นราธิวาส – ความคืบหน้าเหตุสัตว์นรกบุกยิงถล่มมัสยิดที่เจาะไอร้อง นราฯ ขณะชาวบ้านกำลังละหมาด เป็นเหตุให้โต๊ะอิหม่ามและชาวบ้านเสียชีวิตทันที 10 ราย บาดเจ็บสาหัส 13 ราย ล่าสุดผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 13 ราย ถูกนำส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาล ด้านเจ้าหน้าที่ออกเร่งไล่ล่าคนร้ายทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานความ คืบหน้ากรณี เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามบุกกราดยิงเข้าใส่กลุ่มชาวบ้านซึ่งกำลังทำพิธีละหมาดภายในมัสยิด อัลพุร์กอน ในพื้นที่ บ.ไอปาแย ม.8 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง หลังจากเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตนอนระเกะระกะจมกองเลือดอยู่ภายในห้องละหมาดปะปนกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจากวิถีกระสุนของคนร้าย
เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันแยกผู้เสียชีวิตซึ่งมีจำนวน 4 รายโดยหนึ่งในนั้น คือโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิด บ.ไอปาแย และผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากกัน ก่อนที่จะลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้งหมดจำนวน 19 รายซึ่งมีอาการสาหัสส่งให้แพทย์รักษาอาการเบื้องต้นที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง โดย 6 รายทนพิษบาดแผลไม่ไหวไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง ส่วนอีก 13 รายถูกนำส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ในเวลาต่อมา
จากการตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 13 คน ทราบชื่อต่อมาคือ 1.นายมะกือตา อีสัน 2.นายอาแว เจ๊ะนุ 3.นายอายุ๊ เจ๊ะเงาะ 4.นายเจ๊ะรอนิง อารง 5.นายดุลเลาะห์ อาบู 6.นายอาลียะ มามะ 7.นายหะแว ดาโอ๊ะ 8.นายบือราเฮง มะซากี 9.นายอับดุลเลาะ บินยูโซะ 10.นายรามารูดิง แบมะ 11.นายอับดุลวอหะ ปะจูกูเร็ง 12.นายมะซูยี มะรือซะ และคนที่ 13.ไม่ทราบชื่อ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ชาวบ้านในหมู่บ้านไอปาแยกำลังประกอบพิธีละหมาดในช่วงค่ำอยู่ภายในมัสยิดอัลพุร์กอน ได้มีกลุ่มคนร้ายประมาณ 5-6 คนซึ่งสวมหมวกไหมพรมอำพรางใบหน้าพร้อมอาวุธปืนสงครามครบมือโดยได้แฝงตัวเข้าไปทางด้านหลังของมัสยิดดังกล่าว ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงเข้าใส่กลุ่มชาวบ้านซึ่งกำลังทำพิธีละหมาด แล้วรีบออกไปทางด้านหลังโดยวิ่งหนีเข้าไปในป่ารกทึบหลังหมู่บ้าน
พ.ท.ยุทธนา สายประเสริฐ ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 สนธิกำลังพร้อมสุนัขสงครามติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีทั้งในพื้นที่ บ.ไอปาเซและเขตรอยต่อในเบื้องต้นแล้ว
พล.ต.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้ระบุถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งถือเป็นความอุกอาจ และพยายามเบี่ยงเบน เพื่อให้ประชาชนเข้าว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จะไม่ทำเช่นนั้นเด็ดขาด
นอกจากนี้กลุ่มคนร้ายยังประสงค์ที่จะสร้างความแตกแยก ระหว่างคนไทยพุทธและคนไทยมุสลิมในพื้นที่ให้เกิดความขัดแย้งกันมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการก่อเหตุในครั้งนี้ตนเองมองว่าจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามสูญเสียมวลชนที่เป็นแนวร่วมมากขึ้น เนื่องจากผู้ที่ได้รับผลกระทบคือญาติพี่น้องของคนในพื้นที่ทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานความ คืบหน้ากรณี เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามบุกกราดยิงเข้าใส่กลุ่มชาวบ้านซึ่งกำลังทำพิธีละหมาดภายในมัสยิด อัลพุร์กอน ในพื้นที่ บ.ไอปาแย ม.8 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง หลังจากเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตนอนระเกะระกะจมกองเลือดอยู่ภายในห้องละหมาดปะปนกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจากวิถีกระสุนของคนร้าย
เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันแยกผู้เสียชีวิตซึ่งมีจำนวน 4 รายโดยหนึ่งในนั้น คือโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิด บ.ไอปาแย และผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากกัน ก่อนที่จะลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้งหมดจำนวน 19 รายซึ่งมีอาการสาหัสส่งให้แพทย์รักษาอาการเบื้องต้นที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง โดย 6 รายทนพิษบาดแผลไม่ไหวไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง ส่วนอีก 13 รายถูกนำส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ในเวลาต่อมา
จากการตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 13 คน ทราบชื่อต่อมาคือ 1.นายมะกือตา อีสัน 2.นายอาแว เจ๊ะนุ 3.นายอายุ๊ เจ๊ะเงาะ 4.นายเจ๊ะรอนิง อารง 5.นายดุลเลาะห์ อาบู 6.นายอาลียะ มามะ 7.นายหะแว ดาโอ๊ะ 8.นายบือราเฮง มะซากี 9.นายอับดุลเลาะ บินยูโซะ 10.นายรามารูดิง แบมะ 11.นายอับดุลวอหะ ปะจูกูเร็ง 12.นายมะซูยี มะรือซะ และคนที่ 13.ไม่ทราบชื่อ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุในขณะที่ชาวบ้านในหมู่บ้านไอปาแยกำลังประกอบพิธีละหมาดในช่วงค่ำอยู่ภายในมัสยิดอัลพุร์กอน ได้มีกลุ่มคนร้ายประมาณ 5-6 คนซึ่งสวมหมวกไหมพรมอำพรางใบหน้าพร้อมอาวุธปืนสงครามครบมือโดยได้แฝงตัวเข้าไปทางด้านหลังของมัสยิดดังกล่าว ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงเข้าใส่กลุ่มชาวบ้านซึ่งกำลังทำพิธีละหมาด แล้วรีบออกไปทางด้านหลังโดยวิ่งหนีเข้าไปในป่ารกทึบหลังหมู่บ้าน
พ.ท.ยุทธนา สายประเสริฐ ผบ.ฉก.นราธิวาส 31 สนธิกำลังพร้อมสุนัขสงครามติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีทั้งในพื้นที่ บ.ไอปาเซและเขตรอยต่อในเบื้องต้นแล้ว
พล.ต.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้ระบุถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งถือเป็นความอุกอาจ และพยายามเบี่ยงเบน เพื่อให้ประชาชนเข้าว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จะไม่ทำเช่นนั้นเด็ดขาด
นอกจากนี้กลุ่มคนร้ายยังประสงค์ที่จะสร้างความแตกแยก ระหว่างคนไทยพุทธและคนไทยมุสลิมในพื้นที่ให้เกิดความขัดแย้งกันมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการก่อเหตุในครั้งนี้ตนเองมองว่าจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามสูญเสียมวลชนที่เป็นแนวร่วมมากขึ้น เนื่องจากผู้ที่ได้รับผลกระทบคือญาติพี่น้องของคนในพื้นที่ทั้งสิ้น