สุราษฎร์ธานี - “เทือกสุบรรณ” ส่งตัวแทนยื่นคัดค้านผลเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ฯ กล่าวหาคู่แข่งหาเสียงงานทอดผ้าป่าผิด กม.เลือกตั้ง ด้าน “มนตรี เพชรขุ้ม” แถลงโต้ไม่มีเจตนาล้มตระกูล “เทือกสุบรรณ” แต่เป็นการตัดสินใจของ ปชช.ที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง
วันนี้ (29 ก.ค.) นายธงชัย วรรณธนพิศิษฐ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้มีตัวแทนของนายดำรง เทือกสุบรรณ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี นำเอกสารและแผ่นซีดี เข้ายื่นร้องเรียนคัดค้านผลการเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี โดยกล่าวหาว่านายมนตรี เพชรขุ้ม ผู้ชนะการเลือกตั้ง กระทำความผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง โดยการถือไมโครโฟนหาเสียงในงานทอดผ้าป่าที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขณะนี้กำลังตรวจสอบรายละเอียด พยานหลักฐานแล้วจะวินิจฉัยว่าจะรับเป็นคำร้องหรือไม่ แล้วจะส่งเรื่องให้ กกต.จังหวัดพิจารณาอีกครั้ง
ส่วนประเด็นคำร้องนั้นไม่มีรายละเอียดมากนัก คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 20 วัน แล้วส่งเรื่องให้ กกต.ส่วนกลางพิจารณาอีกครั้ง ด้านการประกาศผลรับรองการเลือกตั้งทางกฎหมายกำหนดไม่เกิน 30 วัน หลังจากการเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าจะประกาศรับรองผลเป็นทางการได้ประมาณวันที่ 10-15 สิงหาคม 2552 นี้
ด้าน นายมนตรี เพชรขุ้ม พร้อมทีมงาน ได้เปิดแถลงข่าวเปิดใจต่อการได้รับเลือกให้มาดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานีว่า ต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ให้ความไว้วางใจตนเอง โดยส่วนตัวเชื่อมั่นว่าการทำหน้าที่ต้องได้รับความเป็นธรรม โปร่งใส ชัดเจนที่สุด สิ่งที่พี่น้องได้ตั้งความหวังเอาไว้ว่าจะให้บริหารเข้าถึงทุกพื้นที่ ซึ่งวันนี้ถึงเวลาแล้วที่ตนเองจะพิสูจน์
โดยมองว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นองค์กรหนึ่งที่ต้องดูแลประชาชน ทั้งจังหวัดไม่ใช่ที่หนึ่งที่ใด ซึ่งวิถีทางประชาธิปไตยทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน เช่นเดียวกับพี่น้องประชาชนที่ได้ตัดสินใจเลือกตัวแทนเข้าไปทำหน้าที่ในการรับใช้ประชาชน ทีมสุราษฎร์ร่มเย็น มีตนเองดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี และทีมงาน มีนายกิตติ โพธิ์พิชญกุล เป็นรองนายกคนที่ 1, นายพูลศักดิ์ พึ่งชาติ เป็นรองนายกคนที่ 2, นายพิสัณห์ ทองโมถ่าย เป็นเลขานุการนายก, นายสมบูรณ์ ทองพัฒน์ เป็นที่ปรึกษา, นายทวีศักดิ์ จันทร์อุ่น เป็นที่ปรึกษา พร้อมด้วย นายภิญโญ ศรีทองกุล และนายภิญญา ช่วยปลอด
นายมนตรียังกล่าวถึงยุทธศาสตร์การพัฒนาที่วางไว้ด้วยว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว และมีพืชผลทางการเกษตรดังนั้น สิ่งที่เร่งด่วน คือ การประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า และบึงขุนทะเล รวมถึงอำเภอต่างๆ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ จะต้องรีบช่วยกันเรื่องเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะขณะนี้ที่เกษตรกรในจังหวัดสุราษฎร์ธานี กำลังประสบปัญหาเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็น ราคายางพารา พืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะผลไม้ ตกต่ำ อย่างเช่น ที่อำเภอบ้านนาสาร ตอนนี้เงาะกำลังล้นตลาด จะออกนโยบายแก้ไขจัดหาโรงงานอุตสาหกรรมเงาะกระป๋อง มาที่อำเภอบ้านนาสาร เนื่องจากมองว่าปัจจุบันนี้พื้นที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก ดังนั้นจำเป็นต้องเปลี่ยนทิศทางว่าจะต้องนำเอาอุตสาหกรรมเงาะกระป๋องมาไว้ที่นี้ ส่วนยางพาราจะประสานกับภาครัฐ และเอกชนทำสถานที่รมยางด้วยตนเอง เพื่อที่จะให้ชาวสวนยางได้ปริมาณราคายางพาราที่สูงขึ้นกว่าเดิม
ส่วนเรื่องการศึกษาของเด็กนักเรียน องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะต้องดูแลการศึกษาทั้งจังหวัด ไม่ใช่ไปดูแต่ที่ใดที่หนึ่ง เพราะเชื่อว่าผู้ปกครองนักเรียน นักศึกษา และคณะครูอาจารย์ทุกคน เตรียมความพร้อมไว้ทุกที่เสมอ ด้านสาธารณสุขก็ต้องดูแลเรื่องโรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลประจำจังหวัด ที่ขณะนี้จะเห็นได้ว่าจะมีความสับสนเรื่องของสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นเตียงพยาบาล เครื่องมือแพทย์ ตลอดจนที่จอดรถ ดังนั้นต้องปรับปรุงขยายในส่วนนี้
รวมทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นป่าชายเลน พื้นที่ทำกินถูกนายทุนบุกรุก ส่วนเรื่องสำคัญที่สุดตอนนี้ คือ เรื่องปัญหาขยะ องค์การบริหารส่วนจังหวัดต้องเร่งแก้ไข ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อนให้มีทางออกที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ยังมีเรื่องความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ต้องดูแลร่วมมือกับทางราชการ ผู้ที่เกี่ยวข้องตลอดจนอาสาสมัครต่างๆ และยังได้มีอีกหลายๆ เรื่องที่นำเสนอนโยบายให้กับพี่น้องให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ส่วนด้านการส่งเสริมอาชีพ พยายามจะผลักดันเรื่องนี้เพราะว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีผู้ตกงานเป็นจำนวนมาก และมีผู้ที่ตกงานแล้วไปปล้นจี้ชาวบ้านทำให้เกิดปัญหากับสังคม
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการล้มตระกูล “เทือกสุบรรณ” ที่อาจจะส่งผลกับผู้บริหารทางฝั่ง อบจ.กับรัฐบาล ส่วนนี้ ตนมองว่า ไม่ใช่เป็นการล้มคนใดคนหนึ่ง หรือตระกูลใดตระกูลหนึ่ง แต่การเลือกตั้งนั้น ขึ้นอยู่กับประชาชน ซึ่งเป็นเสรีภาพของประชาชนมากกว่า
ส่วนในอนาคตนั้นก็สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหา ทีมของเราจะตั้งใจทำงานให้พี่น้อง ประชาชน โดยทุกคนจะทำงานอย่างโปร่งใส ชัดเจน ซึ่งประชาชนจะไม่ผิดหวังแน่นอน โดยเชื่อว่าการเข้าไปทำหน้าที่ตรงนี้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทุกคนจะให้การร่วมมือช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นอย่างดี จะไม่มีการแบ่งฝัก แบ่งฝ่าย
ด้านการประชุมขององค์กรที่มีปัญหาหลายครั้งก็รับทราบความเดือดร้อนของประชาชน เรื่องอ่าวบ้านดอน ตั้งแต่ อ.กาญจนดิษฐ์ ตลอดถึง อ.ท่าฉาง จะต้องดูแลเรื่องของธรรมชาติ ป่าชายเลน ป่าโกงกาง เรื่องน้ำเสีย ท่าเรือน้ำลึก ว่าจะมีผลกระทบอย่างไร ตอนนี้มองว่า ท่าเรือน้ำลึกจะมีปัญหาในเรื่องของการทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบจากภาวะมลพิษมากมาย
ส่วนการจัดการบริหารงบประมาณ เมื่อ กกต.ส่วนกลางรับรอง ส่งเรื่องถึง กกต.จังหวัด จะต้องร่วมประชุมในทีมว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนปัญหาเรื่องการร้องเรียน ตนสามารถชี้แจงได้ และมั่นใจว่าไม่ผิดกฎหมายการเลือกตั้งอย่างแน่นอน แต่กลับมองว่าเป็นเรื่องยุมหยิมมากจนเกินไป
ทั้งนี้ ต่อข้อถามที่ว่านายมนตรีเคยกล่าวไว้ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีว่า ไม่น่าจะมี อบจ.ซึ่งขณะนี้ตนเองได้ดำรองตแหน่งนี้แล้ว มีความคิดเห็นว่าอย่างไร นายมนตรีกล่าวว่า ตนยังยืนยันคำเดิมว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศไม่น่าจะมีขึ้นสมควรยกเลิก เพราะว่าจะไปซ้ำซ้อนกับเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล รวมถึงรัฐบาลกลางอีกด้วย ดังนั้นจึงมองว่า น่าจะยกเลิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และมาวันนี้ตนเองได้รับเลือก แต่ก็ยังยืนยันว่า ยุบได้ก็อยากให้ยุบ เลิกได้ก็เลิก เพราะว่าจะไปซ้ำซ้อนกับองค์กรอื่นอีกมากมาย.
อนึ่ง มีรายงานว่า สาเหตุที่นายมนตรีได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี โดยชนะนายดำรงค์ เทือกสุบรรณ ประมาณ 2 พันกว่าคะแนนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการขึ้นป้ายว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยให้การสนับสนุน ซึ่งทำให้พันธมิตรฯ บางส่วนเข้าใจผิด และลงคะแนนให้นายมนตรี โดยเฉพาะที่อำเภอเกาะพะงันอำเภอเดียว ลงให้กว่า 6 พันคะแนน อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวทางแกนนำพันธมิตรฯ ได้ชี้แจงแล้วว่า พันธมิตรฯ ไม่เคยมีมติที่จะสนับสนุนผู้สมัครคนใด ส่วนการขึ้นป้ายว่าพันธมิตรฯ สนับสนุนนายมนตรีนั้น เชื่อว่านายมนตรีดำเนินการเอง และแม้ว่านายมนตรีเคยขึ้นเวทีพันธมิตรฯ 1 ครั้ง แต่ในข้อเท็จจริงนายมนตรีเป็นแกนนำคนเสื้อแดงในพื้นที่ซึ่งอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับพันธมิตรฯ ด้วยซ้ำ จึงไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ อีก และล่าสุดนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยได้แถลงว่า ทางพรรคจะส่งน้องชายนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคลงสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานี แทนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ลาออกไป โดยนายพร้อมพงศ์ระบุว่าได้คุยกับนายมนตรีแล้วว่าจะช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียง