สตูล – ผู้ว่าฯ สตูลนำคณะที่ประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนเยือนรัฐเปอร์ลิสของมาเลเซีย เพื่อกระชับความสัมพันธ์หลังจากเพิ่มรับตำแหน่งใหม่ แถมพวงด้วยการเจรจาเพิ่มกรอบการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างกัน ทั้งเรื่องการขยายเวลาเปิดด่านชายแดนและระบบการคมนาคมขนส่ง เผยฝ่ายไทยหอบโครงการขุดเจาะอุโมงค์ตามเส้นทางถนนสตูล-เปอร์ลิสสายใหม่ไปนำเสนอด้วย ยันไร้กระทบด้านสิ่งแวดล้อมของทั้ง 2 ประเทศ
วันนี้ (12 มิ.ย.) นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้นำหัวหน้าส่วนราชการทั้งฝ่ายปกครอง เศรษฐกิจและความมั่นคง รวมถึงภาคเอกชนที่ประกอบด้วย หอการค้าจังหวัดสตูล รวมจำนวน 35 คน เข้าพบ ดาโต๊ะ ซือรี ดร.มัสอิซา ซาบู มุขมนตรีแห่งรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย ณ ที่ว่าการศาลากลางรัฐเปอร์ลิส เพื่อสานสัมพันธ์กันระหว่างทั้ง 2 ประเทศที่มีความแนบแน่นและร่วมมือกันมาอย่างยาวนาน รวมทั้งการหารือเรื่องความมั่นคงทางด้านชายแดนที่ไร้ปัญหา เพราะความร่วมมือที่ดีมาโดยตลอด ประกอบกับถือโอกาสในการที่เพิ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งใหม่ของผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลเยี่ยมเยือนเพื่อกระชับสัมพันธไมตรี
ทั้งนี้ การเดินทางไปของคณะผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลเพื่อกระชับสายสัมพันธ์กับฝ่ายมาเลเซียในครั้งนี้นั้น นายสุเมธได้นำเรื่องการขุดเจาะอุโมงค์เชื่อมต่อระหว่างกัน ตามเส้นทางถนนสายสตูล-เปอร์ลิสเข้าหารือกับฝ่ายมาเลเซียด้วย เพื่อให้เกิดการค้าการลงทุนและการไปมาหาสู่กันให้มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกัน ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศบริเวณชายแดนด้านนี้ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากมุขมนตรีรัฐเปอร์ลิส ที่ได้แสดงความยินดีที่จะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมหลายฝ่าย รวมถึงนำเสนอขอความเห็นจากรัฐบาลมาเลเซียต่อไป
นายสุเมธกล่าวในเรื่องนี้ว่า เส้นทางถนนสายสตูล-เปอร์ลิสนั้น ที่ผ่านมาที่มีการสำรวจดูคร่าวๆ บริเวณด้านภูเขาน้ำ และบริเวณบ้านปาตูปาฮัด รัฐเปอร์ลิส พบว่ามีความเป็นไปได้ในการก่อสร้างเชื่อมกันระหว่างทั้ง 2 ประเทศ เนื่องจากฝั่งมาเลเซียมีระยะทางห่างออกไปถึงฝั่งไทยเพียงประมาณ 700 เมตร แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการสำรวจในรายละเอียดดูอีกครั้ง เนื่องจากอยู่ใกล้กับป่าชายเลนด้านจังหวัดสตูล ซึ่งจะต้องมีการสำรวจเส้นทางที่เหมาะสมในระดับต่อไป แต่ทั้งนี้ก็จะยึดหลักว่าจะต้องไม่กระทบสิ่งแวดล้อม และประชาชนของทั้งไทยและมาเลเซียต้องการเส้นทางนี้จริงๆ จึงจะมีการสานให้เกิดโครงการนี้ต่อไป
พร้อมกันนี้ คณะของผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลยังได้ขอทุนการศึกษาจากฝ่ายมาเลเซีย เพื่อสนับสนุนให้นักศึกษาไทยได้มีโอกาสเรียนต่อในระดับปริญญาตรีในคณะวิศวกรรมศาสตร์ของประเทศมาเลเซียด้วย จำนวน 2 ทุน รวมทั้งเสนอเรื่องเกี่ยวกับความร่วมมือในการร่วมกันขยายเวลาเปิด-ปิด เพื่อให้เกิดการขยายตัวในด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างกันด้านด่านชายแดนวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล กับบ้านวังเกลียน รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย ซึ่งผลการเข้าพบในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีและจะมีการติดตามผลในการประชุมหารือกันครั้งต่อๆ ไป
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการพบปะหารือเพื่อกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างกันแล้ว คณะของผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลได้เดินทางไปดูงานยังโรงงานน้ำตาลรายใหญ่ในรัฐเปอร์ลิส ซึ่งเป็นของบริษัท KLANG GULA FELFA PERLIS อันเป็นโรงงานขนาดกำลังผลิต 150,000 ตัน/ปี โดยปัจจุบันมีการจำหน่ายน้ำตาลปลีกในราคากิโลกรัมละ 14.50 บาท/ถุง ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตน้ำตาลจำหน่ายในประเทศ โดยวัตถุดิบส่วนหนึ่งได้สั่งไปจากประเทศไทย และเป็นที่ภาคภูมิใจของรัฐเปอร์ลิสที่จะมีการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศให้กว้างมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในประเทศคิวบาและบาซิล รวมถึงประเทศอื่นๆ อีก 6 ประเทศที่มีการวางแผนไว้