ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สภาทนายความยื่นหนังสือเร่งรัดตำรวจสงขลาติดตามจับกุมคนร้ายยิงถล่มทนายความ พร้อมลูกความเสียชีวิต 3 ศพ เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญต่อประชาชนโดยส่วนรวม หากขืนปล่อยไว้เป็นเช่นนี้จะก่อให้เกิดความเสียหาย และเสียขวัญกำลังใจต่อประชาชนผู้สุจริต
วันนี้ (22 มิ.ย.) นายอรุณ อนุสาร ประธานสภาทนายความจังหวัดสงขลา และกรรมการสภาทนายความจังหวัดสงขลา เข้ายื่นหนังสือให้กับ พ.ต.อ.พัชรพงศ์ พาณิชประเสริฐ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ เพื่อเร่งรัดให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายที่ใช้อาวุธสงครามยิงทนายความพร้อมลูกความสาวเสียชีวิต ในขณะที่ทางตำรวจสงขลากำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล และพยานวัตถุโดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดจากเทศบาลนครสงขลามาทำการตรวจสอบ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาปฏิเสธขอให้การในชั้นศาล จึงจำเป็นต้องหาหลักฐานมามัดตัวคนร้ายให้ได้
คณะทนายความจังหวัดสงขลา เห็นว่า การกระทำของคนร้ายเป็นการกระทำที่โหดร้ายรุนแรง เป็นคดีอุกฉกรรจ์ คนร้ายใช้อาวุธสงครามในการก่อเหตุร้าย และไม่คำนึงถึงประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่บังเอิญเข้าไปร่วมโดยสารในรถยนต์คันที่เกิดเหตุ พฤติกรรมดังกล่าวส่อให้เห็นว่า ผู้กระทำการไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง เป็นคดีสะเทือนขวัญต่อประชาชนโดยส่วนรวม หากขืนปล่อยไว้เป็นเช่นนี้จะก่อให้เกิดความเสียหาย และเสียขวัญกำลังใจต่อประชาชนผู้สุจริต ทางสภาทนายความจังหวัดสงขลาเห็นสมควรให้ท่าน ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง เกี่ยวกับการปราบปรามผู้กระทำความผิดคดีอาญา ได้เร่งรัดผู้ใต้บังคับบัญชาติดตามจับกุมคนร้ายโดยเร่งด่วนต่อไป
ในส่วนของความคืบหน้าของคดี พ.ต.อ.พัชรพงศ์ พานิชประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองสงขลา กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สกุลเกียรติ นาขวัญ รอง ผกก.สส.ไปทำการสอบปากคำ นายไตรเทพ หรือ อ๊อด มูเก็ม เพิ่มเติม หลังจากที่ได้สอบปากคำไปแล้ว เมื่อวันเกิดเหตุ โดยทาง นายอ๊อด ยังคงยืนยันในคำให้การเดิมทั้งหมดที่กล่าวหา พ.ต.ท.คู่อริเป็นคนยิง ส่วนพยานคนเจ็บอีก 1 คน คือ น.ส.สุมาลี กู้หลีจู้ ที่บาดเจ็บสาหัส ขณะนี้อาการดีขึ้นแล้วสามารถให้การได้ และได้ย้ายออกจากโรงพยาบาลสงขลาไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่ ก็ได้ทำการสอบปากคำไปเรียบร้อยแล้ว
ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ซึ่งตรงนี้มันขึ้นอยู่ที่คำให้การของนายไตรเทพ หรืออ๊อด หากคำให้การยืนยันมั่นเหมาะว่าเป็นตำรวจแน่นอนก็จะเรียกมาดำเนินการทางคดีต่อไป ขณะนี้ยังรอผลจากการตรวจพิสูจน์ของวิทยาการใน 2-3 เรื่อง มีเรื่องกระสุนปืน เรื่องการตรวจสอบสถานที่ เรื่องวิถีกระสุน หลักๆ ก็คือ รอพยานหลักฐานทุกอย่างพร้อมก็จะดำเนินการตามขั้นตอน
หากพยานหลักฐานระบุชัดว่า ทาง พ.ต.ท.คนนั้น เป็นผู้กระทำก็ต้องให้เขามอบตัว และดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ส่วนในเรื่องของภาพทีวีวงจรปิดที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดสงขลา และเส้นทางที่รถยนต์คนร้ายขับตามมาจากศาลก็ได้ขอมาทำการตรวจสอบแล้ว พรุ่งนี้จะมีการประชุมสรุปผลคดีให้ พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาทราบถึงความคืบหน้าของคดีทั้งหมด
