กระบี่ - วัยรุ่นควบ จยย.ไล่ยิงคู่อริสนั่นหาดอ่าวนาง ดับ 1 หนีรอดหวุดหวิด 1
วันนี้ (29 มิ.ย.) พ.ต.ท.วิทยา เมฆไส สารวัตรเวรประจำ สภ.ย่อย อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตภายในซอยนาไท 3 หมู่ที่ 1 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีรพล ทิพย์เจริญ ผกก. พ.ต.ท.สมเด็จ สุขการ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุขเกษม นครวิลัย รอง ผกก.ปป.พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา และแพทย์เวรโรงพยาบาลกระบี่
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพ นายพิศาล มีสุข อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ถ.เทศบาล 22 ต.ห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง สภาพนอนจมกองเลือด อยู่ในชุดสวมเสื้อกีฬาสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่ ชายโครงด้านขวา 1 นัด และที่โคนขาซ้าย 1 นัด กระสุนฝังใน ใกล้กันพบรถจักรยายนต์ฮอนด้าเวฟสีแดงแถบดำ ทะเบีบยน กลล 267 กระบี่ จอดล้มอยู่ นอกจากนั้น ทราบว่า ยังมีผู้รอดชีวิตอีก 1 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ ทราบชื่อ นายสมศักดิ์ กุลดี อายุ 25 ปี เป็นเพื่อนของผู้ตายอยู่บ้านเลขที่ 167 ม.1 ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง มีแผลถลอกตามร่างกาย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
จากการสอบสวน นายสมศักดิ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปตระเวนเที่ยวแถวหน้าชายหาดอ่าวนาง ต.อ่าวนาง โดยมีผู้ตายนั่งซ้อนท้าย และเมื่อขับรถมาถึงปากทางไปเวทีมวยอ่าวนาง ได้มีกลุ่มวัยรุ่น 3 คน ขับรถจักรยายนต์มาด้วยกันไม่ทราบสียี่ห้อ ตามประกบ โดยคาดว่าคนที่นั่งซ้อนท้ายชักอาวุธปืนจ่อยิงมาที่รถของตน 1 นัด กระสุนโดนที่ขาของผู้ตาย จึงรีบเร่งเครื่องหลบหนีทันที จนกระทั่งขับหนีมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางเปลี่ยว กลุ่มคู่อริได้ขับตามประกบทางด้านขวา ก่อนใช้อาวุธปืนจ่อยิงเข้าที่ชายโครงผู้ตายอีก1 นัด ผู้ตายพลัดตกจากรถส่วนตนก็เสียหลักล้มลงตามไปด้วย
นายสมศักดิ์ ให้การอีกว่า หลังจากที่เห็นเพื่อนโดนยิงเสียชีวิต ตนก็ได้ทิ้งรถจักรยายนต์ แล้ววิ่งหนีเข้าไปในหมู่บ้านท่ามกลางความมืด พร้อมตะโกนให้คนช่วย แต่ไม่มีใครได้ยิน ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุก็ได้ขับรถหลบหนีไป จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงมีคนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ เข้าไปตรวจสอบและช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล
พ.ต.ท.วิทยา กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร ขณะนี้พยานที่รอดชีวิตยังไม่ยอมเปิดเผยชื่อคนร้าย ซึ่งเชื่อว่า กลุ่มคนร้ายคงจะเป็นคู่อริกันมาก่อน เมื่อเห็น นายสมศักดิ์ จึงได้ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งจะได้สืบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (29 มิ.ย.) พ.ต.ท.วิทยา เมฆไส สารวัตรเวรประจำ สภ.ย่อย อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตภายในซอยนาไท 3 หมู่ที่ 1 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีรพล ทิพย์เจริญ ผกก. พ.ต.ท.สมเด็จ สุขการ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุขเกษม นครวิลัย รอง ผกก.ปป.พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา และแพทย์เวรโรงพยาบาลกระบี่
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพ นายพิศาล มีสุข อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ถ.เทศบาล 22 ต.ห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง สภาพนอนจมกองเลือด อยู่ในชุดสวมเสื้อกีฬาสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่ ชายโครงด้านขวา 1 นัด และที่โคนขาซ้าย 1 นัด กระสุนฝังใน ใกล้กันพบรถจักรยายนต์ฮอนด้าเวฟสีแดงแถบดำ ทะเบีบยน กลล 267 กระบี่ จอดล้มอยู่ นอกจากนั้น ทราบว่า ยังมีผู้รอดชีวิตอีก 1 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ ทราบชื่อ นายสมศักดิ์ กุลดี อายุ 25 ปี เป็นเพื่อนของผู้ตายอยู่บ้านเลขที่ 167 ม.1 ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง มีแผลถลอกตามร่างกาย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
จากการสอบสวน นายสมศักดิ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปตระเวนเที่ยวแถวหน้าชายหาดอ่าวนาง ต.อ่าวนาง โดยมีผู้ตายนั่งซ้อนท้าย และเมื่อขับรถมาถึงปากทางไปเวทีมวยอ่าวนาง ได้มีกลุ่มวัยรุ่น 3 คน ขับรถจักรยายนต์มาด้วยกันไม่ทราบสียี่ห้อ ตามประกบ โดยคาดว่าคนที่นั่งซ้อนท้ายชักอาวุธปืนจ่อยิงมาที่รถของตน 1 นัด กระสุนโดนที่ขาของผู้ตาย จึงรีบเร่งเครื่องหลบหนีทันที จนกระทั่งขับหนีมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางเปลี่ยว กลุ่มคู่อริได้ขับตามประกบทางด้านขวา ก่อนใช้อาวุธปืนจ่อยิงเข้าที่ชายโครงผู้ตายอีก1 นัด ผู้ตายพลัดตกจากรถส่วนตนก็เสียหลักล้มลงตามไปด้วย
นายสมศักดิ์ ให้การอีกว่า หลังจากที่เห็นเพื่อนโดนยิงเสียชีวิต ตนก็ได้ทิ้งรถจักรยายนต์ แล้ววิ่งหนีเข้าไปในหมู่บ้านท่ามกลางความมืด พร้อมตะโกนให้คนช่วย แต่ไม่มีใครได้ยิน ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุก็ได้ขับรถหลบหนีไป จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงมีคนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ เข้าไปตรวจสอบและช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล
พ.ต.ท.วิทยา กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร ขณะนี้พยานที่รอดชีวิตยังไม่ยอมเปิดเผยชื่อคนร้าย ซึ่งเชื่อว่า กลุ่มคนร้ายคงจะเป็นคู่อริกันมาก่อน เมื่อเห็น นายสมศักดิ์ จึงได้ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งจะได้สืบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
