ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (4 พ.ย.) หลังเลิกประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านประจำเดือน ซึ่งมีนายวรเชษฐ์ พรมโอภาษ นายอำเภอสุคิริน ร่วมประชุมที่หอประชุมอำเภอ ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นระหว่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้านกำลังจะเดินทางกลับ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 73 คน ส่วนนายอำเภอ รอดหวุดหวิดไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด และในเวลาไล่เลี่ยกันคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดรถจักรยานยนต์บอมบ์ที่หน้าที่ว่าการ อ.สุคิรินอีก 1 ลูก แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ในการระเบิดครั้งนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 20 ราย ส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ล ก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา 1 ราย ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ ของเจ้าหน้าที่พบว่าคนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่องไปซุกไว้ในรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อแดวู สีเทา ทะเบียน บง-4740 ยะลา และนำมาจอดไว้ภายในตลาดกลางขายผลไม้ อ.สุคิริน ใกล้หอประชุมดังกล่าวและจุดชนวนระเบิดขณะมีการประชุมของฝ่ายปกครอง กำนัน และผู้ ใหญ่บ้าน
เวลาต่อมาคนร้ายได้กดชนวนระเบิดรถจักรยานยนต์บอมส์ซ้ำ เพื่อหวังสังหารเจ้าหน้าที่ที่วิ่งหลบระเบิดลูกแรกออกมา ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้มีการ สนธิกำลังออกติดตามคนร้ายในพื้นที่และตามเส้นทางถนนสายหลักและสายรองอย่างเข้มงวด เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายยังคงอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ
นายธนน เวชกากานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นในบริเวณที่ประชุมกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งทั้งหมดจะมารวมตัวกันอยู่ในที่ประชุมทำให้คนร้ายสบโอกาสเหมาะที่จะทำร้ายกำนันผู้ใหญ่บ้าน ความเสียหายเบื้องต้นได้แก่รถยนต์และจักรยานยนต์
นายธนนยังกล่าวด้วยว่า คนร้ายนั้นแต่งตัวลักษณะคล้ายกำนันและผู้ใหญ่บ้านทั่วไป ซึ่งในขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งเข้ามาใหม่ ทำให้ไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตา
อย่างไรก็ตาม รองผู้ว่าฯจ.นราธิวาส ออกปากว่าดูจากรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายแล้วน่าจะจับตัวได้ภายในเร็ววันนี้
นายธนน สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้านที่เข้าร่วม ประชุมมีชาวบ้านเพียง 2-3 คนเท่านั้น ที่อยู่บริเวณร้านน้ำชา ผู้บาดเจ็บ ถูกส่งไปรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 3 แห่ง ที่โรงพยาบาลสุคิริน 42 คนที่บาดเจ็บเล็กน้อย ทำบาดแผลแล้วแพทย์ให้กลับบ้านได้ 7 คน แพทย์ให้พักที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการต่อ 24 คนถูกส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก และ 5 คนถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ส่วน 19 คนอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก โดยผู้บาดเจ็บมีอาการน่าเป็นห่วง 5 คนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
นายธนน กล่าวว่า เหตุระเบิดเกิดนอกรั้วที่ว่าการอำเภอสุคิริน ขณะที่กำนันและผู้ใหญ่บ้านออกจากห้องประชุม จุดแรกห่างจากที่ประชุม 30 เมตร จุดที่สองเกิดขึ้น ช่วงเวลาห่างกัน 3 นาทีห่างจากจุดแรก 150 เมตร เป็นบริเวณร้านน้ำชา จุดที่สาม ใกล้เคียงกับจุดแรกกำลังตรวจสอบอยู่ว่าเป็นระเบิดหรือยางรถยนต์ระเบิด
อำเภอสุครินไม่เกิดเหตุร้ายเป็นปีมาแล้ว ชาวบ้านให้ความร่วมมือกับทางการเป็นอย่างดี เป้าหมายของกลุ่มคนร้ายเชื่อมุ่งสังหารกำนันและผู้ใหญ่บ้าน เพราะเข้มแข็งในการดูแลพื้นที่มาก แต่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดยังมีขวัญและกำลังใจดีนาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่าตอนที่เกิด เหตุการณ์กำลังประชุม ครม.อยู่ ซึ่งก็ได้โทรศัพท์ไปสอบถามในพื้นที่แต่ไม่สามารถ ติดต่อได้ เนื่องจากได้มีการตัดสัญญาณโทรศัพท์ แต่เดี๋ยวเจ้าหน้าที่คงรายงาน เหตุการณ์มาให้ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้ได้รับรายงานหรือไม่ว่า จะมีการก่อเหตุครั้งใหญ่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนที่ลงไปในพื้นที่ก็ไม่ได้มีการรายงานให้ได้ทราบ ไม่เห็นมีอะไร ส่วนสาเหตุก็ไม่ทราบว่ามาจากสาเหตุอะไร เพราะภาคใต้มีหลายเรื่อง และเรื่องก็เกิดขึ้นบ่อย จึงไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่เหตุการณ์ ครั้งนี้ยอมรับว่า แรง เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ดีเท่าไร เมื่อถามว่า จะมีการหารือเรื่องนี้กับผู้บัญชาการทหารบกหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า เดี๋ยวได้พบ ผบ.ทบ.คงจะได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้
ในการระเบิดครั้งนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 20 ราย ส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ล ก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา 1 ราย ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ ของเจ้าหน้าที่พบว่าคนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่องไปซุกไว้ในรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อแดวู สีเทา ทะเบียน บง-4740 ยะลา และนำมาจอดไว้ภายในตลาดกลางขายผลไม้ อ.สุคิริน ใกล้หอประชุมดังกล่าวและจุดชนวนระเบิดขณะมีการประชุมของฝ่ายปกครอง กำนัน และผู้ ใหญ่บ้าน
เวลาต่อมาคนร้ายได้กดชนวนระเบิดรถจักรยานยนต์บอมส์ซ้ำ เพื่อหวังสังหารเจ้าหน้าที่ที่วิ่งหลบระเบิดลูกแรกออกมา ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้มีการ สนธิกำลังออกติดตามคนร้ายในพื้นที่และตามเส้นทางถนนสายหลักและสายรองอย่างเข้มงวด เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายยังคงอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ
นายธนน เวชกากานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นในบริเวณที่ประชุมกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งทั้งหมดจะมารวมตัวกันอยู่ในที่ประชุมทำให้คนร้ายสบโอกาสเหมาะที่จะทำร้ายกำนันผู้ใหญ่บ้าน ความเสียหายเบื้องต้นได้แก่รถยนต์และจักรยานยนต์
นายธนนยังกล่าวด้วยว่า คนร้ายนั้นแต่งตัวลักษณะคล้ายกำนันและผู้ใหญ่บ้านทั่วไป ซึ่งในขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งเข้ามาใหม่ ทำให้ไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตา
อย่างไรก็ตาม รองผู้ว่าฯจ.นราธิวาส ออกปากว่าดูจากรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายแล้วน่าจะจับตัวได้ภายในเร็ววันนี้
นายธนน สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้านที่เข้าร่วม ประชุมมีชาวบ้านเพียง 2-3 คนเท่านั้น ที่อยู่บริเวณร้านน้ำชา ผู้บาดเจ็บ ถูกส่งไปรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 3 แห่ง ที่โรงพยาบาลสุคิริน 42 คนที่บาดเจ็บเล็กน้อย ทำบาดแผลแล้วแพทย์ให้กลับบ้านได้ 7 คน แพทย์ให้พักที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการต่อ 24 คนถูกส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก และ 5 คนถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ส่วน 19 คนอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก โดยผู้บาดเจ็บมีอาการน่าเป็นห่วง 5 คนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
นายธนน กล่าวว่า เหตุระเบิดเกิดนอกรั้วที่ว่าการอำเภอสุคิริน ขณะที่กำนันและผู้ใหญ่บ้านออกจากห้องประชุม จุดแรกห่างจากที่ประชุม 30 เมตร จุดที่สองเกิดขึ้น ช่วงเวลาห่างกัน 3 นาทีห่างจากจุดแรก 150 เมตร เป็นบริเวณร้านน้ำชา จุดที่สาม ใกล้เคียงกับจุดแรกกำลังตรวจสอบอยู่ว่าเป็นระเบิดหรือยางรถยนต์ระเบิด
อำเภอสุครินไม่เกิดเหตุร้ายเป็นปีมาแล้ว ชาวบ้านให้ความร่วมมือกับทางการเป็นอย่างดี เป้าหมายของกลุ่มคนร้ายเชื่อมุ่งสังหารกำนันและผู้ใหญ่บ้าน เพราะเข้มแข็งในการดูแลพื้นที่มาก แต่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดยังมีขวัญและกำลังใจดีนาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่าตอนที่เกิด เหตุการณ์กำลังประชุม ครม.อยู่ ซึ่งก็ได้โทรศัพท์ไปสอบถามในพื้นที่แต่ไม่สามารถ ติดต่อได้ เนื่องจากได้มีการตัดสัญญาณโทรศัพท์ แต่เดี๋ยวเจ้าหน้าที่คงรายงาน เหตุการณ์มาให้ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้ได้รับรายงานหรือไม่ว่า จะมีการก่อเหตุครั้งใหญ่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนที่ลงไปในพื้นที่ก็ไม่ได้มีการรายงานให้ได้ทราบ ไม่เห็นมีอะไร ส่วนสาเหตุก็ไม่ทราบว่ามาจากสาเหตุอะไร เพราะภาคใต้มีหลายเรื่อง และเรื่องก็เกิดขึ้นบ่อย จึงไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่เหตุการณ์ ครั้งนี้ยอมรับว่า แรง เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ดีเท่าไร เมื่อถามว่า จะมีการหารือเรื่องนี้กับผู้บัญชาการทหารบกหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า เดี๋ยวได้พบ ผบ.ทบ.คงจะได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้
