ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ทะเลภูเก็ตยังเดือด คลื่นซัดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจมไป 5 คนในที่หาดสุรินทร์ 3 คน หาดรายัน 2 คน เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเอาไว้ได้ 4 คน หายไป 1 คน คาดว่าเสียชีวิตแล้ว
เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมจังหวัดภูเก็ต ได้ระดมกำลังออกช่วยเหลือและค้นหานักท่องเที่ยวจำนวน 5 รายที่ประสบเหตุถูกคลื่นซัดจมทะเลและลากออกจากฝั่งขณะลงเล่นน้ำทะเลที่บริเวณหาดสุรินทร์ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยการปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากคลื่นลมแรง และสามารถช่วยนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งมาได้เพียง 4 คนเท่านั้น จากที่ลงเล่นน้ำทั้งหมด 5 คน ที่หาดสุรินทร์ 3 คน และหาดรายันอีก 2 คน
โดยที่หาดสุรินทร์เด็กหญิงจีจี้ อายุ 12 ปี ชาวพม่า ที่หนีแม่ออกมาเล่นน้ำกับนักท่องเที่ยวนั้นได้ถูกคลื่นซัดจมหายไปกลางทะเลต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยวโดยไม่มีใครสามารถช่วยเหลือได้ เพราะในช่วงดังกลางนั้นคลื่นลมแรงมาก เจ้าหน้าที่ได้นำเรือยางออกค้นหาอยู่เกือบ 2 ชั่วโมง ไม่พบร่างของเด็กหญิงชาวพม่า แม่คือนางตา ที่ทำงานก่อสร้างอยู่ห่างจากหาดสุรินทร์ประมาณ 800 เมตร ได้ร่ำไห้และขอให้เจ้าหน้าที่ออกค้นหาต่อทั้งบนบกและในทะเล แต่สุดท้ายเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงค้นหาไม่พบ จึ่งมั่นใจว่าลูกสาวได้จมน้ำเสียชีวิตแล้ว จึ่งนำธูป 9 ดอกมาจุดเพื่อของให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้พบศพลูกสาวโดยเร็วเพื่อจะได้ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
ส่วนนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันทั้ง 2 รายนั้น เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือเอาไว้ได้และนำส่งโรงพยาบาลถลางทำการรักษาเบื้องต้นแล้วไม่มีอันตรายๆ ใด นอกจากอ่อนเพลีย
ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาจากภาคกลาง นำครอบครัวมาพักผ่อนที่หาดรายัน ห่างจากหาดสุรินทร์ประมาณ 5-6 กิโลเมตรนั้น ปล่อยน้องบีมและน้องซี (นามสมมติ) ลงเล่นน้ำทะเลปรากฎว่าถูกคลื่นขนาดใหญ่ซัดจนจมและลากออกนอกฝั่ง แต่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ สามารถช่วยเหลือชีวิตเอาไว้ได้ทั้ง 2 คน และพ้นขีดอันตรายแล้ว ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลถลาง
สำหรับเด็กหญิงจีจี้ นับเป็นรายล่าสุดที่จมน้ำทะเลเสียชีวิตจากการลงเล่นน้ำทะเลที่ชายหาดชื่อดังในจังหวัดภูเก็ต เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน คือวันที่ 5 มิถุนายน 2 รายที่หาดกะตะ วันที่ 6 มิถุนายน 1 ราย และในวันนี้อีก 1 ราย สาเหตุเพราะคลื่นลมแรง เป็นบางช่วงทำและไม่มีเจ้าหน้าที่บีชการ์ดคอยช่วยเหลืออีกประการหนึ่งตามชายหาดต่างๆ นั้นไม่มีอุปกรณ์ การช่วยชีวิตนักท่องเที่ยวเหมื่อนที่ทำการซ้อมแผนช่วยเหลือกันไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกล่าวว่า การซ้อมแผนนั้นมีอุปกรณ์ครบแต่เวลาเกิดเหตุจริงอุปกรณ์ที่ซ้อมนั้นไม่มีเคยสักชิ้นหนึ่งเก็บกลับกรุงเทพฯ หมด เวลาเกิดเหตุจริงในขณะนี้นักท่องเที่ยวและประชาชนจมน้ำทะเลเสียชีวิตรายวัน เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความสามารถลงไปช่วยเหลือเอง หรือยืมเรือประชาชนในพื้นที่เท่านั้น