กกต.สตูลแจกใบแดง “ธานินทร์” เจ้าตัวยอมรับคำตัดสิน พร้อมสู้ต่อ

สตูล - กกต.แจกใบแดง นายก อบจ.สตูล “ธานินทร์ ใจสมุทร” ขณะที่เจ้าตัวน้อมรับคำตัดสินศาล แต่ยันพร้อมสู้ต่อ และฟ้องกลับ กกต.เหตุลิดรอนสิทธิด้านศาสนาอิสลาม หากศาลไม่เมตตาจะยื่นฎีกาถวายในหลวง

วันนี้ (4 มิ.ย.) นายธานินทร์ ใจสมุทร นายก อบจ.สตูล หลังถูกศาลอุทธรณ์ภาค 9 เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เป็นเวลา 1 ปี นับแต่วันที่มีคำสั่ง และให้มีการเลือกตั้งนายก อบจ.สตูล ใหม่ แทน ตามมาตรา 97 แห่ง พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 ภายใน 45 วันทันที

หลังศาลตัดสิน นายธานินทร์ ใจสมุทร ได้เรียกแกนนำมาชุมนุม และชี้แจงถึงการถูกใบแดงในครั้งนี้ให้แกนนำได้ฟังพร้อมเปิดตัวผู้สมัครคนใหม่ที่จะขึ้นแทนตนเอง ซึ่งเป็นที่ปรึกษาในคณะทำงานของนายก อบจ.คือ นายอามีน หมันยามีน (บังแมน) อดีต ส.จ.5 สมัย และประธานสภา อบจ.รวมทั้งอดีตกรรมการอิสลามจังหวัดสตูล ที่จะมาสานงานต่อจากตน พร้อมทั้งให้ นางแก้วตา ใจสมุทร ภรรยาของ นายธานินทร์ รับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาแทนตำแหน่งที่ว่าง

พร้อมกันนี้ นายธานินทร์ ได้กล่าวถึงทิศทางที่จะต่อสู้หลังจากนี้ ว่า หลังศาลอุทธรณ์ภาค 9 ตัดสินให้ใบแดงได้เชิญแกนนำมารับฟังคำชี้แจงจากการให้ใบแดงของ กกต.ในครั้งนี้ ว่า เกิดจากนโยบายหนึ่งตำบล หนึ่งฮัจญ์ ซึ่งส่วนตัวน้อมรับคำตัดสินของศาล แต่คำตัดสินของศาลได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ไปทะเลาะกับศาล แต่จะขอความเห็นใจ เพราะคำตัดสินไปกระทบกับท้องถิ่นทั่วทั้งประเทศจะมีปัญหา

โดยเฉพาะไปกระทบกับศาสนาเป็นเรื่องใหญ่ เพราะท่านไม่เข้าใจเรื่องศาสนา แต่ท่านมาให้ความเห็นเรื่องศาสนาไม่ได้ ซึ่งต้องเรียนว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ซึ่งส่วนตัวก็จะเดินทางไปพบกับกระทรวงยุติธรรม เพื่อหารือกับท่านว่าจะทำอย่างไร เพราะเมื่อเกิดกรณีอย่างนี้ ตนต้องรับผิดชอบเพราะเป็นการกระทำของตนที่ได้ออกนโยบายไปในการหาเสียง

ในเมื่อกระทบกับท้องถิ่น ตนก็จะยื่นเรื่องไปที่ประธานสมาพันธ์ อบจ.ท้องถิ่น ว่าจะทำอย่างไรเมื่อเป็นเช่นนี้ นอกจากนี้ จะทำหนังสือยื่นต่อสำนักงานกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย ในการร่วมแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ให้กระทบพี่น้องมุสลิม

พร้อมกันนี้ นายธานินทร์ ยืนยันว่า จะยื่นเรื่องฟ้อง กกต.ต่อศาลรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอนเพราะว่า กกต.ไม่มีสิทธิ์มาลิดรอนในการนับถือศาสนา และมาละเมิดการนักถือศาสนา เพราะไม่ใช่เรื่องของมนุษย์มาวินิจฉัยไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็จำเป็นต้องฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ และคิดว่าท่านน่าจะมีมารยาทเมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของตน เหมือนตนมีมารยาทกับท่าน เหมือนทุก ๆ ท่านที่ถูกท่านรังแกเขา ในเมื่อตนทำผิดตนรับผิดอยู่แล้ว ซึ่งในเรื่องของศาสนาหากศาลไม่กรุณาตนมีทางเดียว คือ ยื่นถวายฎีกาต่อในหลวง

หลังศาลอุทธรณ์ภาค 9 ได้ตัดสิน เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2552 ว่า นโยบาย หนึ่งตำบล หนึ่งอัจญ์ ของ นายธานินทร์ ใจสมุทร นายก อบจ.สตูล ที่ใช้ในการหาเสียง ว่า จะจัดให้มุสลิมที่มีฐานะยากจนได้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยผู้นั้นไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เป็นการเสนอให้ สัญญาว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้ และหลอกลวงเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ตนเองได้ และยังไม่ถือว่าเป็นนโยบายของการทำนุบำรุงศาสนา การส่งเสริมศาสนา จารีตประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ อบจ.