xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ป่วยเอดส์ภูเก็ตยอดพุ่งไต่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พบผู้ป่วยเอดส์-ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ในภูเก็ต มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ และภาคใต้ เผยสาเหตุหลักการป่วยเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน

นายแพทย์ พงษ์สวัสดิ์ รัตนแสง นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดภูเก็ต กล่าวในการประชุม คณะอนุกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมี นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุม ถึงสถานการณ์ผู้ป่วยเอดส์ในจังหวัดภูเก็ต ว่า ขณะนี้จังหวัดภูเก็ตมีผู้ป่วยเอดส์ รวมทั้งผู้ติดเชื้อเอชไอวี ทั้งที่แสดงอาการและไม่แสดงอาการมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ โดยมีจำนวนผู้ป่วย รวมทั้งสิ้น 6,397 ราย เสียชีวิตไปแล้ว 1,740 ราย ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขต อ.เมือง อ.กะทู้ และ อ.ถลาง ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ดังกล่าว โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของ จ.ภูเก็ต กำลังจะกลับมามีปัญหาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ เนื่องจากในปัจจุบันการมีเพศสัมพันธ์นอกคู่สมรส มีแนวโน้มมากขึ้น ส่งผลให้มีผู้หญิงติดเชื้อจากสามีมีขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ยังพบว่าในกลุ่มชายรักชายมีแนวโน้มรับเชื้อมากขึ้นเช่นเดียวกัน และการมีเพศสัมพันธ์อายุน้อยลง คือ ในกลุ่มการศึกษา ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ไปจนถึงระดับอาชีวศึกษา โดยเฉพาะในระดับอาชีวศึกษา ปี 2 มีมากถึง 40%

สำหรับปัจจัยเสี่ยงของการป่วยเป็นโรคเอดส์ของ จ.ภูเก็ต 92.83 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน รองลงมาคือ ติดยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น 3.12 เปอร์เซ็นต์ โดยในส่วนของการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ข้อมูลจากกลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดอันดับ 10 จังหวัด ที่พบผู้ป่วยเอดส์ที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สูงสุด เมื่อปีงบประมาณ 2550 จ.ภูเก็ต เป็นที่ 1 ของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รองลงมาคือ จ.อำนาจเจริญ กรุงเทพมหานคร นครสวรรค์ สงขลา จันทบุรี เชียงใหม่ ระนอง ระยอง และ อุดรธานี ตามลำดับ

ขณะที่ นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในเรื่องของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ถือว่า จ.ภูเก็ต ยังครองแชมป์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก ดังนั้น ในการลงพื้นที่เพื่อรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ จ.ภูเก็ต ในสถานประกอบกิจการต่างๆ ขอให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนั้นจะต้องจับตาไปที่กลุ่มแรงงานต่างด้าวเป็นสำคัญ เนื่องจากมองว่าแรงงานกลุ่มนี้จะมีปัญหาเรื่องโรคติดต่อ และเป็นส่วนหนึ่งในการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งไม่ใช่เฉพาะโรคเอดส์ แต่มีการแพร่ระบาดของโรคเท้าช้าง มาลาเรีย และโรคอหิวาตกโรค ด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น