นครศรีธรรมราช – สถานธนานุบาลเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เพิ่มเงินสำรองอีกกว่า 100 ล้าน ไว้ในช่วงเปิดเทอม หลังมีแนวโน้นจะมีผู้ปรครองใช้บริการเพิ่มมากขึ้น
วันนี้ (7 พ.ค.) นางณัฐริการ นุรักษ์ ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าในช่วงระหว่างเดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงก่อนเปิดภาคเรียนของนักเรียนใหม่ บรรดาผู้ปกครองต่างออกมาจับจ่ายซื้อตำราเรียน อุปกรณ์การเรียน เสื้อผ้านักเรียน เพื่อเตรียมตัวให้บุตรหลานได้นำไปใช้ในการศึกษาเล่าเรียน แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันมีความผันผวนเป็นอย่างมาก
ไม่ว่าน้ำมันจะแพงขึ้น ข้าวสารมีราคาสูงขึ้น เหล่านี้ส่งผลให้สินค้าดังกล่าว มีอัตราปรับตัวสูงขึ้น เป็นสองเท่า เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สถานธนานุบาล เป็นแหล่งเงินทุนสุดท้ายของบรรดาผู้ปกครอง สินค้าส่วนใหญ่ที่ผู้ปกครองนำมาจำนำ พบว่าทองรูปพรรณ จะนิยมนำมาจำนำสูงมาก ในราคาบาทละ 9,000 บาท มีเปอร์เซ็นต์สูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาเป็นพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ภายในบ้าน
“ยอดตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคม 2551 ที่ผ่านมา มียอดการรับจำนำ 11,802 ราย เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็นเงิน 42,557,300 บาท เพิ่มสูงขึ้นเกือบสองเท่า โดยในเดือนพฤษภาคม ซึ่งผ่านมาแค่ 5 วัน มีผู้มาใช้บริการมาก มีเงินกว่าหมุนเวียนออกไปแล้วกว่า 7 ล้านบาท แล้ว ซึ่งขณะนี้ทางสถานธนานุบาลได้มีงบสนับสนุนเพิ่มเติมมาจากเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มาอีก 100 ล้านบาท เพื่อเตรียมตัวรับช่วงเปิดเทอม ซึ่งอาจมียอดผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดของการไถ่ถอนน้อยลงจากปีที่แล้วเกือบเท่าตัว ส่วนใหญ่จะเป็นทองรูปพรรณที่ไม่ยอมมาไถ่ถอน” ผจก.สถานธนานุบาลนครศรีธรรมราช กล่าว
วันนี้ (7 พ.ค.) นางณัฐริการ นุรักษ์ ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าในช่วงระหว่างเดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงก่อนเปิดภาคเรียนของนักเรียนใหม่ บรรดาผู้ปกครองต่างออกมาจับจ่ายซื้อตำราเรียน อุปกรณ์การเรียน เสื้อผ้านักเรียน เพื่อเตรียมตัวให้บุตรหลานได้นำไปใช้ในการศึกษาเล่าเรียน แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันมีความผันผวนเป็นอย่างมาก
ไม่ว่าน้ำมันจะแพงขึ้น ข้าวสารมีราคาสูงขึ้น เหล่านี้ส่งผลให้สินค้าดังกล่าว มีอัตราปรับตัวสูงขึ้น เป็นสองเท่า เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สถานธนานุบาล เป็นแหล่งเงินทุนสุดท้ายของบรรดาผู้ปกครอง สินค้าส่วนใหญ่ที่ผู้ปกครองนำมาจำนำ พบว่าทองรูปพรรณ จะนิยมนำมาจำนำสูงมาก ในราคาบาทละ 9,000 บาท มีเปอร์เซ็นต์สูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาเป็นพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ภายในบ้าน
“ยอดตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคม 2551 ที่ผ่านมา มียอดการรับจำนำ 11,802 ราย เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็นเงิน 42,557,300 บาท เพิ่มสูงขึ้นเกือบสองเท่า โดยในเดือนพฤษภาคม ซึ่งผ่านมาแค่ 5 วัน มีผู้มาใช้บริการมาก มีเงินกว่าหมุนเวียนออกไปแล้วกว่า 7 ล้านบาท แล้ว ซึ่งขณะนี้ทางสถานธนานุบาลได้มีงบสนับสนุนเพิ่มเติมมาจากเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มาอีก 100 ล้านบาท เพื่อเตรียมตัวรับช่วงเปิดเทอม ซึ่งอาจมียอดผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดของการไถ่ถอนน้อยลงจากปีที่แล้วเกือบเท่าตัว ส่วนใหญ่จะเป็นทองรูปพรรณที่ไม่ยอมมาไถ่ถอน” ผจก.สถานธนานุบาลนครศรีธรรมราช กล่าว
