นครศรีธรรมราช - หนุ่มใหญ่เมืองคอนถูกคนร้ายจอดกระบะรอยิงถล่มด้วยอาวุธสงครามริมถนน รอดหวุดหวิด ภรรยาเผยสามีเคยถูกลอบยิงที่กระบี่และเห็นผู้ลงมือชัดเจนเป็นคนมีสี 6 คน เตรียมเป็นพยานชั้นศาลปีหน้า ตร.คาดคนร้ายหวังฆ่าเพื่อตัดพยานปากสำคัญคดียิงครั้งแรก
วันนี้ (16 พ.ค.) เมื่อเวลา 00.20 น. พ.ต.ท.กรกช ชุมศรี สว.เวรสอบสวน สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุยิงถล่มบนถนนสายชลประทาน ม.9 ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม จากนั้นจึงเข้าทำการสอบสวนที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.คมศักดิ์ ตันธนกุล ผกก. พ.ต.ท.สมโภชน์ แก้วนิรนิตร รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.วุฒิพงศ์ ฐิติสโรจน์ รอง ผกก.สส. สายตรวจตำบล ชุดสืบสวนเข้าทำการตรวจสอบในที่เกิดเหตุทันที
เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุพบรถยนต์กระบะอีซูซุดีแม็กซ์ ตอนครึ่ง สีน้ำเงิน ทะเบียน บท-3010 นครศรีธรรมราช จอดอยู่ริมถนน ตัวรถด้านคนขับและด้านหลังมีรอยกระสุนปืนหลายรูด้วยกัน ส่วนที่นั่งผู้ขับขี่พบรอยเลือดจำนวนมาก ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ซึ่งใช้กับปืนเอ็ม 16 หรือเอชเค ตกอยู่จำนวนหนึ่ง ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวแจ้งว่าผู้บาดเจ็บญาติได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราช ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปถึงเพียงเล็กน้อย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงติดตามเข้าทำการสอบข้อมูลในเบื้องต้นทันที
ภายในตึกอุบัติเหตุโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช พบว่าแพทย์กำลังให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจนอยู่ในอาการปลอดภัย ทราบชื่อคือนายจิตร จันทร์ศิริวงศ์ อายุ 52 ปี อยู่ 169 ม.9 ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่แขนขวา 1 นัด สีข้างขวา 1 นัด สามารถให้การกับเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้นได้ นอกจากนั้นยังพบนางจรวย อำภาสุวรรณ อายุ 49 ปี ภรรยา ซึ่งอยู่ในรถขณะเกิดเหตุยังอยู่ในสภาพตื่นตระหนก
นางจรวย อำภาสุวรรณ ภรรยาผู้บาดเจ็บแจ้งว่าก่อนเกิดเหตุนั้นนายจิตรได้ขับรถคันดังกล่าวไปบ้านญาติห่างจากบ้านของตัวเองไปราว 1 กม.โดยมีตนเองนั่งคู่ไปในตอนหน้า เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเห็นว่ามีรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้สีบรอนซ์ทองจอดอยู่บนถนนเ มื่อเข้าไปใกล้ รถคันนั้นได้เปิดไฟสูงส่องสวนมา จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นติดต่อกันราว 10 นัด จึงรู้ว่านายจิตรถูกยิง หลังจากนั้นรถของคนร้ายได้ขับหลบหนีไปทันที เมื่อหันมาดูสามีพบว่าถูกยิงได้รับบาดเจ็บจึงขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านไปตามญาตินำรถมารับไปส่งยังโรงพยาบาลและถือว่ายังโชคดีที่คนร้ายไม่เข้ามายิงซ้ำถ้าเข้ามานั้นต้องเสียชีวิตอย่างแน่นอน
“ก่อนหน้านี้นายจิตรเคยทำสวนที่อำเภอแห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ และถูกยิงมาแล้ว 1 ครั้งแต่รอดตายมาได้ โดยที่นายจิตรสามารถจนจำคนร้ายที่ยิงในครั้งนั้นได้โดยพบว่าเป็นกลุ่มคนมีสีกลุ่มหนึ่งรวม 6 คนและเป็นเรื่องราวอยู่ในชั้นศาล โดยศาลจะนัดสืบพยานในเร็วๆ นี้ เป็นสาเหตุที่นายจิตรสามารถอยู่ใน จ.กระบี่ได้เนื่องจากเกรงว่าจะถูกตามเอาชีวิตจึงหนีกลับมาอยู่ที่บ้านเกิดเตรียมที่จะไปขึ้นศาลสืบพยานแต่ถูกกลุ่มคนร้ายตามมายิงอีกครั้ง” ภรรยาผู้บาดเจ็บแจ้งกับเจ้าหน้าที่
ขณะที่ พ.ต.ท.วุฒิพงศ์ ฐิติสโรจน์ รอง ผกก.สส.สภ.พระพรหม เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลในชั้นต้นพบประเด็นสำคัญในกรณีที่นายจิตรมีคดีความอยู่ในชั้นศาล และนายจิตรนอกจากจะเป็นผู้เสียหายแล้วยังเป็นประจักษ์พยานเพียงคนเดียวที่เห็นคนก่อเหตุกับเขา ซึ่งสามารถยืนยันได้โดยมีจำเลยในคดีดังกล่าวรวม 6 คน คดีความอยู่ในชั้นศาลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งศาลกระบี่ได้นัดสืบพยานในวันที่ 22 มีนาคม 2553 จากข้อมูลดังกล่าวพอประมวลเหตุการณ์สันนิษฐานได้ว่านายจิตรถือเป็นผู้เสียหายและประจักษ์พยานสำคัญที่สุดจะมัดกลุ่มคนมีสีดังกล่าวได้จึงเป็นไปได้ว่าจะถูกตามมาสังหารเพื่อปิดปากก่อนที่จะถึงนัดขึ้นศาล ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างสืบสวนหาข้อมูลในเชิงลึกเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินการ ส่วนนายจิตรจะถูกดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ต่อไปแล้ว
วันนี้ (16 พ.ค.) เมื่อเวลา 00.20 น. พ.ต.ท.กรกช ชุมศรี สว.เวรสอบสวน สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุยิงถล่มบนถนนสายชลประทาน ม.9 ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม จากนั้นจึงเข้าทำการสอบสวนที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.คมศักดิ์ ตันธนกุล ผกก. พ.ต.ท.สมโภชน์ แก้วนิรนิตร รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.วุฒิพงศ์ ฐิติสโรจน์ รอง ผกก.สส. สายตรวจตำบล ชุดสืบสวนเข้าทำการตรวจสอบในที่เกิดเหตุทันที
เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุพบรถยนต์กระบะอีซูซุดีแม็กซ์ ตอนครึ่ง สีน้ำเงิน ทะเบียน บท-3010 นครศรีธรรมราช จอดอยู่ริมถนน ตัวรถด้านคนขับและด้านหลังมีรอยกระสุนปืนหลายรูด้วยกัน ส่วนที่นั่งผู้ขับขี่พบรอยเลือดจำนวนมาก ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ซึ่งใช้กับปืนเอ็ม 16 หรือเอชเค ตกอยู่จำนวนหนึ่ง ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวแจ้งว่าผู้บาดเจ็บญาติได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราช ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปถึงเพียงเล็กน้อย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงติดตามเข้าทำการสอบข้อมูลในเบื้องต้นทันที
ภายในตึกอุบัติเหตุโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช พบว่าแพทย์กำลังให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจนอยู่ในอาการปลอดภัย ทราบชื่อคือนายจิตร จันทร์ศิริวงศ์ อายุ 52 ปี อยู่ 169 ม.9 ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่แขนขวา 1 นัด สีข้างขวา 1 นัด สามารถให้การกับเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้นได้ นอกจากนั้นยังพบนางจรวย อำภาสุวรรณ อายุ 49 ปี ภรรยา ซึ่งอยู่ในรถขณะเกิดเหตุยังอยู่ในสภาพตื่นตระหนก
นางจรวย อำภาสุวรรณ ภรรยาผู้บาดเจ็บแจ้งว่าก่อนเกิดเหตุนั้นนายจิตรได้ขับรถคันดังกล่าวไปบ้านญาติห่างจากบ้านของตัวเองไปราว 1 กม.โดยมีตนเองนั่งคู่ไปในตอนหน้า เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเห็นว่ามีรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้สีบรอนซ์ทองจอดอยู่บนถนนเ มื่อเข้าไปใกล้ รถคันนั้นได้เปิดไฟสูงส่องสวนมา จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นติดต่อกันราว 10 นัด จึงรู้ว่านายจิตรถูกยิง หลังจากนั้นรถของคนร้ายได้ขับหลบหนีไปทันที เมื่อหันมาดูสามีพบว่าถูกยิงได้รับบาดเจ็บจึงขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านไปตามญาตินำรถมารับไปส่งยังโรงพยาบาลและถือว่ายังโชคดีที่คนร้ายไม่เข้ามายิงซ้ำถ้าเข้ามานั้นต้องเสียชีวิตอย่างแน่นอน
“ก่อนหน้านี้นายจิตรเคยทำสวนที่อำเภอแห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ และถูกยิงมาแล้ว 1 ครั้งแต่รอดตายมาได้ โดยที่นายจิตรสามารถจนจำคนร้ายที่ยิงในครั้งนั้นได้โดยพบว่าเป็นกลุ่มคนมีสีกลุ่มหนึ่งรวม 6 คนและเป็นเรื่องราวอยู่ในชั้นศาล โดยศาลจะนัดสืบพยานในเร็วๆ นี้ เป็นสาเหตุที่นายจิตรสามารถอยู่ใน จ.กระบี่ได้เนื่องจากเกรงว่าจะถูกตามเอาชีวิตจึงหนีกลับมาอยู่ที่บ้านเกิดเตรียมที่จะไปขึ้นศาลสืบพยานแต่ถูกกลุ่มคนร้ายตามมายิงอีกครั้ง” ภรรยาผู้บาดเจ็บแจ้งกับเจ้าหน้าที่
ขณะที่ พ.ต.ท.วุฒิพงศ์ ฐิติสโรจน์ รอง ผกก.สส.สภ.พระพรหม เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลในชั้นต้นพบประเด็นสำคัญในกรณีที่นายจิตรมีคดีความอยู่ในชั้นศาล และนายจิตรนอกจากจะเป็นผู้เสียหายแล้วยังเป็นประจักษ์พยานเพียงคนเดียวที่เห็นคนก่อเหตุกับเขา ซึ่งสามารถยืนยันได้โดยมีจำเลยในคดีดังกล่าวรวม 6 คน คดีความอยู่ในชั้นศาลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งศาลกระบี่ได้นัดสืบพยานในวันที่ 22 มีนาคม 2553 จากข้อมูลดังกล่าวพอประมวลเหตุการณ์สันนิษฐานได้ว่านายจิตรถือเป็นผู้เสียหายและประจักษ์พยานสำคัญที่สุดจะมัดกลุ่มคนมีสีดังกล่าวได้จึงเป็นไปได้ว่าจะถูกตามมาสังหารเพื่อปิดปากก่อนที่จะถึงนัดขึ้นศาล ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างสืบสวนหาข้อมูลในเชิงลึกเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินการ ส่วนนายจิตรจะถูกดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ต่อไปแล้ว
