“ธานินทร์” ซัด กกต.มีทัศนคติอันตรายหลังถูกเพิกถอนสิทธิเป็นนายก อบจ.สตูล

สตูล - "ธานินทร์ ใจสมุทธ นายก อบจ.สตูล" แถลงข่าวกรณีคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเลือกตั้ง กกต.ให้เพิกถอนสิทธิ นายก อบจ.ออกจากตำแหน่งและสั่งการให้มีการเลือกตั้งนายก อบจ.คนใหม่ ดึงผู้น้ำทั้ง 3 ศาสนามายืนยันและเป็นกำลังใจตัวเอง ซัด กกต.ทั้งในระดับ จ.สตูล คณะอนุกรรมการฯ และคณะ กกต.กลางที่ใช้อำนาจที่ได้รับมาใช้ตามอำเภอใจ และใช้ดุลพินิจโดยมีคติตลอดจนมีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อวิถีชีวิต ประเพณีวัฒนธรรม และล่วงล้ำไปถึงขั้นบิดเบือนหลักศาสนาอิสลาม

วันนี้ (6 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรางงานว่า ตั้งแต่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 แผนกคดีนักการเมือง ได้ประทับรับฟ้องและมีคำสั่งให้ อบจ.สตูล โดยมีนายธานินทร์ ใจสมุทร นายก อบ จ.สตูล ยุติการปฏิบัติหน้าที่โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา ดั้งนั้นนายธานินทร์ ใจสมุทธนายก อบจ.จ.สตูลจึงมีการแถลงข่าวขึ้น โดยทางนายก อบจ.สตูลโดยมีผู้น้ำทั้ง3 ศาสนามายืนยันและเป็นกำลังใจให้กับนายธานินทร์ ใจสมุทร นายก อบจ .จ.สตูลในครั้งนี้

นายธานินทร์ ใจสมุทร นายก อบจ.สตูล กล่าวว่า ในวันนี้จากการที่ตัดสินใจออกมาพูดวันนี้ ไม่มีเจตนาจะก้าวล่วงไปในส่วนของการพิจารณาคดีของศาลอุทธณ์ภาค 9 เด็ดขาด และซึ่งตนได้รับคำสั่งจากศาลอุทธรณ์ภาค 9 ให้ยุติปฏิบัติหน้าที่ และขอยืนยันว้ายินดีน้อมรับคำตัดสินของศาลทุกประการไม่ว่าผลของคดีจะออกมาเป็นอย่างไร

แต่เหตุผลที่ออกมาแถลงข่าวในวันนี้เนื่องจากทนพฤติกรรมและการทำงานของคณะกรรมการเลือกตั้ง กกต.ชุดนี้ ทั้งในระดับ จ.สตูล คณะอนุกรรมการฯ และคณะ กกต.กลางที่ใช้อำนาจที่ได้รับมาใช้ตามอำเภอใจ และใช้ดุลพินิจโดยมีคติตลอดจนมีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อวิถีชีวิต ประเพณีวัฒนธรรม และล่วงล้ำไปถึงขั้นบิดเบือนหลักศาสนาอิสลาม ที่กระผมและพี่น้องชาวไทยมุสลิมทั้งใน จ.สตูลและทั่วประเทศตลอดจนผู้นับถือศาสนาอิสลามทั่วไปนับพันล้านคนที่ไม่อาจยอมรับได้

ส่วนทางด้านนายธานินทร์ ใจสมุทร นายก อบจ.สตูล ยังกล่าวอีกว่าคำวินิจฉัยของ กกต.ใดๆก็ตามที่ส่งผลร้ายต่อตัวกระผมด้วยหลักกฎหมายที่ตรงไปตรงมาและไม่มีเจตนาหรือวาระซ่อนเร้น แอบแฝงกระผมทำใจยอมรับได้เพราะตนเคยโดนหนักกว่านี้ส่วนอีกประเด็นหนึ่งที่ทางกกต.กลาง ที่ทำให้ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ ในนายก อบจ.สตูล ผมถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมกับผม อย่างยิ่ง

พร้อมกันนี้นายธานินทร์ ใจสมุทธ นายก อบจ.สตูล ได้มีการยื่นต่อสู่ภายในศาลและถ้าหากคดีใบแดงนี้สรุปได้ว่านายกถูกใส่ร้ายก็จะมีการฟ้องร้อง กกต.ใน จ.สตูลและ กกต.กลางที่กรุงเทพ