ผบ.ตร.ส่ง “อดุลย์ แสงสิงแก้ว” ลงใต้รับมือโจรป่วน! ชี้เหตุกราดยิงคนละหมาดในมัสยิดคนร้ายต้องการชิงมวลชนคืนหลังชาวบ้านให้ความร่วมมือและไว้วางในเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้น
วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายความมั่นคงและกิจการพิเศษ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.มก) กล่าวว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายกราดยิงเข้าไปในมัสยิดใน อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ขณะที่ชาวบ้านกำลังประกอบพิธีละหมาด เมื่อค่ำวันที่ 8 มิถุนายน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากนั้น พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) ได้ลงไปดูสถานการณ์แล้ว ขณะที่ตนได้เข้ารายงานสถานการณ์เบื้องต้นต่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.แล้ว ซึ่ง ผบ.ตร.ห่วงใยเรื่องนี้มาก สั่งการให้ตนเข้าไปดูแลเรื่องนี้เร่งด่วน โดยตนจะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อติดตามสถานการณ์ด้วยตนเองอย่างใกล้ชิดในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะเข้าไปดูรายละเอียดรับทราบข้อเท็จจริงเพื่อกำหนดการทำงานเพื่อป้องกันรับมือต่อไป
พล.ต.ท.อดุลย์ กล่าวว่า เมื่อมองด้านสถิติแล้ว จำนวนเหตุการณ์รุนแรงต่างๆ ถือว่าลดลง เปรียบเทียบช่วงเวลาตั้งแต่ เดือนตุลาคม 2551 - พฤษภาคม 2552 พบเหตุเกิดแล้ว 934 เหตุ เทียบกับห้วงเดียวกันของปีก่อนที่เกิดทั้งสิ้น 1,034 เหตุ ลดลง 9.67% ซึ่งในห้วงตั้งแต่เดือนเมษายน ที่ผ่านมาคนร้ายพยายามก่อเหตุที่รุนแรง เช่น ลอบวางระเบิดตำรวจ ทหาร ถล่มโรงพัก วางเพลิง วางระเบิดคราละหลายๆจุด ยิงครูซึ่งตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมายิงครูเสียชีวิตหลายคนแล้ว
“กลุ่มคนร้ายต้องการทำสงครามข่าวสาร และแย่งชิงพื้นที่สื่อ ทั้งนี้ก็เพื่อพยายามสร้างข้อเรียกร้องในหลายมิติ ทั้งด้านสิทธิมนุษยชน ฯลฯ แต่สิ่งหนึ่งที่สะท้อนจากเหตุยิงที่มัสยิดครั้งนี้คือการที่ประชาชนให้ความร่วมมือและไว้วางในเจ้าหน้าที่รัฐมากขึ้น เห็นได้จากการไว้วางใจให้เข้าพิสูจน์ สืบสวนสอบสวนในพื้นที่ ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้ที่ประชาชนจะปิดกั้นเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ให้เข้าพื้นที่ ทั้งนี้เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการสืบสวนจับกุมคนร้ายตามกระบวนการยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่มากขึ้น” ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าว
ขณะที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำรายงานสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นับแต่ปี 2547 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2552 พบว่า เกิดแล้ว 9,630 เหตุ พื้นที่ จ.นราธิวาสมากที่สุด 3,341 เหตุ รองลงมา คือ ปัตตานี 3,074 เหตุ ยะลา 2,692 เหตุ และสงขลา 523 เหตุ แยกเป็นเหตุยิงมากที่สุด 5,025 เหตุ โดยในปี 2550 เกิดเหตุมากที่สุด 2,475 เหตุ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3,459 คน เป็นประชาชน 3,029 คน ตำรวจ 221 คน ทหาร 209 คน
ขณะที่ในห้วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุทั้งสิ้น 92 เหตุ เป็นเหตุยิง 45 เหตุ ระเบิด 24 เหตุ วางเพลิง 11 เหตุ มีผู้เสียชีวิต 27 คน ซึ่งภาพรวมเหตุการณ์ลงลดจากเดือนเมษายน ที่ผ่านมาที่เกิดเหตุ 179 เหตุ มีผู้เสียชีวิต 33 คน
ขณะเดียวกัน รอบ 8 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม2551 - พฤษภาคม2552 เกิดเหตุ 934 เหตุ ปัตตานี 374 นราธิวาส 283 ยะลา 241 และสงขลา 36 เหตุ เป็นเหตุยิง 558 ระเบิด 177 และวางเพลิง 89 เหตุ มีผู้เสียชีวิต 356 คน แยกเป็นประชาชน 310 คน ทหาร 30 นาย ตำรวจ 16 นาย เมื่อเปรียบเทียบห้วงเดียวกันในช่วงเดือนตุลาคม 2550 - พฤษภาคม 2551 เกิดเหตุ 1,034 เหตุ ลดลง 100 เหตุ หรือคิดเป็น 9.67%
นอกจากนี้ ตร.ยังประเมินแนวโน้มสถานการณ์ในเดือนมิถุนายน ที่จนถึงวันที่ 8 มิถุนายน เกิดแล้ว 24 เหตุ เป็นเหตุยิง 15 ระเบิด 5 วางเพลิง 3 เหตุ มีผู้เสียชีวิต 14 คน นั้น มีการประเมินว่า สถานการณ์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และรูปแบบก่อเหตุรุนแรง โดยเฉพาะการลอบยิงลองวางระเบิด โดยคนร้ายมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ครู ชุดรปภ.ครู เนื่องจากกลุ่มนี้มีเส้นทางและเวลาบังคับ ทั้งนี้ก็เพื่อแสดงศักยภาพและทำลายความน่าเชื่อถือของอำนาจรัฐ