ยะลา - สาธารณสุขอำเภอเมืองยะลา ระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ต.ยะลา หลังพบการแพร่ระบาดหนักของโรคชิคุนกุนยา
วันนี้ (17 พ.ค.) ที่บริเวณสถานีอนามัยตำบลยะลา อ.เมืองยะลา นางแพรวพรรณ บุษยามาลย์ สาธารณสุขอำเภอเมืองยะลา พร้อมด้วย นายสมุทร มอหาหมัด นายก อบต.ยะลา เรียก อสม.ประจำตำบลมาพบด่วน เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในการออกให้การช่วยเหลือผู้ป่วย โรคชิคุนกุนยา ที่กำลังระบาดหนัก ทุกบ้านในพื้นที่ ต.ยะลา หลังจาก ที่ทางชาวบ้านได้ร้องให้ นายก อบต.ร้องขอให้ผู้เกี่ยวข้อง ลงมาตรวจสอบและให้การรักษาโรคอย่างถูกทางวิชาการแพทย์ ป้องกันผู้ป่วยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ซื้อยามารักษาด้วยตนเอง เกรงเกิดอันตรายถึงชีวิตได้
หลังจากทำความเข้าใจกับ อสม.แล้ว สาธารณสุขอำเภอพร้อมด้วย จนท.สาธารณสุขประจำตำบล และ อสม. ได้ร่วมกันสำรวจผู้ป่วย เพื่อให้การรักษากันต่อไป และแจกทรายอะเบท ทำลายลูกน้ำยุงลาย และพ่นหมอกควันตามแหล่งเพาะพันธุ์ยุงในบริเวณรอบบ้านและสวนยางข้างบ้านด้วย
นางแพรวพรรณ บุษยามาลย์ สาธารณสุขอำเภอเมืองยะลา กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวมีการแพร่ระบาดของโรคชิคุนกุนยา ในตำบลยะลาแล้ว ได้ลงมาพบ อสม.เพื่อย้ำถึงแนวทางการทำงานและให้เข้าถึงผู้ป่วย เนื่องจากมีการแบ่งความรับผิดชอบกันแล้วว่า อสม.1 คน รับผิดชอบ 15 หลังคาเรือน เพื่อสำรวจว่าในเขตความรับผิดชอบมีผู้ป่วยกี่คน เข้ามารักษาตัวที่สถานีอนามัยกี่คน
หากพบว่าผู้ป่วยไปรักษาทีอื่น ก็ให้แนะนำมารักษาที่สถานีอนามัย พร้อมกับให้ จนท.อนามัย และ อสม.ร่วมกับ อบต.ลงไปพ่นยาและแนะนำเกี่ยวกับการปรับสภาพพื้นที่ในบริเวณบ้าน เนื่องจากยุงลายที่เป็นพาหนะของโรคมาจากยุงลายป่าหรือยุงลายสวน ส่วนตัวเลขที่มีข่าวว่ามีผู้ป่วยกว่าพันคน นั้น เป็นไปไม่ได้ แต่จะพยายามสำรวจหาผู้ป่วยที่ตัวเลขที่เป็นจริงโดยเร็ว แต่ยืนยันว่าไม่เกิน 100 ราย
ด้านนายสมุทร มอหาหมัด นายก อบต.ยะลา กล่าวว่า ผู้ป่วยบางคน ไม่ยอมไปหาหมอ ที่สถานีอนามัย หรือคลินิกแพทย์ แต่จะไปหาหมอเถื่อน ที่มีอยู่หลายแห่ง ทำให้บางคนไปฉีดยาถึงพิการก็มี ทั้งนี้มาจากที่ จนท.สาธารณสุขไม่ได้ลงไปค้นหาผู้ป่วยในหมู่บ้านด้วยตนเอง เพียงแต่ให้ อสม.ลงไปแทน ทำให้ชาวบ้านไม่มั่นใจในความรู้ความสามารถของ อสม.เกรงว่า อสม.จะให้ยาผิดๆถูกๆ ทำให้ผู้ป่วยต้องการความสะดวกความง่าย จึงไปหาหมอเถื่อนดังกล่าว
นายซอและห์ ตาปอ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านกูเบ ต.ยะลา เปิดเผยว่า ตนเองก็เป็นโรคร้ายนี้ด้วย พบว่ามีผู้ป่วยในหลายหมู่บ้าน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยเป็นๆ แล้วหาย แต่ยืนยันได้ว่ามีผู้ป่วยเกินกว่าจำนวนที่ทางราชการรายงานแน่นอน และยังไม่มี อสม.คนไหนมาดูแลผู้ป่วยในหมู่บ้านแต่อย่างใด อยากให้ทางราชการมาดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดด้วย
