ยะลา – ตำรวจตระเวนชายแดน อ.เบตง จ.ยะลา เข้าจับกุมชายไทย มีภูมิลำเนาอยู่ จ.ศรีสะเกษ จำนวน 10 คน กำลังกำลังขุดหลุมเพื่อปลุกต้นยางพารา บนพื้นที่ป่าต้นน้ำ ประมาณ 500 ไร่ 2 ผู้ต้องหาผ้ว่าจ้างชาย 10 คนสารภาพจ้างมาปลูกยาพาราในราคาต้นละ 30 บาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดไปดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (18 พ.ค.) พ.ต.ท.เชษฐวิทย์ นีระฮิง ผบ.ร้อย (สบ2) ร้อย ตชด.445 รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่บ้านไอลีแป ม.3 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ว่า มีการลักลอบเข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำในพื้นที่ ม.3 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลารอยต่อ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา จึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุมโดยมอบหมายให้ร.ต.ท.กำแหง บุญสนิท หน. ชฝต.4404 ร.ต.อุทิศ ฐิตะสาร ผบ.มว.ม.1 ฉก.ยะลา 16 พร้อมกำลังทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน445 เบตง สนธิกำลังกับหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ยะลา 4 (บังนังสตา) จำนวน 40 นาย ลาดตระเวนในพื้นที่ดังกล่าว
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบชายจำนวน 10 คน ประกอบด้วย 1.นายบือราเฮง ลอแม อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134/1 ม.5 ต.เกียร์ อ.สุคีริน จว.นราธิวาส 2.นายมะรอบี มอเลง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/6 ม.2 ต.ปะโด อ.มายอ จ.ปัตตานี 3.นายเสาร์ ธรรมชาติ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ม.4 ต.ปราสาท อ.ห้วยทับทิม จ.ศรีสะเกษ 4.นายสมศักดิ์ ยอดพวง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 ม.2 ต.กล้วยกว้าง อ.ห้วยทับทิม จ.ศรีสะเกษ 5.นายประสิทธิ์ พวงยอด อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 ม.2 ต.กล้วยกว้าง อ.ห้วยทับทิม จ.ศรีสะเกษ 6.นายสำฤทธิ์ สมหนองบัว อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.2 ต.กล้วยกว้าง อ.ห้วยทับทิม จ.ศรีสะเกษ 7.นายบุญนำ อำตำงาม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/1 ม.11 ต.กล้วยกว้าง อ.ห้วยทับทิม จ.ศรีสะเกษ 8.นายสุบรรณ์ บุญโจม อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/1 ม.2 ต.กล้วยกว้าง อ.ห้วยทับทิม จ.ศรีสะเกษ 9. นายมา ธรรมชาติ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ม.4 ต.ปราสาท อ.ห้วยทับทิม จ.ศรีสะเกษ 10.นายถาวร ธรรมชาติ อายุ 34 อยู่บ้านเลขที่ 16 ม.4 ต.ปราสาท อ.ห้วยทับทิม จ.ศรีสะเกษ กำลังขุดหลุมเพื่อปลุกต้นยางพารา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าแสดงตัวทำการจับกุม
ภายหลังจากการจับกุม จนท.ได้ทำการตรวจสอบพื้นที่พบมีพื้นที่การบุกรุกทำลายพื้นที่ป่าต้นน้ำประมาณกว่า 500 ไร่ โดยกลุ่มผู้กระทำผิดได้ใช้วิธีการถากเปลือกของต้นไม้ทิ้งออกไป และนำน้ำยาฆ่าตอราดลงรอบบริเวณต้นไม้ทิ้ง เพื่อให้ต้นไม้ยืนต้นตาย ต่อจากนั้นได้ทำการโค่นถางทำลายและเผา พร้อมทั้งขุดร่องทำคันดินเป็นถนนและแบ่งเป็นแปลงเพื่อปลูกต้นยางพารา ประมาณกว่า 500 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อรัฐประมาณ 75,000,000 บาท ในที่เกิดเหตุพบของกลางเป็นมีดพร้าพร้อมด้าม จำนวน 5 เล่ม มีดพร้าไม่มีด้าม จำนวน 2 เล่ม จอบพร้อมด้าม จำนวน 5 เล่ม ต้นกล้ายางพารา จำนวน 30 ต้น รถจักรยานยนต์ ยีห้อฮอนด้า เทน่า ซุปเปอร์ หมายเลขทะเบียน กพษ 669 ปัตตานี จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ ยีห้อฮอนด้า เวฟ 100 เอส หมายเลขทะเบียน ขขน. 365 นราธิวาส จำนวน 1 คันรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เอ็กแอล 125 จำนวน 1 คัน เงินค่าจ้างในการแผ้วถางป่างวดสุดท้ายจำนวน 6,000 บาท จนท.จึงได้อายัดไว้เป็นของกลาง
จากการสอบสวน นายบือราเฮง ลอแม และ นายมะรอบี มอเลง ทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่า ได้นำกล้ายางพารา เพื่อเข้าไปปลูกในพื้นที่ที่ได้แผ้วถางเผาไว้แล้ว โดยได้ว่าจ้างให้ผู้ถูกจับกุมทั้ง 10 คน เป็นคนขุดหลุมและปลูกต้นยางพาราในราคาต้นละ 30 บาท ซึ่งเงินค่าจ้างได้เบิกล่วงหน้าไปแล้วจำนวนหนึ่ง และที่เหลือจำนวน 6,000 บาท ได้เบิกจาก นายมะรอบี มอเลง เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมาเป็นงวดสุดท้ายซึ่งเหลือพื้นที่ปลูกอีกจำนวนหนึ่งก็จะทำการปลูกเสร็จแต่มาถูกจนท.จับกุมดังกล่าว ภายหลังจากทำการสอบสวน จนท.จึงดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป