ตำรวจ สภ.พระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุยิงถล่มบนถนนสายชลประทาน หมู่ 9 ตำบลท้ายสำเภา อำเภอพระพรหม จึงเข้าสอบสวนที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะอีซูซุ สีน้ำเงินทะเบียน บท-3010 นครศรีธรรมราช จอดอยู่ริมถนนตัวรถด้านคนขับและด้านหลังมีรอยกระสุนปืนหลายรูด้วยกัน ส่วนที่นั่งผู้ขับขี่พบรอยเลือดจำนวนมาก ส่วนผู้บาดเจ็บญาติได้นำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราชก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปถึงเล็กน้อย ทราบชื่อคือนายจิตร จันทร์ศิริวงศ์ อายุ 52 ปี มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่แขนขวา 1 นัด สีข้างขวา 1 นัด สามารถให้การกับเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้นได้ นอกจากนั้น ยังพบนางจรวย อำภาสุวรรณ อายุ 49 ปี ภรรยา ซึ่งอยู่ในรถขณะเกิดเหตุยังอยู่ในสภาพตื่นตระหนก
นางจรวย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ นายจิตรได้ขับรถคันดังกล่าวไปบ้านญาติห่างจากบ้านของตัวเองราว 1 กิโลเมตร โดยมีตนนั่งคู่ไปในตอนหน้า เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเห็นว่ามีรถยนต์กระบะโตโยต้าสีบรอนซ์ทองจอดอยู่บนถนนเมื่อเข้าไปใกล้รถคันนั้นได้เปิดไฟสูงส่องสวนมา จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นติดต่อกันราว 10 นัด จึงรู้ว่านายจิตรถูกยิง ก่อนที่รถคนร้ายจะขับหลบหนีไปทันที โดยก่อนหน้านี้นายจิตรเคยทำสวนในจังหวัดกระบี่ และถูกยิงมาแล้ว 1 ครั้ง แต่รอดตายมาได้ โดยที่นายจิตรสามารถจำหน้าคนร้ายที่ยิงในครั้งนั้นได้ พบว่าเป็นกลุ่มคนมีสีกลุ่มหนึ่งรวม 6 คน และมีเรื่องราวอยู่ในชั้นศาล ซึ่งศาลจะนัดสืบพยานในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม นายจิตร กลัวว่าจะเป็นอันตราย จึงหลบมาอยู่บ้านเกิดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ก็ถูกตามสังหารอีก
ขณะที่ พ.ต.ท.วุฒิพงศ์ ฐิติสโรจน์ รอง ผกก.สส.สภ.พระพรหม เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลในชั้นต้นพบประเด็นสำคัญในกรณีที่นายจิตรมีคดีความอยู่ในชั้นศาล และนายจิตรนอกจากจะเป็นผู้เสียหายแล้วยังเป็นประจักษ์พยานเพียงคนเดียวที่เห็นคนก่อเหตุ ซึ่งสามารถยืนยันได้ ซึ่งศาลกระบี่ได้นัดสืบพยานในวันที่ 22 มีนาคม 2553 จากข้อมูลดังกล่าวพอประมวลเหตุการณ์ได้ว่า นายจิตรถือเป็นผู้เสียหายและพยานสำคัญที่สุดจะมัดกลุ่มคนมีสีดังกล่าวได้จึงเป็นไปได้ว่าจะถูกตามมาสังหารเพื่อปิดปากก่อนที่จะถึงนัดขึ้นศาล ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างสืบสวนหาข้อมูลในเชิงลึก เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินการ ส่วนนายจิตรจะถูกดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ต่อไป
นางจรวย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ นายจิตรได้ขับรถคันดังกล่าวไปบ้านญาติห่างจากบ้านของตัวเองราว 1 กิโลเมตร โดยมีตนนั่งคู่ไปในตอนหน้า เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเห็นว่ามีรถยนต์กระบะโตโยต้าสีบรอนซ์ทองจอดอยู่บนถนนเมื่อเข้าไปใกล้รถคันนั้นได้เปิดไฟสูงส่องสวนมา จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นติดต่อกันราว 10 นัด จึงรู้ว่านายจิตรถูกยิง ก่อนที่รถคนร้ายจะขับหลบหนีไปทันที โดยก่อนหน้านี้นายจิตรเคยทำสวนในจังหวัดกระบี่ และถูกยิงมาแล้ว 1 ครั้ง แต่รอดตายมาได้ โดยที่นายจิตรสามารถจำหน้าคนร้ายที่ยิงในครั้งนั้นได้ พบว่าเป็นกลุ่มคนมีสีกลุ่มหนึ่งรวม 6 คน และมีเรื่องราวอยู่ในชั้นศาล ซึ่งศาลจะนัดสืบพยานในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม นายจิตร กลัวว่าจะเป็นอันตราย จึงหลบมาอยู่บ้านเกิดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ก็ถูกตามสังหารอีก
ขณะที่ พ.ต.ท.วุฒิพงศ์ ฐิติสโรจน์ รอง ผกก.สส.สภ.พระพรหม เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลในชั้นต้นพบประเด็นสำคัญในกรณีที่นายจิตรมีคดีความอยู่ในชั้นศาล และนายจิตรนอกจากจะเป็นผู้เสียหายแล้วยังเป็นประจักษ์พยานเพียงคนเดียวที่เห็นคนก่อเหตุ ซึ่งสามารถยืนยันได้ ซึ่งศาลกระบี่ได้นัดสืบพยานในวันที่ 22 มีนาคม 2553 จากข้อมูลดังกล่าวพอประมวลเหตุการณ์ได้ว่า นายจิตรถือเป็นผู้เสียหายและพยานสำคัญที่สุดจะมัดกลุ่มคนมีสีดังกล่าวได้จึงเป็นไปได้ว่าจะถูกตามมาสังหารเพื่อปิดปากก่อนที่จะถึงนัดขึ้นศาล ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างสืบสวนหาข้อมูลในเชิงลึก เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินการ ส่วนนายจิตรจะถูกดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ต่อไป