สตช.สั่งเคลื่อนย้ายด่วนชาวโรฮิงยา 55 คน จากห้องขัง ตม.ระนองไปยังศูนย์ส่งกลับ สตม.ที่ซอยสวนพลู หลังเสียชีวิตคาห้องขัง 2 คน ขาอ่อนแรงกว่า 10 คน สสจ.ระนองระบุเป็นโรคขาดสารอาหาร และไม่ได้ออกกำลังกาย
ผู้สื่อขา่วรายงานว่า ชาวโรฮิงยาที่ถูกคุมขังอยู่ที่ห้องขังด่าน ตม.ระนองเสียชีวิต 2 ราย และเจ็บป่วยแขนขาอ่อนแรงอีกนับ 10 ราย อันเป็นผลมาจากการที่ต้องถูกคุมขังอยู่ภายในห้องแคบๆ เป็นระยะเวลานานกว่า 7 เดือน จนหลายฝ่ายเริ่มวิตก ล่าสุดทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองระนองให้นำตัวชาวโรฮิงยาที่ทั้งหมดไปยังด่าน สตม.สวนพลู
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้มีหนังสือด่วนที่สุดไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เพื่อให้เคลื่อนย้ายชาวโรฮิงยาที่ถูกกักกันตัวเพื่อรอการส่งกลับที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ระนอง จำนวน 55 คน ไปยังศูนย์ส่งกลับ สตม.ที่ซอยสวนพลู กรุงเทพมหานครนี้ โดยไม่ทราบสาเหตุ
พ.ต.ท.ณัชธฤต ปิ่นปัก สารวัตรใหญ่ด่าน ตม. ระนอง กล่าวว่าได้มีคำสั่งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติจริง และทาง ตม.ระนองได้นำรถบรรทุก 10 ล้อ จำนวน 1 คัน เพื่อเตรียมที่จะขนชาวโรฮิงญาจากห้องควบคุมตัวด่าน ตม.ระนอง ไปกรุงเทพฯ โดยออกเดินทางในเวลา 21.00 น. ซึ่งมีมูลนิธิ JRS และด่าน ตม.ระนองได้ไปมอบอาหารสำเร็จรูป ของใช้ส่วนตัว ขนม ผลไม้ให้รับประทานระหว่างเดินทางด้วย
นายมามุต ฮุตเซ็น อายุ 50 ปี ซึ่งพูดไทยได้ค่อนข้างชัดเจน กล่าวก่อนขึ้นรถว่า ใจจริงแล้วตนไม่อยากเดินทางไปกรุงเทพฯ อยากอยู่ที่ระนอง เพราะเจ้าหน้าที่ดูแลในเรื่องอาหารการกินดี แต่เมื่อทางการไทยให้ไปก็ต้องเสี่ยง ความคิดของตนตอนนี้ไม่อยากกลับบ้านแล้วเพราะกลัวทหารพม่าทำร้าย ขอให้ส่งไปอยู่ที่ประเทศไหนก็ได้ยกเว้นพม่า
รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุหลักที่มีการสั่งเคลื่อนย้ายชาวโรฮิงยาในครั้งนี้เกิดจากการร้องขอจากหลายฝ่ายถึงปัญหาชาวโรฮิงยาที่โดนคุมขังโดยเฉพาะกรณีการเสียชีวิตของชาวโรฮิงยาจำนวน 2 คนและมีอาการอ่อนแรงเดินไม่ได้กว่า 10 คนซึ่งหากปล่อยไว้อาจจะมีชาวโรฮิงยาเสียชีวิตเพิ่มขึ้นซึ่งจะเป็นประเด็นที่ทำให้ประเทศไทยโดนโจมตีจากองค์กรเอ็นจีโอต่างๆ ได้จึงทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องรีบเคลื่อนย้ายในครั้งนี้
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวโรฮิงยามีอาการอ่อนแรงเนื่องจากเกิดจากขาดสารอาหาร ขาดวิตามินดี อี เค และแคลเซียม ไม่ได้ออกกำลังกาย ไม่ถูกแสงแดดถูกขังอยู่ในที่แคบเป็นเวลานาน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดหัวใจอักเสบเฉียบพลันทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งที่เสียชีวิตไป 2 คนน่าจะมาจากสาเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ ชาวโรฮิงยาดังกล่าวจำนวน 57 คน จากจำนวน 78 คน ถูกทางการไทยควบคุมตัวไว้ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2552 หลังศาลจังหวัดระนองพิพากษาสั่งปรับคนละ 2,000 บาทและถูกขังแทนค่าปรับแล้ว ถูกควบคุมตัวไว้ที่ด่าน ตม.ระนองเรื่อยมาโดยไม่มีวี่แววว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ผู้สื่อขา่วรายงานว่า ชาวโรฮิงยาที่ถูกคุมขังอยู่ที่ห้องขังด่าน ตม.ระนองเสียชีวิต 2 ราย และเจ็บป่วยแขนขาอ่อนแรงอีกนับ 10 ราย อันเป็นผลมาจากการที่ต้องถูกคุมขังอยู่ภายในห้องแคบๆ เป็นระยะเวลานานกว่า 7 เดือน จนหลายฝ่ายเริ่มวิตก ล่าสุดทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองระนองให้นำตัวชาวโรฮิงยาที่ทั้งหมดไปยังด่าน สตม.สวนพลู
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้มีหนังสือด่วนที่สุดไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เพื่อให้เคลื่อนย้ายชาวโรฮิงยาที่ถูกกักกันตัวเพื่อรอการส่งกลับที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ระนอง จำนวน 55 คน ไปยังศูนย์ส่งกลับ สตม.ที่ซอยสวนพลู กรุงเทพมหานครนี้ โดยไม่ทราบสาเหตุ
พ.ต.ท.ณัชธฤต ปิ่นปัก สารวัตรใหญ่ด่าน ตม. ระนอง กล่าวว่าได้มีคำสั่งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติจริง และทาง ตม.ระนองได้นำรถบรรทุก 10 ล้อ จำนวน 1 คัน เพื่อเตรียมที่จะขนชาวโรฮิงญาจากห้องควบคุมตัวด่าน ตม.ระนอง ไปกรุงเทพฯ โดยออกเดินทางในเวลา 21.00 น. ซึ่งมีมูลนิธิ JRS และด่าน ตม.ระนองได้ไปมอบอาหารสำเร็จรูป ของใช้ส่วนตัว ขนม ผลไม้ให้รับประทานระหว่างเดินทางด้วย
นายมามุต ฮุตเซ็น อายุ 50 ปี ซึ่งพูดไทยได้ค่อนข้างชัดเจน กล่าวก่อนขึ้นรถว่า ใจจริงแล้วตนไม่อยากเดินทางไปกรุงเทพฯ อยากอยู่ที่ระนอง เพราะเจ้าหน้าที่ดูแลในเรื่องอาหารการกินดี แต่เมื่อทางการไทยให้ไปก็ต้องเสี่ยง ความคิดของตนตอนนี้ไม่อยากกลับบ้านแล้วเพราะกลัวทหารพม่าทำร้าย ขอให้ส่งไปอยู่ที่ประเทศไหนก็ได้ยกเว้นพม่า
รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุหลักที่มีการสั่งเคลื่อนย้ายชาวโรฮิงยาในครั้งนี้เกิดจากการร้องขอจากหลายฝ่ายถึงปัญหาชาวโรฮิงยาที่โดนคุมขังโดยเฉพาะกรณีการเสียชีวิตของชาวโรฮิงยาจำนวน 2 คนและมีอาการอ่อนแรงเดินไม่ได้กว่า 10 คนซึ่งหากปล่อยไว้อาจจะมีชาวโรฮิงยาเสียชีวิตเพิ่มขึ้นซึ่งจะเป็นประเด็นที่ทำให้ประเทศไทยโดนโจมตีจากองค์กรเอ็นจีโอต่างๆ ได้จึงทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องรีบเคลื่อนย้ายในครั้งนี้
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวโรฮิงยามีอาการอ่อนแรงเนื่องจากเกิดจากขาดสารอาหาร ขาดวิตามินดี อี เค และแคลเซียม ไม่ได้ออกกำลังกาย ไม่ถูกแสงแดดถูกขังอยู่ในที่แคบเป็นเวลานาน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดหัวใจอักเสบเฉียบพลันทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งที่เสียชีวิตไป 2 คนน่าจะมาจากสาเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ ชาวโรฮิงยาดังกล่าวจำนวน 57 คน จากจำนวน 78 คน ถูกทางการไทยควบคุมตัวไว้ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2552 หลังศาลจังหวัดระนองพิพากษาสั่งปรับคนละ 2,000 บาทและถูกขังแทนค่าปรับแล้ว ถูกควบคุมตัวไว้ที่ด่าน ตม.ระนองเรื่อยมาโดยไม่มีวี่แววว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
