จึงนำส่งเสมหะไปตรวจพิสูจน์
ผลการตรวจพิสูจน์ส่งกลับมา เมื่อวานเช้า (23 ส.ค.) ว่า มีเชื้อไวรัสไข้หวัด 2009 และได้เสียชีวิตเมื่อเช้าวันนี้ ซึ่งการเสียชีวิตค่อนข้างที่จะเร็วมาก และจากการตรวจสอบนั้นก็สันนิษฐานว่าคนไข้น่าจะมีการติดเชื้อที่ปอดโดยพบว่า ปอดน่าจะมีปัญหามาก่อนที่จะติดเชื้อโดยคนไข้น่าจะเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยคนไข้ไม่รู้ตัวมาก่อน และเมื่อเข้ามารับการรักษาตัวที่นี้4วันก็ช่วยกันอย่างเต็มที่
“สำหรับสถานการณ์ของผู้ป่วยไข้หวัด 2009 ที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนั้น มีอาการหนักอยู่ 1 รายโดยเป็นเด็ก และมีผู้ที่ติดเชื้อและอาการไม่หนักอีก 14ราย ส่วนสถานการณ์ภาพรวมนั้นโรคไข้หวัด 2009 ที่นครฯพบว่ายังคงตัว ต้องมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง” นายแพทย์ปิยะกล่าว
ด้าน ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี นายกสมาคมโรคติดเชื้อประเทศไทยได้เปิดเผยที่โรงพยาบาลมหาราชเกี่ยวกับสถานการณ์โรคไข้หวัด 2009 ว่า สถานการณ์การติดเชื้อของโรคนี้โดยภาพรวมนั้นเริ่มมีระดับคงตัว แต่ก็มีการคาดหมายว่าในอีก 2 เดือนข้างหน้าการระบาดของโรคจะกลับมาอีกนั้น ในทางทฤษฎี หากเชื้อโรคนี้เป็นเชื้อเก่าไม่มีการกลายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาอีก ก็ไม่น่าจะเป็นห่วง แม้ว่าจะมีการกลับมาระบาดอีก เพราะคนเริ่มมีภูมิคุ้มกันโรคและมีการป้องกันและมีการผลิตวัคซีนในการป้องกัน
“เราคาดการณ์ว่าจะสามารถรับมือได้หากจะกลับมาอีก ก็คาดว่าสถานการณ์การระบาดก็คงจะเบาบางลงไปไม่น่าที่จะเป็นห่วง ในกรณีที่ไม่มีการกลายพันธุ์ แต่หากมีการกลายพันธุ์อีกก็จะต้องว่ากันไปอีกแบบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนไทยก็ไม่ควรจะประมาทในการป้องกันตัวเอง ควรจะมีจิตสำนึกในการป้องกันตัวเองอย่างต่อเนื่อง ส่วนสถานการณ์ของโรคไข้หวัด 2009 นั้น โดยภาพรวมทั้งประเทศนั้นพบว่าที่ภาคกลางยังเป็นพื้นที่มีการระบาดมากที่สุด เนื่องจากมีจำนวนผู้คนแออัดมากที่สุด” ศ.นพ.อมรกล่าวในที่สุด
