เริ่มชัดเจนขึ้น หลังเหตุการณ์คนร้ายถล่มอาวุธสงครามหมายสังหาร “สนธิ ลิ้มทองกุล” พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ปริศนา 3 ปลอก บอกที่มาชัดเจน เป็นของ ROYAL THAI ARMY ผลิตโดยสรรพาวุธทหารบก เป็นซีรีส์ส่งให้เฉพาะทหารหน่วยหนึ่งเท่านั้น เชื่อเป็นเหตุบังเอิญปล่อยกระสุนเอ็ม 16 หลุด ทั้งที่ตั้งใจนำมาใช้เฉพาะยิงเอ็ม 79 เท่านั้น ขณะเดียวกัน พบพยานสำคัญเห็นเหตุการณ์โดยตลอดตั้งแต่ต้น และคนร้ายหันปากกระบอกปืนลั่นไกมาหมายเก็บด้วย แต่โชคดีหลบได้ทัน
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่ม นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งผ่านล่วงเลยมาเป็นวันที่ 6 แล้ว โดยมีรายงานข่าวจากชุดสืบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าว แจ้งว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ตรวจพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ขนาด 5.56 มม.จำนวน 3 ปลอก ซึ่ง 2 ใน 3 เป็นกระสุนที่ผลิตโดยกรมสรรพาวุธทหารบก มีการตีตราสัญลักษณ์ (RTA) ซึ่งมาจากว่า ROYAL THAI ARMY และเป็นซีรีส์ที่ส่งให้เฉพาะหน่วยทหารหน่วยหนึ่งในสังกัดกองทัพภาคที่ 1 (ทภ.1)ใช้เท่านั้น นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบกระสุนปืนอาก้าที่ตกอยู่หลายสิบปลอก แต่ไม่สามารถตรวจสอบที่มาได้เนื่องจากกระสุนปืนชนิดนี้ไม่มีประจำการในหน่วยราชการของไทย
อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์แนวทางการสืบสวนเชื่อว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ใช้ปืนอาก้าเป็นอาวุธหลักในการสังหารนายสนธิ เพราะเป็นอาวุธปืนสงครามที่อำนาจการทะลุทะลวงสูง อีกทั้งไม่มีข้อมูลในสารบบ เนื่องจากเป็นอาวุธปืนจากประเทศรัสเซีย ที่หาซื้อได้ง่ายตามแนวชายแดน การติดตามที่มาของอาวุธทำได้ยาก แต่กระสุนปืนเอ็ม 16 ที่พบน่ามาจากปืนเอ็ม 203 ซึ่งเป็นปืนเอ็ม 16 ประกอบเครื่องยิงลูกระเบิด เอ็ม 79 ไว้ที่ด้านล่างของลำรางปืน ซึ่งคนร้ายน่าจะนำมาใช้เพื่อยิงลูกระเบิดถล่มรถยนต์ของนายสนธิ โดยไม่ได้ตั้งใจจะยิงปืนเอ็ม 16 น่าจะเป็นการบังเอิญยิงออกไปเท่านั้นจึงมีปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุเพียง 3 ปลอกเท่านั้น
รายงานข่าวระบุอีกว่า ในส่วนความคืบหน้าของคดีนอกจากเด็กปั๊มที่เห็นเหตุการณ์ 2 คนแล้ว ชุดสืบสวนยังได้พยานปากสำคัญซึ่งเห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดตั้งแต่คนร้ายเริ่มลงมือจนเหตุการณ์ยุติ ซึ่งคนร้ายได้พยายามสังหารพยานโดยการยิงใส่แต่พยานหลบทัน ขณะนี้พยานคนดังกล่าวอยู่ในการคุ้มครองของชุดสืบสวนนครบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่ม นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งผ่านล่วงเลยมาเป็นวันที่ 6 แล้ว โดยมีรายงานข่าวจากชุดสืบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าว แจ้งว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ตรวจพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ขนาด 5.56 มม.จำนวน 3 ปลอก ซึ่ง 2 ใน 3 เป็นกระสุนที่ผลิตโดยกรมสรรพาวุธทหารบก มีการตีตราสัญลักษณ์ (RTA) ซึ่งมาจากว่า ROYAL THAI ARMY และเป็นซีรีส์ที่ส่งให้เฉพาะหน่วยทหารหน่วยหนึ่งในสังกัดกองทัพภาคที่ 1 (ทภ.1)ใช้เท่านั้น นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบกระสุนปืนอาก้าที่ตกอยู่หลายสิบปลอก แต่ไม่สามารถตรวจสอบที่มาได้เนื่องจากกระสุนปืนชนิดนี้ไม่มีประจำการในหน่วยราชการของไทย
อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์แนวทางการสืบสวนเชื่อว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ใช้ปืนอาก้าเป็นอาวุธหลักในการสังหารนายสนธิ เพราะเป็นอาวุธปืนสงครามที่อำนาจการทะลุทะลวงสูง อีกทั้งไม่มีข้อมูลในสารบบ เนื่องจากเป็นอาวุธปืนจากประเทศรัสเซีย ที่หาซื้อได้ง่ายตามแนวชายแดน การติดตามที่มาของอาวุธทำได้ยาก แต่กระสุนปืนเอ็ม 16 ที่พบน่ามาจากปืนเอ็ม 203 ซึ่งเป็นปืนเอ็ม 16 ประกอบเครื่องยิงลูกระเบิด เอ็ม 79 ไว้ที่ด้านล่างของลำรางปืน ซึ่งคนร้ายน่าจะนำมาใช้เพื่อยิงลูกระเบิดถล่มรถยนต์ของนายสนธิ โดยไม่ได้ตั้งใจจะยิงปืนเอ็ม 16 น่าจะเป็นการบังเอิญยิงออกไปเท่านั้นจึงมีปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุเพียง 3 ปลอกเท่านั้น
รายงานข่าวระบุอีกว่า ในส่วนความคืบหน้าของคดีนอกจากเด็กปั๊มที่เห็นเหตุการณ์ 2 คนแล้ว ชุดสืบสวนยังได้พยานปากสำคัญซึ่งเห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดตั้งแต่คนร้ายเริ่มลงมือจนเหตุการณ์ยุติ ซึ่งคนร้ายได้พยายามสังหารพยานโดยการยิงใส่แต่พยานหลบทัน ขณะนี้พยานคนดังกล่าวอยู่ในการคุ้มครองของชุดสืบสวนนครบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว