นครศรีธรรมราช - ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เร่งสาธารณสุขดูแล 2 อำเภอ เผชิญกับโรคชิคุนกุนยา ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่มีสวนยางพารามาก มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลประจำอำเภอของทั้งสองแห่ง แล้วหลายร้อยราย
วันนี้ (2 มิ.ย.) นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ช่วงที่ผ่านมาพบว่าโรคชิคุนกุนยา ไม่ได้ระบาดหนักในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น แต่ประชาชนในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช กำลังหวาดผวา และเผชิญกับโรคที่เรียกกันว่า “ไข้เข็ดข้อ” มานานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว โดยเฉพาะ อ.จุฬาภรณ์ และ อ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่มีสวนยางพารามาก มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลประจำอำเภอของทั้งสองแห่ง แล้วหลายร้อยราย ทั้งนี้ไม่นับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตามคลินิก และโรงพยาบาลเอกชนอีกจำนวนมาก
นายอภิชาต กล่าวต่อไปว่า จากการประสานงานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทราบว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความใส่ใจกับการระบาดในพื้นที่เสี่ยงภัยของ จ.นครศรีธรรมราช เป็นอย่างดี โดยการส่งคาราวานฉีดพ่นควันกำจัดยุงตามบ้านเรือน และส่งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) แจกจ่าย และสาธิตการใส่ทรายอะเบทในภาชนะรองน้ำเพื่อกำจัดลูกน้ำ แต่ถือว่ายังไม่เพียงพอ เพราะเท่าที่พูดคุยกับแพทย์ และพยาบาลในพื้นที่ ยังแสดงความหนักใจกับปัญหานี้ เนื่องจากมีผู้ป่วยขอเข้ารับการรักษาไม่ขาดสาย และบางรายเป็นซ้ำอีกหลังจากหายในครั้งแรกแล้ว
ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า อยากให้กระทรวงสาธารณสุขเพิ่มความเข้มข้นในการเข้าไปปฏิบัติการป้องกันและเยียวยาในพื้นที่ทั้งสองอำเภอให้มากขึ้น เพราะลำพังการตั้งรับตามโรงพยาบาล และสถานีอนามัย ยังไม่เพียงพอ เวลานี้การให้ความรู้กับประชาชนยังไม่ทั่วถึง เอกสารประชาสัมพันธ์ ยังไม่เห็น ทั้งแผ่นพับ ใบปลิว หรือแผ่นซีดี ควรเร่งทำ รวมถึงการให้ความรู้ผ่านสื่อวิทยุและโทรทัศน์ในพื้นที่ก็ควรทำอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง
“จากการสัมผัสในพื้นที่พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ คือ ผู้มีอาชีพทำสวนยาง ที่มีความเสี่ยงถูกยุงกัดอยู่ทุกวัน หากกระทรวงสาธารณสุขรณรงค์ และแจกจ่ายโลชั่นกันยุงให้คนเหล่านี้ใช้ป้องกันก่อนเข้าทำงานในสวนยาง จะเป็นการช่วยป้องกันได้โดยตรง เชื่อว่าจะลดจำนวนผู้ป่วยลงได้มาก” นายอภิชาต กล่าว
วันนี้ (2 มิ.ย.) นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ช่วงที่ผ่านมาพบว่าโรคชิคุนกุนยา ไม่ได้ระบาดหนักในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น แต่ประชาชนในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช กำลังหวาดผวา และเผชิญกับโรคที่เรียกกันว่า “ไข้เข็ดข้อ” มานานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว โดยเฉพาะ อ.จุฬาภรณ์ และ อ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่มีสวนยางพารามาก มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลประจำอำเภอของทั้งสองแห่ง แล้วหลายร้อยราย ทั้งนี้ไม่นับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตามคลินิก และโรงพยาบาลเอกชนอีกจำนวนมาก
นายอภิชาต กล่าวต่อไปว่า จากการประสานงานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทราบว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความใส่ใจกับการระบาดในพื้นที่เสี่ยงภัยของ จ.นครศรีธรรมราช เป็นอย่างดี โดยการส่งคาราวานฉีดพ่นควันกำจัดยุงตามบ้านเรือน และส่งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) แจกจ่าย และสาธิตการใส่ทรายอะเบทในภาชนะรองน้ำเพื่อกำจัดลูกน้ำ แต่ถือว่ายังไม่เพียงพอ เพราะเท่าที่พูดคุยกับแพทย์ และพยาบาลในพื้นที่ ยังแสดงความหนักใจกับปัญหานี้ เนื่องจากมีผู้ป่วยขอเข้ารับการรักษาไม่ขาดสาย และบางรายเป็นซ้ำอีกหลังจากหายในครั้งแรกแล้ว
ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า อยากให้กระทรวงสาธารณสุขเพิ่มความเข้มข้นในการเข้าไปปฏิบัติการป้องกันและเยียวยาในพื้นที่ทั้งสองอำเภอให้มากขึ้น เพราะลำพังการตั้งรับตามโรงพยาบาล และสถานีอนามัย ยังไม่เพียงพอ เวลานี้การให้ความรู้กับประชาชนยังไม่ทั่วถึง เอกสารประชาสัมพันธ์ ยังไม่เห็น ทั้งแผ่นพับ ใบปลิว หรือแผ่นซีดี ควรเร่งทำ รวมถึงการให้ความรู้ผ่านสื่อวิทยุและโทรทัศน์ในพื้นที่ก็ควรทำอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง
“จากการสัมผัสในพื้นที่พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ คือ ผู้มีอาชีพทำสวนยาง ที่มีความเสี่ยงถูกยุงกัดอยู่ทุกวัน หากกระทรวงสาธารณสุขรณรงค์ และแจกจ่ายโลชั่นกันยุงให้คนเหล่านี้ใช้ป้องกันก่อนเข้าทำงานในสวนยาง จะเป็นการช่วยป้องกันได้โดยตรง เชื่อว่าจะลดจำนวนผู้ป่วยลงได้มาก” นายอภิชาต กล่าว
