สุราษฎร์ธานี - นายกรัฐมนตรีเห็นใจผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะสมุยได้รับผลกระทบหลายด้าน พร้อมรับปากแก้ปัญหาด้านสาธารณูปโภคในเกาะสมุย ตามโครงการการลงทุนในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
วันที่ 23 พ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกล่าวในระหว่างการเป็นประธานในการประชุม “วาระท่องเที่ยวนายกอภิสิทธิ์ พบผู้ประกอบการท่องเที่ยวสมุย” ที่โรงแรมเดอะบริซ่าว่า เห็นใจผู้ประกอบการในพื้นที่เกาะสมุยเนื่องจากได้รับผลกระทบจากหลายด้านทั้งปัญหาเศรษฐกิจโลกทำให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวลดลงตามไปด้วย และยังมีปัญหาการเมืองในประเทศ ปัญหาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ขณะเดียวกันยังมีความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขทางเศรษฐกิจที่จะเปิดเผยโดยสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในช่วงวันที่ 25 พฤษภาคม นี้โดยเฉพาะในไตรมาสแรก
“มะรืนนี้สภาพัฒน์ฯ จะเปิดเผยตัวเลขทางเศรษฐกิจไตรมาสแรกผมเชื่อว่าแย่กว่าไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วที่ ติดลบ 5 % ไตรมาส 1 หนักกว่าแน่นอน แล้วก็ผมดูตัวเลขของประเทศในภูมิภาคที่ประกาศมาแล้วไตรมาส 1 ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลี ติดลบอยู่ประมาณ 9-11% เพราะฉะนั้นไตรมาสที่ 1 ถือว่าหนักหนาสาหัสมาก
"เราก็วางแนวไว้ตั้งแต่แรกว่า การเข้ามาสิ่งที่รัฐบาลทำได้เร็วคือการเข้าไปพยุงกำลังซื้อของคนเท่าที่ทำได้นั่นคือที่มาของงบกลางปีแล้วเงินตรงนี้ลงไปตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมก็หวังว่าตัวนี้จะมาช่วยในไตรมาสที่สองก็เมษาก็เกิดเหตุการณ์ เพราะฉะนั้นไตรมาสที่สองเราก็ต้องดูว่าตรงนั้นกระทบกับความพยายามของเราที่จะชะลอการหดตัวที่จะเกิดขึ้นแรงในไตรมาสแรกได้อย่างไร
"ตัวเลขเบื้องต้นเดือนเมษายน ดูว่ามันมีโอกาสที่จะดีขึ้นถ้าเทียบตั้งแต่กุมภาพันธ์เป็นต้นมา ตัวเลขหลายตัวตั้งแต่เดือนมีนาคม เมษายนนี้ จะดีกว่า แต่มีความกังวลอยู่ว่าอาจจะเป็นแนวโน้มหลอกหรือเปล่าในแง่ภาคการผลิตการใช้กำลังการผลิตจะขึ้นมา 60 เปอร์เซ็นต์แล้วต้องดูตัวเลขเดือนพฤษภาคม มิถุนายนต่อเนื่องไปด้วย แต่ผมค่อนข้างที่จะมองว่าการหดตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสที่สองน้อยกว่าไตรมาสแรก” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นอกจากนี้ในที่ประชุม มีการนำเสนอปัญหาด้านสาธารณูปโภคโดยนายเรืองนาม ใจกว้าง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ฝั่งตะวันออก นายเสนีย์ ภูวเศรษฐถาวร นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับปากว่าจะนำข้อเสนอแนะดังกล่าวไปพิจารณาตามโครงการลงทุนในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร นายกรัฐมนตรียังได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวกรณีการดำเนินโครงการกรีนไอส์แลนด์โปรเจกต์ของเกาะสมุย ซึ่งเป็นโครงการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนที่มีหลายฝ่ายร่วมกันผลักดันว่า คิดว่าเป็นเรื่องที่คงจะเป็นความจำเป็นแล้ว ขณะนี้คิดว่าชื่อเสียงของเกาะสมุยเป็นที่ทราบเป็นที่เข้าใจ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ กำลังเสื่อมโทรมไป เพราะฉะนั้นการที่ผู้ประกอบการมีความตื่นตัวในเรื่องนี้ผมคิดว่าเป็นสัญญาณที่ดี การลงทุนต่อไปหรือมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวต้องยึดแนวทางนี้เป็นหลัก
วันที่ 23 พ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกล่าวในระหว่างการเป็นประธานในการประชุม “วาระท่องเที่ยวนายกอภิสิทธิ์ พบผู้ประกอบการท่องเที่ยวสมุย” ที่โรงแรมเดอะบริซ่าว่า เห็นใจผู้ประกอบการในพื้นที่เกาะสมุยเนื่องจากได้รับผลกระทบจากหลายด้านทั้งปัญหาเศรษฐกิจโลกทำให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวลดลงตามไปด้วย และยังมีปัญหาการเมืองในประเทศ ปัญหาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ขณะเดียวกันยังมีความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขทางเศรษฐกิจที่จะเปิดเผยโดยสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในช่วงวันที่ 25 พฤษภาคม นี้โดยเฉพาะในไตรมาสแรก
“มะรืนนี้สภาพัฒน์ฯ จะเปิดเผยตัวเลขทางเศรษฐกิจไตรมาสแรกผมเชื่อว่าแย่กว่าไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วที่ ติดลบ 5 % ไตรมาส 1 หนักกว่าแน่นอน แล้วก็ผมดูตัวเลขของประเทศในภูมิภาคที่ประกาศมาแล้วไตรมาส 1 ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลี ติดลบอยู่ประมาณ 9-11% เพราะฉะนั้นไตรมาสที่ 1 ถือว่าหนักหนาสาหัสมาก
"เราก็วางแนวไว้ตั้งแต่แรกว่า การเข้ามาสิ่งที่รัฐบาลทำได้เร็วคือการเข้าไปพยุงกำลังซื้อของคนเท่าที่ทำได้นั่นคือที่มาของงบกลางปีแล้วเงินตรงนี้ลงไปตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมก็หวังว่าตัวนี้จะมาช่วยในไตรมาสที่สองก็เมษาก็เกิดเหตุการณ์ เพราะฉะนั้นไตรมาสที่สองเราก็ต้องดูว่าตรงนั้นกระทบกับความพยายามของเราที่จะชะลอการหดตัวที่จะเกิดขึ้นแรงในไตรมาสแรกได้อย่างไร
"ตัวเลขเบื้องต้นเดือนเมษายน ดูว่ามันมีโอกาสที่จะดีขึ้นถ้าเทียบตั้งแต่กุมภาพันธ์เป็นต้นมา ตัวเลขหลายตัวตั้งแต่เดือนมีนาคม เมษายนนี้ จะดีกว่า แต่มีความกังวลอยู่ว่าอาจจะเป็นแนวโน้มหลอกหรือเปล่าในแง่ภาคการผลิตการใช้กำลังการผลิตจะขึ้นมา 60 เปอร์เซ็นต์แล้วต้องดูตัวเลขเดือนพฤษภาคม มิถุนายนต่อเนื่องไปด้วย แต่ผมค่อนข้างที่จะมองว่าการหดตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสที่สองน้อยกว่าไตรมาสแรก” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นอกจากนี้ในที่ประชุม มีการนำเสนอปัญหาด้านสาธารณูปโภคโดยนายเรืองนาม ใจกว้าง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ฝั่งตะวันออก นายเสนีย์ ภูวเศรษฐถาวร นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับปากว่าจะนำข้อเสนอแนะดังกล่าวไปพิจารณาตามโครงการลงทุนในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร นายกรัฐมนตรียังได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวกรณีการดำเนินโครงการกรีนไอส์แลนด์โปรเจกต์ของเกาะสมุย ซึ่งเป็นโครงการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนที่มีหลายฝ่ายร่วมกันผลักดันว่า คิดว่าเป็นเรื่องที่คงจะเป็นความจำเป็นแล้ว ขณะนี้คิดว่าชื่อเสียงของเกาะสมุยเป็นที่ทราบเป็นที่เข้าใจ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ กำลังเสื่อมโทรมไป เพราะฉะนั้นการที่ผู้ประกอบการมีความตื่นตัวในเรื่องนี้ผมคิดว่าเป็นสัญญาณที่ดี การลงทุนต่อไปหรือมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวต้องยึดแนวทางนี้เป็นหลัก