xs
xsm
sm
md
lg

จนท.เข้าแจ้งความควานมือเผาป่าพรุควนเคร็งเสียหายกว่า 1 พันไร่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - พื้นที่ควนเคร็งไฟป่าผลาญกว่า 1 พันไร่ จนท.รังวัดพื้นที่ จนท.ป่าไม้เข้าแจ้งความควานหามือเผาเล็งลูกน้องนักเคลื่อนไหวหาที่ดินทำกินมือวางเพลิง-ขั้นต่อไปเกณฑ์ชาวบ้านยึดทำกิน

กรณีเหตุการณ์ไฟป่าลุกลามเผาไหม้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าพรุควนเคร็ง ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช รวม 3 วัน ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำและเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพของป่าพรุธรรมชาติแหล่งใหญ่เป็นลำดับ 2 ของภาคใต้รองจากป่าพรุโต๊ะแดงในจังหวัดนราธิวาส โดยหลังจากที่ไฟป่าได้ลุกโหมมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งคืนวานนี้ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักหลายระลอก ส่งผลให้ไฟป่าที่โหมอยู่ในพื้นที่ได้สงบและมอดลงตามลำดับ คงเหลือเพียงร่องรอยของความเสียหาย ทั้งในส่วนของพืชพรรณไม้ ทุ่งกระจูด และสัตว์เล็กสัตว์น้อยจำนวนมากที่หนีวงล้อมของไฟได้ไม่ทัน

เบื้องต้นนั้นเชื่อว่า เป็นการจุดไฟเผาพื้นที่ เพื่อต้องการเข้าไปครอบครองทำประโยชน์ของนายทุน โดยเฉพาะเพื่อการลงทุนเกี่ยวกับการทำสวนปาล์มในพื้นที่โดยเฉพาะ ซึ่งประเด็นปัญหาดังกล่าวนั้นได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ในพื้นทีป่าพรุอันอุดมสมบูรณ์ของนครศรีธรรมราช ที่กระจายอยู่ใน อ.หัวไทร อ.เชียรใหญ่ อ.ชะอวด และ อ.เฉลิมพระเกียรติ

ส่วนความเคลื่อนไหวของการดำเนินการตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ หลังจากไฟป่าทุกจุดได้สงบลง นายธนากร รักธรรม หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่า พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ออกหาพิกัดดาวเทียมทุกมุมที่เกิดไฟป่า จนสามารถคำนวณหาเนื้อที่ ที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดปรากฎว่ามีพื้นที่รวม 1,119 ไร่ ได้รับความเสียหาย

ซึ่งทั้งหมดอยู่ในอาณาเขตของตำบลเคร็งเพียงตำบลเดียวเท่านั้น หลังจากนี้ จะนำเอารายละเอียดหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.อ.ชะอวด ซึ่งคาดว่าสามารถแจ้งความได้ในวันนี้ และทางเราเองเชื่อว่าสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้นั้นเกิดจากการจุดไฟเผาป่า ขณะเดียวกันได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่ไฟป่าลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเฝ้าระวังการลักลอบจุดไฟเผาป่าของผู้ไม่ประสงค์ดี

นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยภายหลังบินตรวจสภาพไฟไหม้ป่าสงวนแห่งชาติพรุควนเคร็ง อ.ชะอวด ว่า พบความเสียหายเกือบพันไร่ รวมถึงป่ากระจูดซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของชุมชน แต่ถือว่าเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายประสานการทำงานได้อย่างรวดเร็ว แม้จะควบคุมสถานการณ์ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากสภาพพื้นที่เข้าถึงยาก นอกจากนี้ถือว่าเป็นความโชคดีที่ทีมฝนหลวงเข้ามาปฏิบัติการในพื้นที่นครศรีธรรมราช จึงทำให้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไฟป่าดับลงทั้งหมด และไม่มีควันไฟ อย่างไรก็ดี ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเวรยามอาสาสมัครชาวบ้านเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวนั้น จังหวัดจะเสนอมาตรการเร่งด่วนไปยังอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยจะเร่งทำพนังดินกั้นไฟบริเวณป่ากระจูดพื้นที่ 3,000 ไร่ หรือ 30 กิโลเมตร ภายใน 2 สัปดาห์นี้



กำลังโหลดความคิดเห็น