นครศรีธรรมราช - ไฟโหมทุ่งกระจูดกลางป่าพรุควนเคร็งวอด 600 ไร่ ศูนย์ไฟป่าลุ่มน้ำปากพนังจำกัดวงได้แล้ว ท่ามกลางข้อสงสัยสาเหตุไฟไหม้ว่ามาจากการจุดไฟเผาป่าของชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่ออกล่าตัวชะมด และมีการตั้งข้อสังเกตว่านายทุนได้ว่าจ้างชาวบ้านให้เข้าไปจุดไฟทำลายเพื่อต้องการให้ป่ากระจูดเสื่อมโทรมและเข้าไปครอบครองเพื่อทำสวนปาล์ม
ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดสถานการณ์ไฟป่าลุกลามในทุ่งกระจูด ซึ่งเป็นทุ่งที่ชาวบ้านเก็บเกี่ยวต้นกระจูดนำมาทำผลิตภัณฑ์กระจูดในพื้นที่ ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยเพลิงได้ลุกลามไหม้เป็นบริเวณกว้าง และโหมกระหน่ำไหม้พื้นที่ทุ่งกระจูดและป่าพรุอย่างรวดเร็ว ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นพื้นที่อยู่ในเขตป่าพรุควนเคร็งซึ่งเป็นพื้นที่ป่าพรุอันอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่รองจากป่าพรุโต๊ะแดง และเป็นที่ที่ชาวบ้านช้ำทำมาหากินมาหลายชั่วอายุคน สถานการณ์นั้นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เจ้าหน้าที่จาก อบต.เคร็ง และ อบต.ใกล้เคียงรวมทั้งเทศบาลชะอวด ได้นำกำลังเข้าควบคุมเพลิงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนจนกระทั่งช่วงเช้า
นายธนากร รักธรรม หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริเปิดเผยว่าได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ไฟป่าจากศูนย์ควบคุมไฟป่าเข้ามาสมทบช่วยกันสกัดกั้นซึ่งล่าสุดนั้นสถานการณ์นั้นสามารถจำกัดพื้นที่ไฟป่าไว้ได้แล้ว โดยประมาณการในเบื้องต้นนั้นมีทุ่งกระจูดถูกไฟป่าลุกลามไปราว 600 ไร่ ซึ่งเป็นจุดที่ต้นกระจูดขึ้นอยู่หนาแน่น หรือเรียกว่ากระจูด แต่รถยนต์ไม่สามารถเข้าไปถึงพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ได้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่กลางป่าพรุที่มีทั้งลำคลอง หนองบึงล้อมรอบ และบางส่วนยังเป็นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ โดยล่าสุดนั้นนายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งโดยรวมนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัดแล้ว ไม่ได้ลุกลามเพิ่มเติมต่อไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่าสำหรับสาเหตุไฟดังกล่าวนั้นเบื้องต้นพบว่ามีรายงานถึงการจุดไฟเผาป่าของชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่ออกล่าตัวชะมด หรือภาษาถิ่นเรียกว่า “มูสัง” ที่มีชุกชุมอยู่ในพื้นที่ และมีการตั้งข้อสังเกตว่านายทุนได้ว่าจ้างชาวบ้านให้เข้าไปจุดไฟทำลายเพื่อต้องการให้ป่ากระจูดเสื่อมโทรมและเข้าไปครอบครองเพื่อทำสวนปาล์ม ซึ่งในย่านดังกล่าวนั้นมีปัญหาในการเข้าบุกรุกพื้นที่ป่าเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนที่มูลนิธิชัยพัฒนา เข้าศึกษาวิจัยเรื่องไม้เสม็ดขาวครบวงจรกว่า 3 พันไร่ ส่วนพื้นที่ที่ถูกไฟไม้นั้นประกอบด้วย หมู่ 3 หมู่ 9 หมู่ 1 หมู่ 11 ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช สำหรับป่าสงวนแห่งชาติพรุควนเคร็ง เป็นพื้นป่ากระจูด มีต้นกระจูดอยู่มากที่สุดของประเทศไทย เป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญที่ชาวบ้านตำบลเคร็งออกไปเก็บต้นกระจูดนำมาใช้ในการผลิตสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนชนิดต่างๆจนมีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศ
ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดสถานการณ์ไฟป่าลุกลามในทุ่งกระจูด ซึ่งเป็นทุ่งที่ชาวบ้านเก็บเกี่ยวต้นกระจูดนำมาทำผลิตภัณฑ์กระจูดในพื้นที่ ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยเพลิงได้ลุกลามไหม้เป็นบริเวณกว้าง และโหมกระหน่ำไหม้พื้นที่ทุ่งกระจูดและป่าพรุอย่างรวดเร็ว ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นพื้นที่อยู่ในเขตป่าพรุควนเคร็งซึ่งเป็นพื้นที่ป่าพรุอันอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่รองจากป่าพรุโต๊ะแดง และเป็นที่ที่ชาวบ้านช้ำทำมาหากินมาหลายชั่วอายุคน สถานการณ์นั้นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เจ้าหน้าที่จาก อบต.เคร็ง และ อบต.ใกล้เคียงรวมทั้งเทศบาลชะอวด ได้นำกำลังเข้าควบคุมเพลิงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนจนกระทั่งช่วงเช้า
นายธนากร รักธรรม หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริเปิดเผยว่าได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ไฟป่าจากศูนย์ควบคุมไฟป่าเข้ามาสมทบช่วยกันสกัดกั้นซึ่งล่าสุดนั้นสถานการณ์นั้นสามารถจำกัดพื้นที่ไฟป่าไว้ได้แล้ว โดยประมาณการในเบื้องต้นนั้นมีทุ่งกระจูดถูกไฟป่าลุกลามไปราว 600 ไร่ ซึ่งเป็นจุดที่ต้นกระจูดขึ้นอยู่หนาแน่น หรือเรียกว่ากระจูด แต่รถยนต์ไม่สามารถเข้าไปถึงพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ได้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่กลางป่าพรุที่มีทั้งลำคลอง หนองบึงล้อมรอบ และบางส่วนยังเป็นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ โดยล่าสุดนั้นนายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งโดยรวมนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัดแล้ว ไม่ได้ลุกลามเพิ่มเติมต่อไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่าสำหรับสาเหตุไฟดังกล่าวนั้นเบื้องต้นพบว่ามีรายงานถึงการจุดไฟเผาป่าของชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่ออกล่าตัวชะมด หรือภาษาถิ่นเรียกว่า “มูสัง” ที่มีชุกชุมอยู่ในพื้นที่ และมีการตั้งข้อสังเกตว่านายทุนได้ว่าจ้างชาวบ้านให้เข้าไปจุดไฟทำลายเพื่อต้องการให้ป่ากระจูดเสื่อมโทรมและเข้าไปครอบครองเพื่อทำสวนปาล์ม ซึ่งในย่านดังกล่าวนั้นมีปัญหาในการเข้าบุกรุกพื้นที่ป่าเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนที่มูลนิธิชัยพัฒนา เข้าศึกษาวิจัยเรื่องไม้เสม็ดขาวครบวงจรกว่า 3 พันไร่ ส่วนพื้นที่ที่ถูกไฟไม้นั้นประกอบด้วย หมู่ 3 หมู่ 9 หมู่ 1 หมู่ 11 ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช สำหรับป่าสงวนแห่งชาติพรุควนเคร็ง เป็นพื้นป่ากระจูด มีต้นกระจูดอยู่มากที่สุดของประเทศไทย เป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญที่ชาวบ้านตำบลเคร็งออกไปเก็บต้นกระจูดนำมาใช้ในการผลิตสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนชนิดต่างๆจนมีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศ
