เชียงราย – รวบยกแก๊ง “จ่าดำ” อดีตทหาร พร้อมพวก ในคดีฆ่าหมกศพเสี่ยเต็นท์รถชื่อดังแม่สาย
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (8 พ.ค.นี้) พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย, พ.ต.อ.สุนทร จันทรากูร ผกก.สภ.แม่สรวย, พ.ต.อ.สุธรรม ชาติอาษา ผกก.สภ.เชียงแสน, พ.ต.ท.เรวัตร ยืนธรรม รอง ผกก.สภ.เชียงแสน ในฐานะชุดปฏิบัติการคลี่คลายในคดีฆ่าหมกศพนักธุรกิจเต็นท์รถที่ อ.แม่สาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมผู้ต้องหาจำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายสายัณห์ อรินต๊ะทราย อายุ 41 บ้านเลขที่ 102 หมู่ 10 ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย, นายมนัส กันทาแปง อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 492 หมู่ 2 ต.เวียง อ.เชียงแสน, นายภาสกร สมบูรณ์ชนะ อายุ 61 ปี, ส.อ.ประสิทธิ วงศ์ใหญ่ อดีตทหารอายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 70/1 หมู่ 3 ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย และนายอุดม บัวแสง อายุ 40 ปี ชาว อ.พญาเม็งราย พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก กระสุน 2 นัด และปืนสั้นขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก
โดยการจับกุมดังกล่าวมีขึ้นหลังนางแดง คำเงิน ชาวบ้านป่าเหมือด ต.แม่สาย อ.แม่สาย แจ้งกับตำรวจ สภ.แม่สาย ว่านายธีรพงษ์ วงศ์ตอบ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นสามีและมีธุรกิจเต๊นท์รถชื่อดังใน อ.แม่สาย ได้หายตัวไปจากบ้าน ก่อนหายตัวไปแจ้งว่าจะนำรถยนต์ไปแลกกับโคกระบือชายแดนที่หมู่บ้านสบคำ ต.เวียง อ.เชียงแสน ชายแดนไทย-สปป.ลาว
ต่อมาตำรวจ สภ.เชียงแสน พบว่ามีผู้พบศพชายไม่ทราบชื่อ สภาพถูกยิงจนเสียชีวิตและนำศพไปฝังดินที่ร่องน้ำภายในหมู่บ้านห้วยเกี๋ยง ต.เวียง อ.เชียงแสน เมื่อนำศพไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ปรากฎว่าเป็นศพของนายธีรพงษ์ ที่ภรรยาได้แจ้งหายเอาไว้
ต่อมาตำรวจจึงได้สืบสวนสอบสวนจนกระทั่งทราบว่าก่อนหน้านี้ได้มีคนร้ายพยายามจะอุ้มฆ่านายธีรพงษ์มาแล้วแต่ไม่สำเร็จ จึงได้มีการหลอกให้นายธีรพงษ์ไปทำธุรกิจชายแดน โดยยื่นข้อเสนอให้นำรถยนต์ไปแลกกับโคกระบือเพื่อทำกำไร ทำให้นายธีรพงษ์ หลงเชื่อและนำรถออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2551 และไม่กลับเข้าบ้านอีกเลย รวมทั้งพบว่าทรัพย์สินของนายธีรพงษ์ ที่หายไปได้แก่ ทองคำรูปพรรณและอื่นๆ จำนวนหนึ่งคนร้ายได้นำไปจำหน่ายที่ จ.เชียงใหม่ แล้ว
หลังจากตำรวจได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมดแล้วจึงเห็นว่าเพียงพอจึงได้ขอหมายจับจากศาล จ.เชียงราย ทำการจับกุมบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งก็คือผู้ต้องหาทั้ง 5 คนดังกล่าว และได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมดว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุอันควร
แต่ทั้งหมดให้การปฏิเสธเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางทำการฝากขังเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป