พิษณุโลก - โรงจำนำเทศบาลนครพิษณุโลกเตรียมงบ 77 ล้านบาท รับเปิดเทอมใหม่ รองรับคนแห่จำนำของ ขณะที่ทองรูปพรรณยังเป็นสินค้ายอดฮิต ตึ้งโรงจำนำ
นายวิเชียร ภาสุรเมธี เป็นผู้จัดการสถานธนานุบาล 1 กล่าวว่า สถานธนานุบาล 1 จัดเตรียมงบประมาณจำนวน 35 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครอง ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่จะนำสิ่งของมาจำนำ ส่วนใหญ่จะเป็นทรัพย์สินประเภททองคำมากที่สุด เพราะสะดวกสบาย และดอกเบี้ยต่ำ รองลงมาเป็นประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
สำหรับอัตราดอกเบี้ย เงินต้นไม่เกิน 4,000 บาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 75 สตางค์ เงินต้นเกินกว่า 4,000-30,000 บาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1 บาท และเงินต้นเกินกว่า 30,000-100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.25 บาท จากสถิติมีประชาชนเข้ามาใช้บริการในเดือนเมษายน (ณ วันที่ 29 เมษายน 2552) จำนวน 1,700 คน และคาดว่าในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมจะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการมากเป็นพิเศษเช่นทุกปี
นางภูวะนาศ สวนสวัสดิ์ ผู้จัดการสถานธนานุบาล 2 กล่าวว่า สถานธนานุบาลได้จัดเตรียมงบประมาณไว้กว่า 42 ล้านบาท สำหรับอัตราดอกเบี้ย เงินต้นไม่เกิน 4,000 บาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 75 สตางค์ เงินต้นเกินกว่า 4,000-30,000 บาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1 บาท และเงินต้นเกินกว่า 30,000 -100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.25 บาท จากสถิติมีประชาชนเข้ามาใช้บริการในเดือนเมษายน (ณ วันที่ 29 เมษายน 2552) จำนวน 1,400 คน ทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่นำมาจำนำเป็นทองคำ 99.5 % โดยรับจำนำบาทละ 11,000 บาท สำหรับประชาชนที่ต้องการใช้บริการสามารถติดต่อได้ที่สถานธนานุบาลของเทศบาลนครพิษณุโลกทั้ง 2 แห่ง
นางเปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก กล่าวว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ราคาสินค้าอุปโภค บริโภค มีการปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับในช่วงนี้อยู่ในระหว่างเตรียมเปิดภาคเรียนใหม่ ผู้ปกครองส่วนใหญ่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ดังนั้น สถานธนานุบาล เทศบาลนครพิษณุโลก ทั้ง 2 แห่ง จึงได้มีการจัดเตรียมงบประมาณรวม 77 ล้านบาท เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการที่สถานธนานุบาลทั้งสองแห่งเพิ่มมากขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่เป็นช่วงใกล้เปิดภาคเรียน อันจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการช่วยเหลือประชาชนที่มีต้องการใช้เงินในการใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษาเล่าเรียน
นายวิเชียร ภาสุรเมธี เป็นผู้จัดการสถานธนานุบาล 1 กล่าวว่า สถานธนานุบาล 1 จัดเตรียมงบประมาณจำนวน 35 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครอง ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่จะนำสิ่งของมาจำนำ ส่วนใหญ่จะเป็นทรัพย์สินประเภททองคำมากที่สุด เพราะสะดวกสบาย และดอกเบี้ยต่ำ รองลงมาเป็นประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
สำหรับอัตราดอกเบี้ย เงินต้นไม่เกิน 4,000 บาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 75 สตางค์ เงินต้นเกินกว่า 4,000-30,000 บาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1 บาท และเงินต้นเกินกว่า 30,000-100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.25 บาท จากสถิติมีประชาชนเข้ามาใช้บริการในเดือนเมษายน (ณ วันที่ 29 เมษายน 2552) จำนวน 1,700 คน และคาดว่าในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมจะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการมากเป็นพิเศษเช่นทุกปี
นางภูวะนาศ สวนสวัสดิ์ ผู้จัดการสถานธนานุบาล 2 กล่าวว่า สถานธนานุบาลได้จัดเตรียมงบประมาณไว้กว่า 42 ล้านบาท สำหรับอัตราดอกเบี้ย เงินต้นไม่เกิน 4,000 บาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 75 สตางค์ เงินต้นเกินกว่า 4,000-30,000 บาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1 บาท และเงินต้นเกินกว่า 30,000 -100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.25 บาท จากสถิติมีประชาชนเข้ามาใช้บริการในเดือนเมษายน (ณ วันที่ 29 เมษายน 2552) จำนวน 1,400 คน ทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่นำมาจำนำเป็นทองคำ 99.5 % โดยรับจำนำบาทละ 11,000 บาท สำหรับประชาชนที่ต้องการใช้บริการสามารถติดต่อได้ที่สถานธนานุบาลของเทศบาลนครพิษณุโลกทั้ง 2 แห่ง
นางเปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก กล่าวว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ราคาสินค้าอุปโภค บริโภค มีการปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับในช่วงนี้อยู่ในระหว่างเตรียมเปิดภาคเรียนใหม่ ผู้ปกครองส่วนใหญ่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ดังนั้น สถานธนานุบาล เทศบาลนครพิษณุโลก ทั้ง 2 แห่ง จึงได้มีการจัดเตรียมงบประมาณรวม 77 ล้านบาท เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการที่สถานธนานุบาลทั้งสองแห่งเพิ่มมากขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่เป็นช่วงใกล้เปิดภาคเรียน อันจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการช่วยเหลือประชาชนที่มีต้องการใช้เงินในการใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษาเล่าเรียน
