นครศรีธรรมราช – รมว.พาณิชย์ เปิดศูนย์จำหน่ายสินค้าชุมชน เพื่อเป็นช่องทางในการระบายสินค้าเกษตร ซึ่งได้มีการรวบรวมและกระจายผลไม้ออกสู่ตลาดระหว่างวันที่ 13 ก.ค.-18 ส.ค.นี้ ถึง 665 ตัน เป็นเงาะ 362 ตัน, มังคุด 292 ตัน และลองกอง 10 ตัน โดยเฉพาะมังคุดได้จัดส่งไปประเทศจีนทางรถบรรทุกหัวลาก 22 ล้อ เป็นปีแรก ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบโลจิสติกส์แบบใหม่ที่จะนำร่องในอนาคต
วันนี้ (21 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.นางทิวาพร นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิดศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ตลาดพืชผลหัวอิฐ อ.เมือง นครศรีธรรมราช ทั้งนี้จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นพื้นที่แหล่งเพาะปลูกสินค้าเกษตรสำคัญหลายชนิด เศรษฐกิจทั่วไปของจังหวัดขึ้นอยู่กับภาคการเกษตร ประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพหลักคือการทำสวนยางพารา ทำนา ทำไร่ ปลูกผลไม้ และการประมง ในแต่ละปีจะเกิดปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำในช่วงฤดูกาล กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญและแก้ไขปัญหามาอย่างจริงจังตลอด จึงได้มีนโยบายในการจัดตั้งศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน เพื่อเป็นแหล่งรองรับผลผลิตทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ จึงเป็นเรื่องที่ดีของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชที่จะมีแหล่งจำหน่ายผลผลิตเพิ่มเติม จะส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดด้วย
สำหรับผลจากการตั้งศูนย์สินค้าจำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน สามารถรวบรวมและกระจายผลไม้ออกสู่ตลาดระหว่างวันที่ 13 ก.ค.-18 ส.ค.นี้ ถึง 665 ตัน เป็นเงาะ 362 ตัน , มังคุด 292 ตัน และลองกอง 10 ตันโดยเฉพาะมังคุดได้จัดส่งไปประเทศจีนทางรถบรรทุกหัวลาก 22 ล้อ เป็นปีแรก ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบโลจิสติกส์แบบใหม่ที่จะนำร่องในอนาคต นอกจากนั้นจังหวัดสามารถใช้ห้องเย็นขนาดใหญ่ของจังหวัดโดยเทศบาลนครนครศรีธรรมราชเป็นผู้บริหาร
นางทิวาพร นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวง เปิดเผยว่า ภาพรวมสินค้าการเกษตรเป็นสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องข้าว ซึ่งจะมีแนวทางดูความเหมาะสม สินค้าทุกประเภทจะมีการประกันหมดซึ่งเกษตรกรเรียกร้องมา เรื่องแก้ไขปัญหาเรื่องผลผลิตทางการเกษตรเราทำให้อยู่แล้ว โดยจะมี ส.ส.ในพื้นที่จะมารับทราบปัญหาแล้วนำไปให้รัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือต่อไป ส่วนเรื่องราคากุ้งตกต่ำนั้น กระทรวงพาณิชย์จะดูแลให้อย่างเต็มที่ต่อไป
วันนี้ (21 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.นางทิวาพร นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิดศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ตลาดพืชผลหัวอิฐ อ.เมือง นครศรีธรรมราช ทั้งนี้จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นพื้นที่แหล่งเพาะปลูกสินค้าเกษตรสำคัญหลายชนิด เศรษฐกิจทั่วไปของจังหวัดขึ้นอยู่กับภาคการเกษตร ประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพหลักคือการทำสวนยางพารา ทำนา ทำไร่ ปลูกผลไม้ และการประมง ในแต่ละปีจะเกิดปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำในช่วงฤดูกาล กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญและแก้ไขปัญหามาอย่างจริงจังตลอด จึงได้มีนโยบายในการจัดตั้งศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน เพื่อเป็นแหล่งรองรับผลผลิตทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ จึงเป็นเรื่องที่ดีของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชที่จะมีแหล่งจำหน่ายผลผลิตเพิ่มเติม จะส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดด้วย
สำหรับผลจากการตั้งศูนย์สินค้าจำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน สามารถรวบรวมและกระจายผลไม้ออกสู่ตลาดระหว่างวันที่ 13 ก.ค.-18 ส.ค.นี้ ถึง 665 ตัน เป็นเงาะ 362 ตัน , มังคุด 292 ตัน และลองกอง 10 ตันโดยเฉพาะมังคุดได้จัดส่งไปประเทศจีนทางรถบรรทุกหัวลาก 22 ล้อ เป็นปีแรก ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบโลจิสติกส์แบบใหม่ที่จะนำร่องในอนาคต นอกจากนั้นจังหวัดสามารถใช้ห้องเย็นขนาดใหญ่ของจังหวัดโดยเทศบาลนครนครศรีธรรมราชเป็นผู้บริหาร
นางทิวาพร นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวง เปิดเผยว่า ภาพรวมสินค้าการเกษตรเป็นสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องข้าว ซึ่งจะมีแนวทางดูความเหมาะสม สินค้าทุกประเภทจะมีการประกันหมดซึ่งเกษตรกรเรียกร้องมา เรื่องแก้ไขปัญหาเรื่องผลผลิตทางการเกษตรเราทำให้อยู่แล้ว โดยจะมี ส.ส.ในพื้นที่จะมารับทราบปัญหาแล้วนำไปให้รัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือต่อไป ส่วนเรื่องราคากุ้งตกต่ำนั้น กระทรวงพาณิชย์จะดูแลให้อย่างเต็มที่ต่อไป