กระบี่ - ชาวบ้านตื่นพบถ้ำพิสดาร หินงอก หินย้อยภายในถ้ำมีรูปร่างลักษณะแปลกประหลาดคล้ายผู้หญิงนอน และสัตว์บริวาร ที่จังหวัดกระบี่ ชาวบ้านลือเป็นที่พำนักเจ้าแม่พนมเบญจา ด้าน อบต.หน้าเขา เจ้าของพื้นที่ เตรียมควักกระเป๋า 2 ล้าน เปิดเป็นแหล่งเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่
วันนี้ (7 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกระบี่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านตำบลหน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ ว่า ทาง อบต.หน้าเขา ได้เข้าสำรวจถ้ำวิมานเมฆ เพื่อเตรียมเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น และจากการเข้าสำรวจก็ต้องตะลึง เมื่อพบว่าภายในถ้ำดังกล่าวมีหินงอกหินย้อยที่สวยงามตระการตา และบางแห่งมีแสงระยิบระยับคล้ายกับแสงจากเพชร ซึ่งไม่เคยพบเจอที่ใดมาก่อน และเมื่อชาวบ้านทราบข่าว ต่างก็ได้แห่กันเข้าไปชม
โดยถ้ำวิมานเมฆแห่งนี้ ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 บ้านห้วยน้ำแก้ว ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ ใช้ระยะทางในการเดินทาง จากที่ทำการ อบต.หน้าเขา ไป 8 กิโลเมตร จากนั้นเดินทางด้วยเท้าอีก 1 กิโลเมตร ถึงถ้ำวิมานเมฆ สิ่งที่พบในถ้ำ คือ หินงอกหินย้อย บนผนังถ้ำมีลักษณะรูปหัวใจ รูปสิงโต รูปช้าง รูปผู้หญิงนอนอยู่บนเตียง ขาวแวววับสะดุดตาเมื่อพบเห็น
บรรยากาศภายในถ้ำเย็นสดชื่น บวกกับบรรยากาศภายนอกถ้ำวิมารเมฆ มีต้นไม้ขนาดใหญ่ เช่น ต้นเคียนสามพร ต้นเหม้าเหล็ก ต้นส้มไฟป่า ต้นหวายชนิดต่างๆ ขึ้นปกคลุมอยู่ภายนอก ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของจักจั่น เรไร รวมทั้งเสียงร้องของสัตว์ต่างๆ อยู่ตลอดเวลา
จาการสำรวจพบว่า ถ้ำวิมารเมฆ มีความงดงามทางธรรมชาติไม่แพ้ถ้ำอื่นๆ ในประเทศไทย ด้วยความงามของหินงอกหินย้อย ที่มีรูปร่างลักษณ์แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ความงามของหินงอกหินย้อย มีแสงระยิบระยับราวกับมีเพชรเป็นส่วนประกอบ ภายในถ้ำมีความกว้างเป็นห้องโถงประมาณ 60 เมตร ยาวประมาณ 800 เมตร สามารถรองรับคนเข้าชมถ้ำดังกล่าวจำนวน 200 คน นอกจากนั้นยังมีถ้ำบริวารอีกสองถ้ำ คือ ถ้ำเพชร และถ้ำหนุมาน ซึ่งอยู่ในภูเขาลูกเดียวกัน แต่มีการแบ่งเป็นห้อง ๆ เหมือนกับห้องนอน
นายมเนาว์ นายก อบต.หน้าเขา กล่าวว่า การค้นพบถ้ำดังกล่าว เนื่องจากการที่ทาง อบต.ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ร่วมกับชาวบ้านหมู่ที่ 6 บ้านห้วยน้ำแก้ว เพื่อค้นหาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยเฉพาะถ้ำที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในพื้นที่หมู่ 6 เนื่องจากพื้นที่ทั่วไป อยู่ติดภูเขา และอยู่ในเทือกเขาพนมเบญจา จึงได้ค้นพบถ้ำวิมานเมฆแห่งนี้ ด้วยความงดงามของหินงอกหินย้อยภายในถ้ำ
ทาง อบต.เตรียมจะเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื้อ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในพื้นที่ เป็นการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น ทั้งจากการขายของที่ระลึก การขายผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งตำบลหน้าเขามีศักยภาพเพียงพอ
นายก อบต.หน้าเขา กล่าวอีกต่อไปว่า ในปีงบประมาณ ปี 53 ทาง อบต.จะจัดสรรงบประมาณปรับปรุงภูมิทัศน์ บริเวณปากทางเข้าถ้ำวิมารเมฆ เพื่อที่จะให้มีลานจอดรถ มีห้องน้ำ มีสถานที่นั่งพักผ่อน ร้านค้า โดยให้ชาวบ้านในพื้นที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ร่วมกับทาง อบต. เพื่อจะให้ชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ให้มีการบุกรุกทำลายป่า คิดว่างบประมาณที่จะใช้ในการพัฒนา และปรับปรุงภูมิทัศน์ถ้ำวิมานเมฆแห่งนี้ ประมาณ 2 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับถ้ำวิมานเมฆแห่งนี้ ชาวบ้านร่ำลือกันว่า ในสมัยก่อนเป็นที่พำนักของเจ้าแม่เขาพนมเบญจา ผู้พิทักษ์เทือกเขา เนื่องจากบริเวณที่พำนักของเจ้าแม่ปัจจุบัน ยังมีก้อนหินคล้ายคนนอนหลับอยู่ในท่านอนหงาย ส่วนข้างๆ ก็มีรูปสัตว์ชนิดต่างๆ รายล้อม ซึ่งมีความสวยงามมาก
ซึ่งยังสามารถมองเห็นได้ชัดเจน และชาวบ้านยังกล่าวขานกันอีกว่า ผู้ที่เดินทางเข้าไปชมถ้ำแห่งนี้หากว่า ไม่มีการขอขมาเจ้าแม่ก่อน ถ้าจะถ่ายรูปก็ถ่ายไม่ติด และหากว่ามีการพูดคำหยาบ หรือลบหลู่เจ้าแม่ก็จะมีอันเจ็บไข้ จนทำให้ชาวบ้านไม่กล้าย่างกรายเข้าไปจนถึงปัจจุบัน