ททท. กาง 4 แผนหลัก กู้ท่องเที่ยว จากงบฉุกเฉิน 1,000 ล้านบาท หวังตัวเลขรายได้ทั้งปี 9.6 แสนล้านบาท ด้านเฟสต้า ยื่นหนังสือถึงวีระศักดิ์ เสนอขอร่วมพิจาณาการทำแผนและการใช้งบฉุกเฉินด้วย
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานคณะกรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณฉุกเฉินให้กับ ททท. จำนวน 1,000 ล้านบาทนั้น ทางกระทรวงฯจะเริ่มนำมาใช้ในเดือนมิถุนายนนี้ โดยแบ่งเป็น 4 แผนงานใหญ่ เพื่อกระตุ้นตลาดทั้งในประเทศ 40% และต่างประเทศ 60% และยังมีงบ 450 ล้านบาทเฉพาะของในประเทศต่างหากด้วย
นอกจากนั้น ททท. จะวางแผนการทำโฆษณาและประชาสัมพันธ์เชิงลึกแบบ 360 องศา เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้กลับมาเที่ยวไทยเหมือนเดิม
สำหรับแผนหลัก 4 ข้อนั้น คือ 1.การเร่งฟื้นฟูภาพลักษณ์ประเทศไทย จำนวน 90 ล้านบาท แบ่งเป็นการจัดแฟมทริป 43 ล้านบาท, การเชิญเซเรบริตี้จากประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรปหรืออเมริกา จำนวน 4 ล้านบาท การจัดโรดโชว์สินค้าท่องเที่ยว จำนวน 29 ล้านบาท
2.การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อท้องถิ่นในแต่ละประเทศ 3. การกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยว จำนวน 232 ล้านบาท 4. การใช้งบ 210 ล้านบาท เพื่อเร่งทำตลาดในประเทศไทย วางแผนไว้ เตรียมเปิดโครงการใหม่ 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน และโครงการไทยเที่ยวไทย 5 ภาค เป็นต้น
นอกจากนั้น ททท. จะจัดโครงการเชฟอาหารไทยทั่วโลก ใช้งบ 50 ล้านบาท จะจัดช่วงเดือนกรกฏาคมนี้
นายวีระศักดิ์กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ ททท. ปรับรูปแบบการใช้สื่อแบบอินมาร์เก็ตเพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยททท.ต้องเข้าไปมีส่วนในขั้นตอนการสื่อสารมากขึ้น จากเดิมที่ร่วมมือกับพันธมิตรจัดทำเช่น สายการบิน ทัวร์ เป็นต้น
นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม รักษาการผู้ว่าการททท. กล่าวว่า จากแผนการกระตุ้นท่องเที่ยวฉุกเฉิน คาดว่าจะทำให้ททท. สามารถรักษาเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ทางการท่องเที่ยว ให้ได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้ แบ่งเป็น ตลาดต่างประเทศ 14 ล้านคน สร้างรายได้ 5.4 แสนล้านบาท ส่วนตลาดในประเทศ 87 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 4.2 แสนล้านบาท หรือมีรายได้รวมทั้งหมด 9.6 แสนล้านบาท
**เฟสต้าแนะร่วมวางแผนใช้งบ
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีอเอ) ในฐานะโฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย หรือ เฟสต้า ซึ่งประกอบด้วยสมาคมท่องเที่ยว 8 สมาคม ได้แก่ ทีทีเอเอ, สมาคมไทยุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า), สมาคมโรงแรมไทย,สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.), สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย, สมาคมผู้ปะกอบการถขนส่ง, สมาคมผู้ประอบการธุรกิจท่องเทียวสัมพันธ์ไทย-จีน และสมาคมสงเสริมการท่องเที่ยไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า ทางเฟสต้า จะส่งหนังสือไปยัง นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เพื่อขอรับทราบวิธีการใช้งบประมาณฉุกเฉินสำหรับกระตุ้นการท่องเที่ยวและหลักเกณฑ์การพิจารณาโครงการต่างๆและต้องการให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการจัดสรรและวางแผนด้วย
เนื่องจากที่ผ่านมามีหลายโครงการทำไปแล้วไม่ประสบความสำเร็จ เช่น การจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 5 ภาค @ พัทยา ครั้งที่ผ่านมา ขณะเดียวกันเฟสต้ายังมีความต้องการให้ภาครัฐและเอกชน ทำความเข้าใจร่วมกันในส่วนของคำจำกัดความคำว่า “วาระแห่งชาติ” เพราะที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายยังมีมุมมองที่แตกต่างกัน เพราะทางภาครัฐวางแผนระยะยาวในการกู้วิกฤติท่องเที่ยว 3 ปี แต่ภาคเอกชนต้องการแผนสั้น 3 เดือน
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานคณะกรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณฉุกเฉินให้กับ ททท. จำนวน 1,000 ล้านบาทนั้น ทางกระทรวงฯจะเริ่มนำมาใช้ในเดือนมิถุนายนนี้ โดยแบ่งเป็น 4 แผนงานใหญ่ เพื่อกระตุ้นตลาดทั้งในประเทศ 40% และต่างประเทศ 60% และยังมีงบ 450 ล้านบาทเฉพาะของในประเทศต่างหากด้วย
นอกจากนั้น ททท. จะวางแผนการทำโฆษณาและประชาสัมพันธ์เชิงลึกแบบ 360 องศา เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้กลับมาเที่ยวไทยเหมือนเดิม
สำหรับแผนหลัก 4 ข้อนั้น คือ 1.การเร่งฟื้นฟูภาพลักษณ์ประเทศไทย จำนวน 90 ล้านบาท แบ่งเป็นการจัดแฟมทริป 43 ล้านบาท, การเชิญเซเรบริตี้จากประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรปหรืออเมริกา จำนวน 4 ล้านบาท การจัดโรดโชว์สินค้าท่องเที่ยว จำนวน 29 ล้านบาท
2.การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อท้องถิ่นในแต่ละประเทศ 3. การกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยว จำนวน 232 ล้านบาท 4. การใช้งบ 210 ล้านบาท เพื่อเร่งทำตลาดในประเทศไทย วางแผนไว้ เตรียมเปิดโครงการใหม่ 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน และโครงการไทยเที่ยวไทย 5 ภาค เป็นต้น
นอกจากนั้น ททท. จะจัดโครงการเชฟอาหารไทยทั่วโลก ใช้งบ 50 ล้านบาท จะจัดช่วงเดือนกรกฏาคมนี้
นายวีระศักดิ์กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ ททท. ปรับรูปแบบการใช้สื่อแบบอินมาร์เก็ตเพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยททท.ต้องเข้าไปมีส่วนในขั้นตอนการสื่อสารมากขึ้น จากเดิมที่ร่วมมือกับพันธมิตรจัดทำเช่น สายการบิน ทัวร์ เป็นต้น
นางสาวเพ็ญสุดา ไพรอร่าม รักษาการผู้ว่าการททท. กล่าวว่า จากแผนการกระตุ้นท่องเที่ยวฉุกเฉิน คาดว่าจะทำให้ททท. สามารถรักษาเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ทางการท่องเที่ยว ให้ได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้ แบ่งเป็น ตลาดต่างประเทศ 14 ล้านคน สร้างรายได้ 5.4 แสนล้านบาท ส่วนตลาดในประเทศ 87 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 4.2 แสนล้านบาท หรือมีรายได้รวมทั้งหมด 9.6 แสนล้านบาท
**เฟสต้าแนะร่วมวางแผนใช้งบ
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว(ทีทีอเอ) ในฐานะโฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย หรือ เฟสต้า ซึ่งประกอบด้วยสมาคมท่องเที่ยว 8 สมาคม ได้แก่ ทีทีเอเอ, สมาคมไทยุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า), สมาคมโรงแรมไทย,สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.), สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย, สมาคมผู้ปะกอบการถขนส่ง, สมาคมผู้ประอบการธุรกิจท่องเทียวสัมพันธ์ไทย-จีน และสมาคมสงเสริมการท่องเที่ยไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า ทางเฟสต้า จะส่งหนังสือไปยัง นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เพื่อขอรับทราบวิธีการใช้งบประมาณฉุกเฉินสำหรับกระตุ้นการท่องเที่ยวและหลักเกณฑ์การพิจารณาโครงการต่างๆและต้องการให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการจัดสรรและวางแผนด้วย
เนื่องจากที่ผ่านมามีหลายโครงการทำไปแล้วไม่ประสบความสำเร็จ เช่น การจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 5 ภาค @ พัทยา ครั้งที่ผ่านมา ขณะเดียวกันเฟสต้ายังมีความต้องการให้ภาครัฐและเอกชน ทำความเข้าใจร่วมกันในส่วนของคำจำกัดความคำว่า “วาระแห่งชาติ” เพราะที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายยังมีมุมมองที่แตกต่างกัน เพราะทางภาครัฐวางแผนระยะยาวในการกู้วิกฤติท่องเที่ยว 3 ปี แต่ภาคเอกชนต้องการแผนสั้น 3 เดือน
