นครศรีธรรมราช – เกิดเหตุเพลิงไหม้ ธนาคารธนชาต สาขานครศรีธรรมราช สาเหตุเกิดจากคอมเพรสเซอร์แอร์ลัดวงจร ทรัพย์สินภายในเสียหายยับเยิน โชคดีรถดับเพลิงสกัดเพลิงได้ก่อนอาคารวอดวาย
วันนี้ (23 ส.ค.) ร.ต.อ.ศุภชัย งามปลอด ร้อยเวร สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้ธนาคารธนชาต สาขาจังหวัดนครศรีธรรมราช เลขที่ 152/390 สามแยกประตูขาว ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.คลัง อ.เมือง จึงประสานขอรถกับเพลิงจากเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช จากนั้นจึงนำกำลังตำรวจรีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุและอำนวยการจราจร โดยทำการปิดถนนสายประตูขาวที่จะออกไปตัดกัลป์ถนนพัฒนาการคูขวาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ดับเพลิง
ในเบื้องต้นพบควันไฟพวยพุ่งออกมาจากภายในอาคารอย่างรุนแรง ในขณะที่มีแม่บ้านและเจ้าหน้าที่ของธนาคารช่วยกันขนทรัพย์สินภายในอาคาร เช่น เอกสาร เครื่องคอมพิวเตอร์ โต๊ะ เก้าอี้ ออกมาวางไว้ด้านนอกเต็มไปหมด ในขณะเดียวกัน นายสุเทพ ณ บางไทร ผู้จัดการธนาคารธนชาต สาขานครศรีธรรมราช ทราบเรื่องได้รีบเดินทางมาอำนวยความสะดวกในการดับเพลิงด้วย โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องสวมหน้ากากป้องกันสารพิษฝ่าควันไฟเข้าไปในอาคารฉีดน้ำดับเพลิง นานกว่าครึ่งชั่วโมงเพลิงจึงสงบ
จากการตรวจสอบพบต้นเพลิงมาจากห้องทำงานห้องหนึ่ง โดยอาคารเสียหายเล็กน้อย แต่เอกสารหลักฐานต่างๆ อุปกรณ์ เครื่องใช้สำนักงานพร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์เสียหายยับเยิน ในเบื้องต้นยังประเมินค่าเสียหายไม่ได้ คาดว่า เสียหายไม่น้อยกว่า 2 แสนบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันพื้นที่เกิดเหตุเอาไว้ห้ามผู้ใดเข้าไปอย่างเด็ดขาด เพื่อให้ตำรวจกองวิทยาการเขต 43 นครศรีธรรมราช เข้ามาตรวจสอบและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
จากนั้นได้สอบสวนปากคำ นายสุเทพ ผู้จัดการ ได้ความว่าขณะเกิดเหตุเป็นวันหยุด แต่มีแม่บ้าน 2-3 คน มาทำความสะอาดภายในอาคาร ขณะที่แม่บ้านกำลังเช็ดถู ปัดกวาดห้องต่างๆ ภายในอาคาร ก็มีควันพายพุ่งออกมาจากห้องทำงานห้องหนึ่ง เมื่อแม่บ้านวิ่งเข้าไปดูภายในห้องพบว่าเกิดจากกระแสไฟฟ้าที่ต่อเข้าคอมเพรสเซอร์แอร์ลัดวงจร และลุกลามติดข้าวของภายในอาคารอย่างรวดเร็ว แม่บ้านพยายามใช้ถังดับเพลิงฉีดดับ แต่ไม่สามารถสกัดเพลิงได้ จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจเพลิงดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การเกิดเพลิงไหม้ธนาคารธนชาตในครั้งนี้ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ประชาชนอย่างกว้างขวาง ว่า เป็นการตั้งใจวางเพลิงเพื่อเผาทำลายหลักฐานบางอย่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เชิญผู้บริหาร พนักงาน และแม่บ้านที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบสวนปากคำอย่างละเอียด พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานจากกองวิทยาการ และสรุปสาเหตุเพลิงไหม้ที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง