ยะลา – เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองใน อ.เบตง เร่งลงพื้นที่ทำเข้าใจกับประชาชน เรื่องคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ชาวไทยเชื้อสายมุสลิม ที่กำลังทำพิธีละหมาดที่มัสยิด ใน อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พร้อมเน้นย้ำความปลอดภัยในสถานประกอบการ
วันนี้ (10 มิ.ย.) นายดลเดช พัฒนรัฐ นายอำเภอเบตง จ.ยะลา นำจนท.ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองลงพื้นที่เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีผู้ก่อความไม่สงบใช้อาวุธปืนยิงใส่ชาวไทยเชื้อสายมุสลิมที่กำลังทำพิธีละหมาดที่มัสยิด ใน อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส จนทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมากนั้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลต่อบรรยากาศ และความรู้สึกของชาวบ้านโดยเฉพาะพี่น้องชาวมุสลิมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกิดความเคลือบแคลงใจในสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นการกระทำของฝ่ายใด ซึ่งหลังเกิดเหตุมีกระแสข่าวลือและข่าวปล่อยจากผู้ไม่หวังดีเพื่อมุ่งทำลายความน่าเชื่อถือเจ้าหน้าที่รัฐ
นายดลเดชกล่าวว่า คนร้ายพยายามสร้างสถานการณ์บิดเบือนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเพื่อสร้างความขัดแย้ง และแตกแยกความสามัคคีระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชน เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์ ก็มีการปล่อยข่าวอย่างต่อเนื่องว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งสร้างความสับสนให้กับชาวบ้านทั่วไป ล่าสุดเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานได้เข้าชี้แจงประชาชน และทำความเข้าใจกับผู้นำชุมชนให้รับทราบสถานการณ์ พร้อมร่วมชี้แจงให้กับประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวลือดังกล่าว
จากการลงพื้นที่พูดคุยร่วมกับชาวบ้านทำให้ช่วยลดความรู้สึกลงได้เพราะต้องยอมรับว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรงมาก สำหรับความรู้สึกของประชาชน โดยเฉพาะการสูญเสียญาติพี่น้องจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ เนื่องจากกลุ่มคนร้ายมีเป้าหมายในการก่อเหตุ เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่รัฐ ขณะเดียวกัน ต้องการสร้างความขัดแข้งให้เกิดขึ้นในพื้นที่ และพื้นที่อื่นๆด้วย
ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยได้กำชับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ จุดสกัดในพื้นที่ชั้นใน และพื้นที่รอบนอกให้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบบุคคล และยานพาหนะ รวมทั้งได้สนธิกำลังปฏิบัติร่วมกันระหว่างจนท.ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง หลังได้รับการแจ้งเตือนจากหน่วยข่าวด้านความมั่นคงว่ากลุ่มก่อความไม่สงบมีการเตรียมการก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเมืองเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และผู้ประกอบการ ห้างร้าน จึงได้ประชุมหารือผู้ประกอบการ โดยให้กำชับพนักงาน และ รปภ.ทำการตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มาใช้บริการ จัดระเบียบการจอดรถในบริเวณสถานประกอบการ เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยรอบบริเวณสถานประกอบการ รวมทั้งการจัดเตรียมอุปกรณ์กู้ภัย ถังดับเพลิง สามารถนำมาใช้ได้เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น รวมทั้งให้สังเกตบุคคลที่มีพฤติกรรมที่น่าสงสัย เช่น สวมหมวกปิดบังใบหน้า สวมแว่นตาดำ
