ตร.ตรังรวบแก๊งมือปืนอาชีพพร้อมอาวุธสงครามเพียบ ระบุพัวพันหลายคดี

ตรัง - ตำรวจ สภ.เมืองตรัง จับกุมผู้ต้องหาแก๊งมือปืนรับจ้างอาชีพได้ 5 คน พร้อมอาวุธสงครามและเครื่องกระสุนจำนวนมาก เบื้องต้นคาดว่าอาวุธปืนของกลางทั้งหมด น่าจะตรงกับหลายคดีที่เกิดขึ้นในจังหวัดตรัง

วันนี้ (20 พ.ค.) พ.ต.ท.เธียร บาลทิพย์ รองผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองตรัง กล่าวถึงการสะสางคดีกลุ่มคนร้ายที่จับกุมได้เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 พร้อมของกลางอาวุธสงคราม และเครื่องกระสุน อีกจำนวนมากมาย ประกอบด้วย อาวุธปืนยาวอาก้า จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 12 นัด อาวุธปืนสั้น ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 5 นัด อาวุธปืนสั้น ขนาด .32 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 2 นัด อาวุธปืนสั้น ขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 5 นัด เครื่องกรุะสุนชนิดเอ็ม 16 จำนวน 7 นัด และเครื่องกระสุนชนิดเอ็ม 60 จำนวน 2 นัด

ทั้งนี้ ในการจับกุมดังกล่าวสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย นายศุภลักษณ์ แก้วกรรมพฤกษ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159/10 หมู่ที่ 1 ถนนตรัง-ปะเหลียน ตำบลย่านตาขาว อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง นายทรงเดช หรืออ้วน เหลืองเจริญลาภ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149/13 หมู่ที่ 1 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ นายถาวร สุกการ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ที่ 6 ตำบลสมหวัง อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง นายสุขนิตย์ สันดำ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 3 ตำบลบางรัก อำเภอเมือง จังหวัดตรัง และนายวศิน อายุ 16 ปี เป็นชาวจังหวัดนครราชสีมา

พ.ต.ท.เธียร บาลทิพย์ รองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองตรัง กล่าวว่า ขณะนี้กำลังผลการตรวจสอบอาวุธปืนที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดจากกองวิทยาการ เขต 4 จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งคงต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากต้องตรวจอย่างละเอียด และตรวจพร้อมกันหลายกระบอก ทั้งอาวุธปืนสงคราม และอาวุธปืนสั้น เพราะกระสุนปืนชนิดเอ็ม 16 สามารถนำไปใช้กับอาวุธปืนอาก้าได้ด้วย จึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่า อาวุธปืนแต่ละกระบอกมีส่วนเกี่ยวพันกับคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ใดบ้าง พร้อมกับรอการตรวจเช็คประวัติในคดีอาชญกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 5 คน จากกองวิทยาการด้วย

เบื้องต้นคาดว่าอาวุธปืนของกลางทั้งหมด น่าจะตรงกับหลายคดีที่เกิดขึ้นในจังหวัดตรัง ไม่ว่าจะเกิดในพื้นที่อำเภอใด เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นกลุ่มมือปืนรับจ้างกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่จังหวัดตรัง จึงต้องรอบคอบในการตรวจเปรียบเทียบอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุเกือบทุกคดี เพื่อหาพยานหลักฐานที่แน่ชัดในการใช้ยืนยันความผิดของผู้ต้องหา ส่วนยาบ้าที่พบผู้ต้องหาอ้างว่ารับมาจากพื้นที่ โดยไม่ได้นำมาปล่อยในพื้นที่จังหวัดตรัง เพียงนำมาเสพและแจกจ่ายให้กับเครือข่ายเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม รองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองตรัง กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลในการจับกุมเครือข่ายยาบ้าของกลุ่มคนร้ายรายนี้ด้วย แม้อ้างว่าจะไม่ได้นำเข้ามาเพื่อนำหน่ายในพื้นที่ก็ตามและหลังจากจับกุมตัวแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน และได้นำฝากขังที่เรือนจำจังหวัดตรังแล้วในผลัดแรก พร้อมขอยื่นคัดค้านการประกันในชั้นศาลต่อไปด้วย เชื่อมั่นหากผลการตรวจสอบอาวุธปืนทั้งหมดออกมาแล้วนั้นจะสามารถนำไปสู่การจับกุมคนร้ายในคดีต่างๆ ได้อีกหลายคดีอย่างแน่นอน