นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการสัมมนาระดับชาติเรื่องเอดส์ครั้งที่ 12 ภายใต้แนวคิดชุมชนคือพลัง ร่วมป้องกันดูแลรักษาเอดส์ และกล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อเอดส์ทั่วโลกว่า ขณะนี้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 33 ล้านคนทั่วโลก โดยในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อ ตั้งแต่ปี 2547-2552 จำนวน 1,127,168 ราย ยังมีผู้ที่มีชีวิตอยู่ครึ่งหนึ่ง คือ 516,632 ราย และคาดว่าปีนี้จะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 11,753 คน หรือเฉลี่ยวันละ 32 คน ซึ่งแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขทำ ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องและได้รับการยอมรับจากนานาประเทศในการป้องกันเอดส์ ด้วยการใช้ถุงยางอนามัย และกล่าวชื่นชมนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เปิดเผยข้อมูลเรื่องของเอดส์ให้เกิดการยอมรับ เพื่อให้ประชาชนเกิดความตระหนักและป้องกัน ส่วนกลยุทธ์และการป้องกันปัญหาเอดส์ ตั้งเป้าในปี 2554 จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ให้ได้ร้อยละ 50 และรับปากจะแก้ไขปัญหาผลกระทบในเยาวชน
ส่วนกรณีติดเชื้อเอดส์จากปัญหาข่าวที่จังหวัดยโสธร มีการกีดกันเด็กนักเรียนห้ามศึกษาต่อหลังพบติดเชื้อเอชไอวีนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะเร่งประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ โดยขณะนี้กลุ่มเป้าหมายที่ต้องเร่งในการแก้ไขปัญหาเอดส์มากที่สุดคือเยาวชน เนื่องจากพบว่า เยาวชนในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา มีแนวโน้มที่เสี่ยงติดเชื้อเอดส์มากขึ้นและกลุ่มชายรักชายก็เป็นเป้าหมายสำคัญ เพราะพบอัตราการติดเชื้อเอดส์เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 28 จากเดิมร้อยละ 17 และกลุ่มแม่บ้านพบติดเชื้อมากขึ้น เป็นร้อยละ 30-40 ซึ่งการแก้ไขปัญหาในจุดของกลุ่มแม่บ้าน สามารถทำได้โดยผู้ชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัวต้องซื่อสัตย์ต่อภรรยา โดยตนยินดีเป็นพรีเซนเตอร์ในเรื่องนี้ ส่วนการติดเชื้อเอดส์จากปัญหายาเสพติดพบร้อยละ 48
สำหรับการแก้ไขปัญหาการรับยาต้านไวรัสในกลุ่มผู้ประกันตนกับสำนักงานประกันสังคมที่พบอุปสรรคเรื่องของการเดินทางรับยา ตนในฐานะประธานคณะกรรมการเอดส์ชาติจะรับเรื่องนี้ไปหารือกับกระทรวงแรงงานอีกครั้ง
ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จะหารือกับทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้ความช่วยเหลือกรณีเด็กที่จังหวัดยโสธรถูกปฏิเสธจากโรงเรียน โดยให้คำนึงถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพของมนุษยชน จากปัญหาการติดเชื้อเอดส์พบว่า มีเด็กเยาวชนได้รับผลกระทบประมาณ 400,000 คน และมีเด็กที่ติดเชื้อตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 18 ปี มีประมาณ 200,000 คน
ส่วนกรณีติดเชื้อเอดส์จากปัญหาข่าวที่จังหวัดยโสธร มีการกีดกันเด็กนักเรียนห้ามศึกษาต่อหลังพบติดเชื้อเอชไอวีนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะเร่งประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ โดยขณะนี้กลุ่มเป้าหมายที่ต้องเร่งในการแก้ไขปัญหาเอดส์มากที่สุดคือเยาวชน เนื่องจากพบว่า เยาวชนในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา มีแนวโน้มที่เสี่ยงติดเชื้อเอดส์มากขึ้นและกลุ่มชายรักชายก็เป็นเป้าหมายสำคัญ เพราะพบอัตราการติดเชื้อเอดส์เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 28 จากเดิมร้อยละ 17 และกลุ่มแม่บ้านพบติดเชื้อมากขึ้น เป็นร้อยละ 30-40 ซึ่งการแก้ไขปัญหาในจุดของกลุ่มแม่บ้าน สามารถทำได้โดยผู้ชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัวต้องซื่อสัตย์ต่อภรรยา โดยตนยินดีเป็นพรีเซนเตอร์ในเรื่องนี้ ส่วนการติดเชื้อเอดส์จากปัญหายาเสพติดพบร้อยละ 48
สำหรับการแก้ไขปัญหาการรับยาต้านไวรัสในกลุ่มผู้ประกันตนกับสำนักงานประกันสังคมที่พบอุปสรรคเรื่องของการเดินทางรับยา ตนในฐานะประธานคณะกรรมการเอดส์ชาติจะรับเรื่องนี้ไปหารือกับกระทรวงแรงงานอีกครั้ง
ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จะหารือกับทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้ความช่วยเหลือกรณีเด็กที่จังหวัดยโสธรถูกปฏิเสธจากโรงเรียน โดยให้คำนึงถึงเรื่องสิทธิเสรีภาพของมนุษยชน จากปัญหาการติดเชื้อเอดส์พบว่า มีเด็กเยาวชนได้รับผลกระทบประมาณ 400,000 คน และมีเด็กที่ติดเชื้อตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 18 ปี มีประมาณ 200,000 คน